เป็นข่าวมงคลปกเกล้าปกกระหม่อมพสกนิกกรชาวไทย, “ในหลวง-พระราชินี”พระราชทานเงิน 42 ล้านบาท ก่อสร้างอาคารโรงพยาบาลพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ที่เสียหายจากถูกกระสุนปืนใหญ่ของทหารกัมพูชาถล่ม
ข่าวนี้เผยแพร่เมื่อวันที่ 6 ตุลาคมเมื่อวานนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี เชิญเงินพระราชทาน จำนวน 42,000,000บาท (สี่สิบสองล้านบาท) ไปมอบแก่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์
เงินพระราชทานก้อนนี้ สำหรับใช้เป็นค่าดำเนินการก่อสร้างอาคารของโรงพยาบาลพนมดงรัก 2 อาคาร ที่ได้รับความเสียหาย คือ อาคารภูมิพัฒน์ และอาคารแฟลตที่พักพยาบาล
อาคารภูมิพัฒน์ ที่ถูกกัมพูชาโจมตีจากการก่อสงครามรุกรานไทย ในการเปิดฉากวันแรกเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 อันเป็นการโจมตีเป้าหมายทางพลเรือน ซึ่งนายภูมิธรรม เวชยชัย เมื่อครั้งรักษาการนายกรัฐมนตรี ได้เคยพูดถึงเรื่องนี้เหมือนเป็นการแก้ต่างให้กัมพูชา ว่าเป็นการยิงปืนใหญ่แบบกระจัดกระจัดจากความไม่มีวินัยของทหารกัมพูชานั้น เป็นอาคารสูง 2 ชั้น ใช้ในการปฏิบัติงานจิตเวช ยาเสพติด จัดแสดงนิทรรศการ และกิจกรรมชุมชน
อาคารหลังนี้ ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดของกระสุนปืนใหญ่ ส่งผลต่อความมั่นคงแข็งแรงของตัวอาคาร หากจะบูรณะซ่อมแซมและปรับปรุง อาจจะไม่คุ้มค่า จึงต้องดำเนินการก่อสร้างใหม่ โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 12,000,000 บาท (สิบสองล้านบาท)
ส่วนอีกอาคารหนึ่ง คือแฟลตที่พักพยาบาลนั้น เป็นอาคารสูง 3 ชั้น ใช้เป็นที่พักอาศัยของบุคลลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลฯ ซึ่งเป็นจุดที่กระสุนปืนใหญ่ตกใส่บริเวณด้านหลังอาคาร ทำให้พื้นผนัง ฝ้าเพดาน กระจกประตู-หน้าต่าง รวมทั้งโครงสร้างอาคารได้รับความเสียหายจากแรงระเบิด
และก็อีกเช่นกัน หากจะบูรณะซ่อมแซมและปรับปรุง ก็ไม่คุ้มค่า โดยจะมีการก่อสร้างใหม่เป็นอาคารสูง 5 ชั้น เพื่อรองรับบุคลากรของโรงพยาบาลที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 30,000,000บาท (สามสิบล้านบาท) ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ตั้งงบประมาณสนับสนุนวัสดุ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ตลอดจนเครื่องมือแพทย์ที่เสียหายทั้งหมด
หากย้อนกลับไปในวันที่กัมพูชาเปิดฉากก่อสงครามรุกรานไทยเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ทหารกัมพูชาได้ใช้อาวุธหนัก ทั้งปืนใหญ่ และจรวดหลายลำกล้อง“BM21” ถล่มเข้ามาในฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่ 4 จังหวัดที่ติดชายแดนไทย-กัมพูชา คือ สุรินทร์, ศรีสะเกษ, บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี
เฉพาะที่อำเภอพนมดงรัก ทหารกัมพูชาใช้จรวดหลายลำกล้องถล่มเป้าหมายพลเรือน กระสุนได้ตกใส่บ้านเรือนประชาชนคนไทย และอาคารโรงพยาบาลพนมดงรัก โดยมีพลเรือนเสียชีวิต 1 ราย และเด็กอายุ 5ขวบได้รับบาดเจ็บสาหัส รวมทั้งทหารไทยบาดเจ็บอีก 7 นาย
เมื่อประมวลเหตุการณ์ทั้งหมดเฉพาะอำเภอพนมดงรัก ตั้งแต่วันแรกที่กัมพูชาเปิดฉากรุกรานไทยในวันที่ 24 กรกฎาคมจนถึงวันลงนามหยุดยิงในวันที่ 28 กรกฎาคม2568 มีกระสุนปืนใหญ่ของกัมพูชายิงถล่มเข้ามาถึง 228 ลูก และมีที่ยังไม่แตกอีก 10 ลูก
ทั้งนี้ มีประชากรชาวอำเภอพนมดงรัก ใน 55 หมู่บ้าน ได้รับผลกระทบจำนวน 37,000 คน โดยต้องอพยพหลบภัยไปอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงที่อำเภอเมืองสุรินทร์ และอำเภอปราสาท รวม 27 แห่ง ซึ่งนอกจากโรงพยาบาลพนมดงรักจะได้รับความเสียหายแล้ว บ้านเรือนชาวบ้านยังเสียหายจากแรงระเบิด 26 หลัง
สรุปภาพรวมแค่วันแรกในวันที่ 24 กรกฎาคม2568 เพียงวันเดียว จากการที่ฝ่ายกัมพูชาใช้ปืนใหญ่ และจรวดหลายลำกล้อง“BM-21” ถล่มเป้าหมายพลเรือนไทย ทั้งโรงพยาบาล บ้านเรือนประชาชน ร้านค้า และโบราณสถาน ใน 4 จังหวัดชายแดนไทยนั้น ส่งผลให้ประชาชนไทยผู้บริสุทธ์ มีทั้งเด็กและผู้หญิงรวมอยู่ด้วย ต้องตกเป็นเหยื่อรับเคราะห์กรรม เสียชีวิตทั้งหมด 13 ราย บาดเจ็บ 45 ราย ซึ่งไม่นับรวมทหารที่เสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บ 15 นาย
การกระทำดังกล่าวของกัมพูชา โดยทรราช“2 พ่อลูกตระกูลฮุน” คือ“ฮุน เซน-ฮุนมาเนต” ถือเป็นการละเมิดหลักการของกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งกำหนดให้การโจมตีทางทหารกระทำได้เฉพาะต่อเป้าหมายทางทหาร (Military Objectives)เท่านั้น ไม่ใช่เป้าหมายพลเรือน
อย่างไรก็ตาม ถึงวันนี้ตัวการใหญ่คือ“ฮุนเซน”ซึ่งเป็นอาชญากรสงคราม ที่ก่อสงครามรุกรานไทย ก็ยังลอยหน้าลอยตา และโกหกมดเท็จตามสันดาน“อสรพิษ”ผู้มีลิ้นสองแฉก จากการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Samdech Hun Sen of Cambodia” เมื่อวันที่ 6 ตุลาคมเมื่อวานนี้ กล่าวหาคนไทยว่า “ชั่วร้ายไร้มนุษยธรรมและเลวร้ายยิ่งกว่าสัตว์” อันเนื่องมาจากมีการนำภาพใบหน้าของ“ฮุนเซน”เป็นเป้ายิงปืน..และถูกเผยแพร่ในคลิปวิดีโอ
ในเฟซบุ๊ก“Samdech Hun Sen of Cambodia”ดังกล่าว “ฮุนเซน”ยังได้ยกหางตนเองอีกว่า “พี่น้องของเราบางคนขอให้ผมตอบโต้ ด้วยการถ่ายภาพพระมหากษัตริย์ไทยเหมือนที่คนไทยบางคนทำ ผมยังได้วิงวอนเพื่อนร่วมชาติของเรา อย่านำพระมหากษัตริย์ไทยหรือภาพถ่ายของผู้นำไทยไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม แม้ประเทศของเราจะเล็ก ประชากรน้อย และเศรษฐกิจอ่อนแอ แต่เราไม่ได้อ่อนแอทางศีลธรรม เราต้องรักษาชาติอันสูงส่งและมีคุณธรรมอันสูงส่งต่อไป”
เห็นความ“โอหัง” แบบ“จองหองพองขน”ของอสรพิษที่ชื่อ“ฮุนเซน”ผู้กลับกลอกแล้ว มันน่าเอา“ไข่”ไปหยอดลงกลางคฤหาสน์ในกรุงพนมเปญ จะได้สิ้นซากสิ้นชื่อไปเสียที !
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี