วันอังคาร ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / กวนน้ำให้ใส
กวนน้ำให้ใส

กวนน้ำให้ใส

สารส้ม
วันอังคาร ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 02.00 น.
ทวงค่าเสียหายข้าวจีทูจีเก๊คืนแผ่นดิน รวมกว่า 3 หมื่นล้านบาท

ดูทั้งหมด

  •  

นายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล ประกาศกลางที่ประชุมรัฐสภา ระหว่างแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ระบุว่า

“ขอให้มั่นใจ ผมจะไม่มีวันใช้อำนาจหน้าที่ในตำแหน่ง รมว.มท. หรือนายกฯ ที่กำกับดูแลทุกกระทรวงในรัฐบาลนี้ ไปให้พวกเขาช่วยเหลือใครก็ตามที่ทำผิดกฎหมาย


อย่าว่าแต่พวกผมเลย พวกท่านก็ช่วยไม่ได้” – นายกฯอนุทิน 30 กันยายน 2568

สื่อความหมายชัดเจน เป็นสัญญาประชาคม ว่าจะบังคับใช้กฎหมายอย่างตรงไปตรงมา ไม่ช่วยเหลือเอื้อประโยชน์นักการเมืองฝ่ายใด

แต่การกระทำ ย่อมเสียงดังกว่าคำพูด

ถ้านายกฯอนุทินเอาจริง ควรเริ่มจากคดีที่ศาลมีคำพากษาถึงที่สุดแล้ว

ทำจริงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ แล้วศรัทธาของประชาชนจะตามมา เป็นแบบอย่าง เป็นบรรทัดฐาน

ตัวอย่างกรณีที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตระบายข้าวรัฐต่อรัฐ หรือกรณีขายข้าวจีทูจีเก๊

ศาลพิพากษาเอาผิดผู้เกี่ยวข้อง ติดคุกติดตะราง คดีถึงที่สุดแล้ว บางคนยังติดคุก บางคนยังหลบหนี บางคนลุ้นจีทูจีลอตสองอีก

แต่ที่แน่ๆ ในส่วนของค่าเสียหาย และค่าสินไหมทดแทน ที่รัฐจะต้องติดตามเรียกคืนแผ่นดินจากผู้เกี่ยวข้อง ยังไม่ปรากฏความคืบหน้า

รัฐบาลชุดปัจจุบัน ควรเป็นธุระปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติ ติดตามเอาเงินคืนแผ่นดิน

จะเอามาเป็นทุนก่อสร้างรั้วพรมแดนไทย-กัมพูชา ก็ยังได้

1. อย่าลืมว่า โครงการจำนำข้าว “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ ยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ” ทิ้งความเสียหายไว้กับประเทศชาติมหาศาล เป็นผลจากการทุจริต ทำให้รัฐขาดทุนมากกว่าที่ควรจะเป็น

ปัจจุบัน รัฐยังมีภาระจะต้องใช้หนี้คืน ธ.ก.ส.อยู่อีกเกือบ 2 แสนล้านบาท

ที่ผ่านมา การยึดทรัพย์นักการเมืองที่กระทำผิดในคดีทุจริตระบายข้าวจีทูจีเก๊ มี 2 แบบ ได้แก่ ยึดทรัพย์อันเนื่องมาจากร่ำรวยผิดปกติ และถูกเรียกค่าเสียหายชดใช้คืนแผ่นดิน

2. นายภูมิ สาระผล ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดคดีร่ำรวยผิดปกติ ยึดทรัพย์ 19 ล้านบาท

คณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสาร พยานหลักฐาน และความเห็นไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติตกเป็นของแผ่นดิน

อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ยังไม่สิ้นสุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์ จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาตัดสินชี้ขาด

3. หมอโด่ง นายวีระวุฒิ วัจนะพุกกะ คดีร่ำรวยผิดปกติ ยึดทรัพย์ 896 ล้านบาท

ทรัพย์สินดังกล่าว ประกอบด้วย เงินฝากธนาคารพาณิชย์ในชื่อ พ.ต.วีระวุฒิ อดีตคู่สมรส บุตร เครือญาติและผู้ใกล้ชิด จำนวน 53 บัญชี คิดเป็นเงินรวมมูลค่ากว่า 567 ล้านบาท, เงินลงทุนในชื่อพ.ต.วีระวุฒิ อดีตคู่สมรส บุตร เครือญาติและผู้ใกล้ชิดจำนวน 6 แห่ง มูลค่ากว่า 260 ล้านบาท, ที่ดินในชื่ออดีตคู่สมรส บุตร เครือญาติ จำนวน 12 แปลง ในกรุงเทพฯ มูลค่ามากกว่า 57 ล้านบาท, ห้องชุดในชื่อเครือญาติ ได้แก่ ห้องชุดชื่อศาลาแดง โคโลเนต สีลม กรุงเทพฯ 1 ห้อง มูลค่า 6.2 ล้านบาท, รถยนต์ 6 คัน ในชื่อของเครือญาติและผู้ใกล้ชิด มูลค่ามากกว่า 6.3 ล้านบาท

ศาลฎีกาฯ พิพากษาให้ทรัพย์สินตามรายการที่ ป.ป.ช.ชี้มูล “...รวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมด๘๙๖,๕๕๔,๗๖๐.๒๘ บาท พร้อมดอกผลของทรัพย์สินที่เกิดขึ้น ให้ตกเป็นของแผ่นดิน หากไม่สามารถบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินดังกล่าวได้ทั้งหมดหรือได้แต่บางส่วน ให้บังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินอื่นของผู้ถูกกล่าวหาได้ภายในอายุความสิบปี แต่ต้องไม่เกินมูลค่าของทรัพย์สินที่ศาลสั่งให้ตกเป็นของแผ่นดิน..” – คำพิพากษาคดีหมายเลขแดงที่ อม.122/2562

จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีรายงานผลว่า ติดตามยึดทรัพย์ได้คืนแผ่นดินจริงๆ เท่าไหร่?

ส่วนโทษจำคุก ขณะนี้ หมอโด่งก็ยังหลบหนีต่อไป

นอกจากนี้ คดีข้าวจีทูจีลอตสอง หมอโด่งถือเป็นตัวละครสำคัญในการระบายข้าวจีทูเจี๊ยะ ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยมีตำแหน่งอยู่ในกรรมการสำคัญเกี่ยวกับการระบายข้าวยุคยิ่งลักษณ์โดยตลอดต่อเนื่อง ราวกับเป็นผู้กุมอำนาจตัวจริง หรือเป็นผู้เล่นสายตรงของใครสักคนที่มีอำนาจในขณะนั้น

4. คดีค่าสินไหมทดแทนข้าวจีทูจี 2 หมื่นล้านบาท

เจ้าหน้าที่รัฐ 5 คน คือ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ นายภูมิ สาระผล นายมนัส สร้อยพลอย นายทิฆัมพร นาทวรทัต และนายอัฐฐิติพงศ์ หรืออัครพงศ์ ทีปวัชระ ได้รับคำสั่งให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนความเสียหายกรณีระบายข้าวจีทูจี

ศาลปกครองกลาง พิพากษาให้บุคคลเหล่านี้ต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทน นายมนัส สร้อยพลอย ชดใช้ 4,011 ล้านบาท, นายทิฆัมพร นาทวรทัต ชดใช้ 4,011 ล้านบาท, นายอัครพงศ์ ทีปวัชระ ชดใช้ 2,694 ล้านบาท, นายภูมิ สาระผล ชดใช้ 2,242 ล้านบาท และนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ ชดใช้ 1,768 ล้านบาท

ศาลปกครองกลาง ชี้ว่ามี พฤติการณ์จงใจกระทำการทุจริต ร่วมกันกับข้าราชการการเมือง ข้าราชการประจำ และภาคเอกชน รวมถึงมีลักษณะการแบ่งงานกันทำ และจงใจทำให้เกิดความเสียหายในโครงการระบายข้าวจีทูจี ดังนั้น จึงเป็นการละเมิดต่อการปฏิบัติหน้าที่ และจงใจทำให้รัฐเสียหาย ไม่เป็นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี ไม่อาจนำข้าวดังกล่าวมาขายราคามิตรภาพได้หรือต่ำกว่าราคาตลาดได้ นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงการชำระเงินเป็นการโอนเงินผ่านธนาคาร และแคชเชียร์เช็ค ไม่สอดคล้องกับการขายข้าวแบบจีทูจี รวมถึงมีการส่งมอบหน้าคลังสินค้า ทำให้มีการนำข้าวในคลังมาเวียนขายภายในประเทศ การกระทำดังกล่าว จึงทำให้เกิดการแข่งขันอย่างไม่เป็นธรรมและมีการแก้ไขสัญญาซื้อขายด้วย สุดท้ายชี้ขาดให้ต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามคำสั่ง

กรณีข้างต้น เป็นเรื่องความรับผิดทางละเมิด ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน

เป็นคนละส่วนกับความรับผิดทางอาญา โดยในส่วนของอาญา ทั้งหมดติดคุก ได้ลดหย่อนผ่อนโทษ และได้ออกมาเกือบหมดแล้ว

5. คดีค่าสินไหมทดแทนจากยิ่งลักษณ์หมื่นล้านบาท ฐานไม่ระงับยับยั้งข้าวจีทูจีทุจริต

อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้รับคำสั่งให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว จำนวน 20% หรือประมาณ 3.5 หมื่นล้านบาท (ของความเสียหาย 1.78 แสนล้านบาท)

ก่อนหน้านี้ ศาลปกครองกลาง พิพากษาให้ยิ่งลักษณ์ชนะคดี ไม่ต้องจ่าย

แต่สุดท้าย ศาลปกครองสูงสุด พิพากษาให้ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ชดใช้ค่าเสียหายจากโครงการจำนำข้าว จำนวน 10,028 ล้านบาท

ศาลปกครองสูงสุดชี้ว่า อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์สมควรจ่ายชดใช้เฉพาะค่าเสียหายที่เกิดขึ้นในขั้นตอนการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ 4 สัญญาในยุคยิ่งลักษณ์

และให้รับผิดชอบเพียง 50% ของมูลค่าความเสียหายนั้น

จึงคิดเป็นเงิน 10,028 ล้านบาท

ส่วนที่ฝ่ายยิ่งลักษณ์พยายามอ้างว่า ยังมีข้าวในโกดัง ขายได้เงินกลับคืนมา หรือยกเอาข้าวที่ระบายล่าสุดในยุครัฐมนตรีภูมิธรรมมาอ้างว่าขายได้ราคาดี ฯลฯ ล้วนแต่มั่วไปเรื่อย

เพราะศาลให้ชดใช้เฉพาะ 4 สัญญานั้น ไม่เกี่ยวกับข้าวลอตอื่นๆ

แถมยังไม่ได้ให้ร่วมรับผิดชอบความเสียหายมหาศาลของจำนำข้าวทั้งโครงการด้วยซ้ำไป

ในความเป็นจริง การระบายข้าวด้วยวิธีขายแบบรัฐต่อรัฐ (G to G) เป็นขั้นตอนหนึ่งในโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ถ้ายิ่งลักษณ์ไม่ปล่อยให้ทุจริตในขั้นตอนระบายข้าว ก็ไม่ต้องรับผิดชอบ แต่กรณีนี้ ทั้ง สตง. ป.ป.ช. สส.อภิปรายในสภา นายกฯ ยังละเว้น ปล่อยปละละเลย เพิกเฉย ให้ขายข้าวจีทูจี 4 สัญญานั้นต่อไป จนเกิดความเสียหาย

การขายข้าวจีทูจีทุจริตนี้ ทำให้ชาวนาตัวจริงเสียหายด้วย เพราะขายราคาต่ำกว่าท้องตลาดแถมรัฐบาลขณะนั้นยังติดค้างเงินค่าข้าวชาวนาจำนวนมาก จนมีชาวนาผูกคอตาย

ค่าเสียหาย จากการระบายข้าวด้วยวิธีขายแบบรัฐต่อรัฐ (G to G) ตามสัญญาทั้ง 4 ฉบับ มีความเสียหาย จำนวน 20,057,723,761.66 บาท

ข้อเท็จจริงรับฟังได้ตามคําพิพากษาศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหมายเลขแดงที่ อม.211/2560 ว่า ผู้ฟ้องคดีที่ 1 ในฐานะนายกรัฐมนตรี มีพฤติการณ์ในการละเว้นหน้าที่ตามกฎหมาย ส่อแสดงออกโดยชัดแจ้ง อันเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ กับพวก แสวงหาประโยชน์จากโครงการรับจำนำข้าว โดยการแอบอ้างนําบริษัท กว่างตง จํากัด และบริษัท ห่ายหนาน จํากัด เข้ามาทำสัญญาซื้อข้าวในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาดตามประกาศกรมการค้าภายใน แล้วมีการหาประโยชน์ที่ทับซ้อนโดยทุจริตได้ค่าส่วนต่างจากราคาข้าวตามสัญญาซื้อขายจำนวน 4 ฉบับ

กลโกงขายข้าวจีทูจีเก๊ในยุคนั้น ทำให้พ่อค้าและนักการเมืองเป๋าตุง ทำถึงขนาดเสนอแผนยุทธศาสตร์ขายข้าวจีทูจีกันแบบเก๊ๆ ก่อนเริ่มโครงการไม่กี่วัน ไม่เอาเข้าที่ประชุมนโยบายข้าว

ก่อนเริ่มโครงการจำนำข้าวเมื่อ 7 ต.ค. 2554 เร่งทำสัญญาขายข้าวแบบจีทูจีไปจำนวน 2 สัญญา อย่างรีบร้อน เป็นการขายล่วงหน้าโดยที่ยังไม่ได้ซื้อข้าวมาจากชาวนา ข้าวยังอยู่ในแปลงนาของชาวนาด้วยซ้ำ แต่ตกลงขายจีทูเจี๊ยะในราคาถูกกว่าท้องตลาดให้พ่อค้าไว้ก่อนแล้ว

ขายในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาด

ส่งมอบหน้าโกดัง ไม่ใช่ท่าเรือ

จ่ายเงินเป็นแคชเชียร์เช็ค ไม่ต้องเปิด แอลซี

มีการแก้ไขสัญญากันหลายครั้ง เอกชนได้ประโยชน์ รัฐเสียประโยชน์

แถมเอกชนที่มารับข้าว ก็คือบริษัทค้าข้าวที่ติดต่อจ่ายเงินให้เครือจ่ายเสี่ยเปี๋ยงนั่นเอง ไม่ใช่ตัวแทนรัฐบาลจีน

ในยุคนายกฯยิ่งลักษณ์ ปล่อยให้มีการระบายข้าวด้วยวิธีขายแบบรัฐต่อรัฐ (G to G) โดยทุจริต 4 สัญญา ปริมาณข้าวรวม 6,439,000 ตัน

มีการส่งมอบข้าวตามสัญญาเป็นปริมาณ รวม 4,939,190 ตัน

มูลค่าความเสียหายตามสัญญาทั้ง 4 ฉบับ คิดเป็นเงินทั้งสิ้น 20,057,723,761.66 บาท

ศาลปกครองสูงสุด ให้อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ รับผิดชอบเพียง 50% จึงคิดเป็นเงิน 10,028 ล้านบาท

ในคำพิพากษา มีการพิจารณาอย่างละเอียด แยกส่วนชัดเจน ว่าส่วนไหนมูลค่าเท่าใด

ซึ่งความเสียหายส่วนนี้ ไม่เกี่ยวอะไรกับการช่วยชาวนาเลย

ความจริง การเรียกค่าสินไหมทดแทนคืน ก็เพื่อปกป้องทวงคืนผลประโยชน์ของแผ่นดิน จะได้มีเงินกลับมาช่วยเหลือประชาชนต่อไป

คดีนี้ ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาชี้ขาดไปแล้ว

แต่จนถึงวันนี้ ยังไม่มีการเปิดเผยว่า ได้ติดตามบังคับคดีตามคำพิพากษาศาลปกครองไปแค่ไหน อย่างไร ได้เงินคืนแก่แผ่นดินกี่บาทแล้ว?

6. นอกจากนักการเมืองและข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตจำนำข้าวแล้วยังมีภาคเอกชน เช่น เสี่ยเปี๋ยงและพวก ที่ศาลฎีกาฯ พิพากษาลงโทษจำคุก และให้ชดใช้ค่าเสียหายแก่รัฐด้วย

จนบัดนี้ แม้ได้พักโทษออกจากคุกแล้ว แต่ค่าเสียหายตามคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ มีการติดตามให้ชำระแล้วหรือยัง?

ทั้งหมดนี้ ต้องเป็นไปตามคำพิพากษาชี้ขาด คดีถึงที่สุดของศาล

รัฐบาลที่ “พูดแล้วทำ” หากเจตนาจริงใจปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน จะต้องติดตามบังคับคดีตามคำพิพากษาอย่างจริงจัง บังเกิดผล

คืนความเป็นธรรมแก่ประเทศชาติ และนำเงินค่าเสียหายกลับคืนแผ่นดิน เพื่อช่วยเหลือประชาชนและพัฒนาประเทศชาติต่อๆ ไป

สารส้ม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
21:40 น. ฮือฮา! ‘พญาเต่ายักษ์’กระดองคล้ายพระสมเด็จ 7 ชั้น เชื่อมาให้โชคก่อนออกพรรษา
21:18 น. เขตอันตราย! เพลิงไหม้ผับดัง RCA ปิดพื้นที่ตรวจสอบไม่มีกำหนด
21:00 น. ทลายรัง‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’ตั้งฐานกลางกรุง ‘กสทช.-ตร.ไซเบอร์’ยึด Mini PC เถื่อนเพียบ
20:52 น. ‘โดรนเขมร’บินว่อนชายแดน ‘กองทัพภาคที่ 2’ตัดสัญญาณแล้ว
20:49 น. ชายแดนคึกคัก! ชาวบ้านแห่นำเงินเยียวยา ออกมาจับจ่ายซื้อของกินของใช้
ดูทั้งหมด
‘กรุงไทย’ประกาศปิดฉากแอป‘เป๋าตุง’ ย้ายบริการสแกนจ่ายไป‘ถุงเงิน’
เปิดภาพตอกหน้าเขมรแสร้งเล่นบทเหยื่อ ทั้งที่ไทยคือผู้นำ'สันติภาพ'เข้าสู่กัมพูชาที่แท้จริง
แฟนคลับส่งกำลังใจ 'ปู กนกวรรณ' โพสต์ถึงอาการป่วยสามี 'เด๋อ ดอกสะเดา' ฟื้นฟูร่างกายต้องใช้เวลา
วีรกรรมเขมรถ่อย!! เทน้ำราดหัวเจ้าหน้าที่สนามบินมาเลเซีย หลังก่อกวนบนเครื่องบิน
ไปชิม 'เมี่ยงปลาย่าง' หนึ่งเดียวในเมืองสงขลา ที่ขายดิบขายดีทุกวัน
ดูทั้งหมด
ดื่มด่ำยามเช้าแบบชาวอเมริกัน
ศรัทธาที่จืดจาง
ฝ่ายแค้นสู้ตาย?
ทวงค่าเสียหายข้าวจีทูจีเก๊คืนแผ่นดิน รวมกว่า 3 หมื่นล้านบาท
บุคคลแนวหน้า : 7 ตุลาคม 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ฮือฮา! ‘พญาเต่ายักษ์’กระดองคล้ายพระสมเด็จ 7 ชั้น เชื่อมาให้โชคก่อนออกพรรษา

ทลายรัง‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’ตั้งฐานกลางกรุง ‘กสทช.-ตร.ไซเบอร์’ยึด Mini PC เถื่อนเพียบ

ชายแดนคึกคัก! ชาวบ้านแห่นำเงินเยียวยา ออกมาจับจ่ายซื้อของกินของใช้

(คลิป) ช็อตหวาดเสียว! นาทีเชือกลากเรือขาด ฟาดคอคนล้ม โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย

‘ตำรวจภาค 1’ค้น 5 จุดทลายเครือข่ายเว็บพนัน‘เชอรี่จริงใจเบ็ต’เงินหมุนเวียนพันล้าน ยึดทรัพย์เพียบ

‘สีหศักดิ์’ย้ำรัฐบาลไทย แก้ปัญหา‘กัมพูชา’โดยสันติวิธีผ่านกลไกทวิภาคี

  • Breaking News
  • ฮือฮา! ‘พญาเต่ายักษ์’กระดองคล้ายพระสมเด็จ 7 ชั้น เชื่อมาให้โชคก่อนออกพรรษา ฮือฮา! ‘พญาเต่ายักษ์’กระดองคล้ายพระสมเด็จ 7 ชั้น เชื่อมาให้โชคก่อนออกพรรษา
  • เขตอันตราย! เพลิงไหม้ผับดัง RCA ปิดพื้นที่ตรวจสอบไม่มีกำหนด เขตอันตราย! เพลิงไหม้ผับดัง RCA ปิดพื้นที่ตรวจสอบไม่มีกำหนด
  • ทลายรัง‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’ตั้งฐานกลางกรุง ‘กสทช.-ตร.ไซเบอร์’ยึด Mini PC เถื่อนเพียบ ทลายรัง‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’ตั้งฐานกลางกรุง ‘กสทช.-ตร.ไซเบอร์’ยึด Mini PC เถื่อนเพียบ
  • ‘โดรนเขมร’บินว่อนชายแดน ‘กองทัพภาคที่ 2’ตัดสัญญาณแล้ว ‘โดรนเขมร’บินว่อนชายแดน ‘กองทัพภาคที่ 2’ตัดสัญญาณแล้ว
  • ชายแดนคึกคัก! ชาวบ้านแห่นำเงินเยียวยา ออกมาจับจ่ายซื้อของกินของใช้ ชายแดนคึกคัก! ชาวบ้านแห่นำเงินเยียวยา ออกมาจับจ่ายซื้อของกินของใช้
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ทวงค่าเสียหายข้าวจีทูจีเก๊คืนแผ่นดิน  รวมกว่า 3 หมื่นล้านบาท

ทวงค่าเสียหายข้าวจีทูจีเก๊คืนแผ่นดิน รวมกว่า 3 หมื่นล้านบาท

7 ต.ค. 2568

อย่าบังอาจ  เอื้อประโยชน์นายใหญ่ไม่รู้จบรู้สิ้น

อย่าบังอาจ เอื้อประโยชน์นายใหญ่ไม่รู้จบรู้สิ้น

6 ต.ค. 2568

ทักษิณจะขอเบิ้ลอภัยโทษ ?!?!

ทักษิณจะขอเบิ้ลอภัยโทษ ?!?!

3 ต.ค. 2568

เพิ่มทางเลือกในการออมให้ประชาชน

เพิ่มทางเลือกในการออมให้ประชาชน

2 ต.ค. 2568

ทองคำทะลุ 6 หมื่นบาท  แล้วไงต่อ?

ทองคำทะลุ 6 หมื่นบาท แล้วไงต่อ?

1 ต.ค. 2568

ทวงคืนเกียรติและศักดิ์ศรีของประเทศไทย  ด้วยความจริง และความกล้าหาญ

ทวงคืนเกียรติและศักดิ์ศรีของประเทศไทย ด้วยความจริง และความกล้าหาญ

30 ก.ย. 2568

พรรคส้มไม่สำเหนียก ไม่สำนึก  ยังจะดันทุรังเดินหน้าแก้ ม.112

พรรคส้มไม่สำเหนียก ไม่สำนึก ยังจะดันทุรังเดินหน้าแก้ ม.112

29 ก.ย. 2568

ไม่แก้รัฐธรรมนูญ  ไม่สิ้นเปลือง ไม่เสียเวลา ไม่เอื้อนักการเมืองโกง

ไม่แก้รัฐธรรมนูญ ไม่สิ้นเปลือง ไม่เสียเวลา ไม่เอื้อนักการเมืองโกง

26 ก.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved