วันจันทร์ ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / อ่านระหว่างบรรทัด
อ่านระหว่างบรรทัด

อ่านระหว่างบรรทัด

สันติสุข มะโรงศรี
วันจันทร์ ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 02.00 น.
ถ้าลงนามแล้ว กัมพูชาไม่ทำ?

ดูทั้งหมด

  •  

คนไทยทั้งประเทศ รู้ว่า ไว้ใจคนอย่างฮุนเซน-ฮุน มาเนต ไม่ได้

เชื่อว่า นายกฯ อนุทินเอง ก็ยังไม่ไว้ใจเท่าใดนัก จึงได้วางเงื่อนไขการปฏิบัติเป็นนโยบายเอาไว้ด้วย


มิใช่ว่าลงนามสันติภาพกับกัมพูชาแล้ว ไทยจะเปิดด่านทันทีเสียเมื่อไหร่

และถ้าลงนามแล้ว กัมพูชาไม่ทำตาม ยังคงคุกคามอธิปไตยแผ่นดินไทย ใครก็มาห้ามไทยเราปกป้องอธิปไตยและผลประโยชน์อันชอบธรรมของเราไม่ได้

ถึงลงนามเจตจำนงแนวทางไปสู่สันติภาพแล้ว ก็ยิงได้ รบได้ ยึดได้ ถ้ากัมพูชาไม่ปฏิบัติตามแนวทางที่ตกลงไว้

ดูอย่างอิสราเอลก็ลงนามแล้ว ยังยิงเข้าไปกาซาได้อีก

1. ทุกคนย่อมทราบว่า ขณะนี้ ชาติมหาอำนาจ ทั้งสหรัฐ และจีน ต่างพยายามจะมีบทบาทในภูมิภาคอินโดจีน เพื่อผลประโยชน์ด้านภูมิรัฐศาสตร์โลก

จีน ก็ต้องพยายามรักษาผลประโยชน์ของตนเองในกัมพูชาขณะเดียวกันก็ยืนยันว่าไม่เคยสนับสนุนอาวุธสงครามให้กัมพูชานำมาใช้กับประเทศไทย

ในครั้งนี้ สหรัฐต้องการให้ไทยลงนามสันติภาพ ก็เพื่อประโยชน์ทางการเมืองของตนเอง

ประเทศไทยเราต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ที่ไทยเรามีอยู่ภายใต้อำนาจบริหารจัดการของสหรัฐ เราก็ต้องไม่หักด้ามพร้าด้วยเข่า

ถ้าไทยไม่ลงนาม ก็เท่ากับเพิกเฉยความต้องการของสหรัฐแบบไม่ให้เกียรติ เราก็อาจถูกเพิกเฉยความช่วยเหลือจากสหรัฐด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม การลงนามครั้งนี้ ไม่ใช่ลงนามสนธิสัญญาที่มีผลผูกมัดทางกฎหมายระหว่างประเทศ แต่เป็นคำประกาศเพื่อแสดงความตั้งใจจริงต่อการสร้างสันติภาพ

ซึ่งในความเป็นจริง ไทยเราก็ต้องการสันติภาพมาโดยตลอด แต่ที่ผ่านมา มันไม่เกิดขึ้นจริง เพราะฝ่ายกัมพูชาไม่ยอมปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างแท้จริงนั่นเอง ด้วยต้องการปกป้องผลประโยชน์ของพวกตนเองด้านสแกม และใช้เงื่อนไขการรุกรานไทยไปสร้างกระแสการเมืองภายในของกัมพูชาเอง

คราวนี้ ถ้าลงนามแล้วกัมพูชาเดินหน้าลงมือทำจริง การแก้ปัญหาทุกด้านก็จะราบรื่น ไม่ต้องรบกัน

และครั้งนี้ ถ้ากัมพูชาไม่ทำตามแนวทางข้อตกลง ก็เป็นการไม่เคารพต่อสหรัฐด้วย สหรัฐก็จะกล่าวหาไทยไม่ได้ หากไทยจำเป็นต้องปฏิบัติการใดๆ หลังจากนี้

ประการสำคัญ แนวทางทุกข้อ ไทยเราล้วนแต่ได้ประโยชน์มากขึ้น เช่น การถอนกำลังอาวุธจากชายแดน ฝ่ายไทยเราปลอดภัยจากจรวดกัมพูชา ขณะที่จุดแข็งของไทยที่เหนือกว่ากัมพูชามาก คือ เครื่องบินรบซึ่งไม่จำเป็นต้องไปจอดรออยู่ที่ชายแดน ก็พร้อมปฏิบัติการ

2. เมื่อวานนี้ นายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล กล่าวระหว่างไลฟ์สดผ่าน Facebook ส่วนตัว จากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย

ยืนยันว่า ปฏิญญา 4 ข้อที่จะลงนามในวันนี้กับทางรัฐบาลกัมพูชา ไม่มีข้อไหนที่จะทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบแม้แต่ข้อเดียว ปฏิญญานี้ไม่ใช่สนธิสัญญา จึงไม่ต้องขอการรับรองจากรัฐสภา โดยได้รับการรับรองจากคณะรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หัวข้อหลัก4 ข้อใหญ่ ที่ทางรัฐบาลกัมพูชาจะต้องดำเนินการ คือ 1. การถอนอาวุธหนักออกจากแนวชายแดน 2. การเก็บกู้วัตถุระเบิด 3. การร่วมมือการปราบปรามอาชญากรรม สแกมเมอร์หรืออาชญากรรมทางเทคโนโลยี และ 4. การหาแนวทางในการบริหารพื้นที่ร่วมกันเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา ซึ่งทั้ง 4 ข้อจะต้องเริ่มจากกัมพูชาก่อน เมื่อเขาเริ่มแล้วเราถึงจะมาประเมิน ดำเนินการต่อไปในเรื่องของการทำให้เกิดสันติภาพ ในความสัมพันธ์ของประเทศทั้งสองประเทศ

“ยังไม่มีที่ว่าเราจะเปิดด่าน หรือดำเนินการใดๆ ที่บอกว่ายอมเสียดินแดน จะใช้แผนที่ 1 ต่อ 2 แสน ตอนนี้ประเทศไทยไม่อยู่ภายใต้เงื่อนไขตรงนี้เลย

ปฏิญญานี้ ก็คือสิ่งที่จะนำไปสู่การปฏิบัติของทั้งสองประเทศ ที่จะทำให้เกิดสันติภาพ เกิดความสงบในพื้นที่ชายแดนของทั้งสองประเทศ และความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศ

เราไม่ต้องการเป็นศัตรูกับใครเลย แม้แต่คนเดียว เรารักสงบอยู่แล้ว ในเพลงชาติก็บอกว่าไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด

สิ่งที่ประเทศไทยปฏิบัติมาตลอดตั้งแต่เรามีปัญหา ด้านความสัมพันธ์กับประเทศกัมพูชา เรายังยึดมั่นอยู่ในกรอบนี้ ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบเราไม่เคยขลาด เพราะฉะนั้น ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจ ว่ารัฐบาลไทยทั้งกองทัพ ทั้งข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศเราทำงานอย่างหนักกว่าจะมาถึงจุดตรงนี้ ขอให้ท่านมั่นใจอีกครั้ง...

...ผมมั่นใจว่าเราจะต้องมีชัย และจะทำให้ดีที่สุดเพื่อประเทศไทยอันเป็นที่รักของเรา และประชาชนผู้ที่ผมถือเสมือนเป็นผู้บังคับบัญชาเป็นเจ้านายของผมตลอดเวลาครับ ขอบคุณมากครับ...” – นายกรัฐมนตรีกล่าว

3. แนวทางการปฏิบัติหลังจากนี้ คือ แนวทางตามผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยพิเศษ ครั้งที่ 2/2568 วันที่ 23 ตุลาคม 2568ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย

พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กห. ให้รายละเอียดไว้ก่อนหน้านี้ระบุว่า ประเทศไทยยืนหยัดในเงื่อนไขเดิม 4 ข้อ ได้แก่ (1) การถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ขัดแย้ง (2) การเก็บกู้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (3) การปราบปรามขบวนการ Cyber Scam และ (4) การจัดการพื้นที่หมู่บ้านชายแดนในจังหวัดสระแก้ว ผลของการประชุม GBC ถือว่ามีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญ

ประเด็นแรก การถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ขัดแย้ง

ทั้งสองฝ่าย ได้บรรลุข้อตกลงในการจัดทำข้อกำหนดเงื่อนไขของงาน หรือ TOR สำหรับคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน หรือ AOT และได้มีการลงนามโดยผู้แทนของทั้งสองฝ่ายเรียบร้อยแล้ว ซึ่งคณะ AOT จะมีหน้าที่สำคัญในการสังเกตและติดตามผลความคืบหน้าของการถอนอาวุธหนักของแต่ละฝ่ายออกจากพื้นที่ขัดแย้ง รวมถึงได้มีการกำหนดกรอบเวลาและเป้าหมายปลายทางในการถอนอาวุธเรียบร้อยแล้ว

ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบในแผนปฏิบัติการ หรือ Action Plan ที่ได้จัดทำร่วมกัน

และมอบหมายให้แม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย และผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 ของกัมพูชา ขับเคลื่อนแผนไปสู่การปฏิบัติ

ทั้งนี้ การถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ขัดแย้ง มีความมุ่งหมายหลักเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน เนื่องจากอาวุธของกัมพูชาส่วนใหญ่ เช่น จรวด BM-21 เป็นอาวุธที่มีอำนาจการทำลายเป็นวงกว้าง ยากแก่การควบคุมตำบลกระสุนตก จึงก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อชีวิต และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน รวมถึงเป้าหมายที่มิใช่เป้าหมายทางทหาร เช่น บ้านเรือน ร้านค้า ไร่นา โรงเรียน และโรงพยาบาล เป็นต้น

ประเด็นที่สอง การเก็บกู้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล

ทั้งสองฝ่ายได้ประสบความสำเร็จในการจัดทำระเบียบปฏิบัติมาตรฐาน หรือ SOP สำหรับการเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ชายแดน ทั้งในพื้นที่ที่มีการกำหนดเขตแดนชัดเจนแล้ว และพื้นที่ที่ทั้งสองฝ่ายยังเห็นไม่ตรงกัน

หลังจากนี้ ชุดประสานของทั้งสองฝ่ายจะสามารถเริ่มปฏิบัติการเก็บกู้ได้ทันที ซึ่งที่ผ่านมาศูนย์ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิด หรือ TMAC ของฝ่ายไทย ไม่สามารถดำเนินการเก็บกู้ได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากมักถูกขัดขวางจากฝ่ายกัมพูชาบ่อยครั้ง เมื่อเราเข้าไปใกล้พื้นที่ชายแดน แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ที่ฝ่ายกัมพูชายอมที่จะนำประเด็นการเก็บกู้ทุ่นระเบิดมาพูดคุยในรายละเอียดกันอย่างจริงจัง

ทั้งนี้ การเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ชายแดนมีความมุ่งหมายเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนและทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ป้องกันชายแดน ซึ่งฝ่ายไทยได้ยืนยันมาโดยตลอดว่าการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเป็นเรื่องสำคัญ ที่ต้องเร่งดำเนินการ และต้องไม่นำเรื่องเขตแดนมาเป็นข้อจำกัดแต่อย่างใด

ประเด็นที่สาม การปราบปรามขบวนการ Cyber Scam

เรื่องนี้ เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เราได้รับความร่วมมือมากขึ้นเป็นครั้งแรกจากฝ่ายกัมพูชา โดยหน่วยงานตำรวจของทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันจัดทำแผนปฏิบัติการ หรือ Action plan เรียบร้อยแล้ว

หลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายจะจัดตั้งกำลังเฉพาะกิจร่วม หรือ Joint task force ภายในสองสัปดาห์ เพื่อเริ่มกวาดล้างแกนนำและผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการ Cyber Scam ได้ต่อไป

นอกจากนี้ ได้ตกลงร่วมกันเกี่ยวกับขั้นตอนที่ชัดเจน ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร หลักฐานพยานเหยื่อที่ถูกหลอกลวงและผู้ต้องหา รวมถึงมาตรการคุ้มครองพยาน อันจะทำให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความรวดเร็วยิ่งขึ้น แผนปฏิบัติการที่ได้ร่วมกันจัดทำขึ้นนั้น จึงถือเป็นเครื่องมือสำคัญ ในการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานตำรวจของไทยและกัมพูชา ซึ่งอาจรวมถึงเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของประเทศอื่นๆที่มีประชาชนของตนตกเป็นเหยื่อของขบวนการ Cyber Scam ด้วย

ประเด็นที่สี่ การจัดการพื้นที่หมู่บ้านชายแดน ในจังหวัดสระแก้ว

ตามข้อมูลขั้นต้นที่ได้รับจากการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือ JBC ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบที่จะส่งเจ้าหน้าที่ของตนลงพื้นที่เพื่อสำรวจแนวเส้นที่แต่ละฝ่ายอ้างสิทธิ์ หรือ Boundary Claim โดยจะทำการสำรวจร่วมจากหลักเขต ที่ 42 ถึง 47 ช่วงบ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว

ทั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกอีกเช่นกัน ที่ฝ่ายกัมพูชายินยอมร่วมมือกับฝ่ายไทย ในการลงพื้นที่เดินสำรวจแนวเส้นอ้างสิทธิ์ และวางหมุดชั่วคราวที่แน่ชัดด้วยกัน อันจะทำให้แต่ละฝ่ายยอมรับกับขอบเขตพื้นที่ที่เกิดขึ้น ตามผลการสำรวจและจะนำไปสู่การปรับการถือครองที่ดินของทั้งสองฝ่ายได้ต่อไป

โดยการวางหมุดชั่วคราวนี้ เป็นเพียงเพื่อการสำรวจเท่านั้น จะไม่กระทบต่อสิทธิของไทยในเรื่องเขตแดนทางบกตามกฎหมายระหว่างประเทศแต่อย่างใด

นอกจากนี้ ฝ่ายไทยจะเริ่มดำเนินการสร้างรั้วชายแดน ในบริเวณที่มีความชัดเจนของเส้นเขตแดนแล้ว โดยยืนยันว่ารั้วดังกล่าวจะอยู่ภายในเขตอธิปไตยของไทย เพื่อประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน ตลอดจนเพื่อป้องกันภัยคุกคามข้ามแดนระหว่างทั้งสองประเทศ

4. ยกตัวอย่าง การจัดการพื้นที่บ้านหนองจาน บ้านหนองหญ้าแก้ว

สืบเนื่องจากการลงนามข้อตกลงของการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ไทย – กัมพูชา และคณะกรรมการชายแดนทั่วไป(GBC) ไทย-กัมพูชา เกี่ยวกับการจัดการพื้นที่ชายแดน จ.สระแก้ว โดยกำหนดให้มีการสำรวจร่วมและการวางหลักเขตชั่วคราวในพื้นที่สำคัญระหว่างหลักเขตแดนหมายเลข 42 ถึง 47 นั้น

กกล.บูรพา โดย ฉก.12 พร้อมด้วย พ.อ.ยุทธพล สุจริต แม่กองสนามสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ระบุว่า ถือเป็นการกำหนดเขตแดนที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับฝ่ายไทย ทั้งนี้ จะดำเนินการอย่างรอบคอบเพื่อยืนยันพื้นที่อธิปไตยของไทยอย่างแท้จริง

เดิม “หลักเขตแดนที่ 42 ตั้งอยู่ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว (บ้านไปรจัน)ตำบลโคกสูง อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว และหลักเขตแดนที่ 43 ตั้งอยู่ที่บ้านโนนหมากมุ่น ตำบลโคกสูง อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว โดยการกำหนดแนวเขตแดนในพื้นที่ดังกล่าวเป็นเส้นตรงจากหลักเขตแดนที่ 41 มายังหลักเขตแดนที่ 42 และต่อเนื่องไปยังหลักเขตแดนที่ 43 จากนั้นแนวเขตแดนจะไปตามคลองระลมระสือจนถึงหลักเขตแดนที่ 44

สำหรับกระบวนการสำรวจ ชุดสำรวจร่วมไทย–กัมพูชาได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่ 1 ของ TOR คือ การสำรวจสภาพ และที่ตั้งของหลักเขตแดนทั้งหมด 74 หลัก ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549

โดยในส่วนของหลักเขตแดนที่ 42 ได้สำรวจเมื่อวันที่ 2–29 ตุลาคม 2549 พบว่ายังอยู่ในสภาพดี แต่ทั้งสองฝ่ายมีความเห็นแตกต่างกันในเรื่องที่ตั้ง ประมาณ 80 เมตร

ส่วนหลักเขตแดนที่ 43 ได้สำรวจเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน–12 ธันวาคม 2549 พบว่าหลักล้ม และถูกฝังอยู่ในดิน อย่างไรก็ตามทั้งสองฝ่ายสามารถตกลงที่ตั้งที่ถูกต้องร่วมกันได้ และได้สร้างหมุดชั่วคราว (Temporary Marker: TM) ไว้ ณ ตำแหน่งดังกล่าว... ผลการสำรวจร่วมทั้งหมด 74 หลัก รวมถึงหลักเขตแดนที่ 42 และ 43 ได้รับการรับรองแล้วในการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย–กัมพูชา (JBC)ครั้งที่ 6 เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2568 แต่ยังไม่ได้มีการสำรวจแนวเขตแดนในส่วนของเส้นตรงระหว่างหลักทั้งสอง

อย่างไรก็ตาม ในหลักฐานบันทึกวาจาและแผนผังแสดงที่ตั้งหลักเขตแดนทั้งสอง ซึ่งเป็นไปตามที่ระบุในบันทึกความเข้าใจ (MOU)ปี 2543 ได้ระบุแนวเขตแดนเป็นเส้นตรงระหว่างหลักทั้งสอง..”

ภาพในเพจ กองทัพบก ทันกระแส ช่วยให้เห็นแนวทางที่ชัดเจน เข้าใจง่าย ว่าทำไมต้องทำเช่นนี้ ฝ่ายกัมพูชาก็จะได้มีคำอธิบายของพลเมืองของตนเองได้ด้วย

พูดภาษาชาวบ้าน คือ เป็นทางลงให้ผู้นำกัมพูชายอมทำตามเงื่อนไขไทย แบบไม่ถูกตราหน้าโดยคนกัมพูชาว่า ยอมแพ้ประเทศไทย

สันติสุข มะโรงศรี

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
22:07 น. 'ป้ารุจี'นักปั้นตุ๊กตาชาววังบ้านบางเสด็จ บุคคลในภาพที่เคยเฝ้ารับเสด็จ'สมเด็จพระพันปีหลวง'
21:52 น. เข้าใจยากตรงไหน? 'โดม'โพสต์สั้นๆง่ายๆ หลังคนงงเรื่องการจัดงานรื่นเริง
21:48 น. ‘เอ้ สุชัชวีร์’ศิษย์พระจอมเกล้าลาดกระบัง ร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ‘สมเด็จพระพันปีหลวง’
21:39 น. ไม่ยกเลิกจัดที่ไทย! Miss Universe 2025 พร้อมปรับรูปแบบให้เหมาะสม
21:33 น. จังหวัด-อำเภอทั่วไทยร่วมประกอบพิธีถวายน้ำสรงพระบรมศพเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์'สมเด็จพระพันปีหลวง'
ดูทั้งหมด
สมฐานะสะใภ้สิงห์! 'มายด์ ลภัสลัล'ควง'พาย สุนิษฐ์'เข้าพิธีมงคลแรกของชีวิต
รู้จัก'อีฟ กาญจนา' ประธานมูลนิธิ เคียงข้าง'กัน จอมพลัง'ที่เจ้าตัวไว้วางใจที่สุด!
'ต๊ะ นารากร'เปิดผนึกถึง'หนุ่ม กรรชัย'ขยี้ปมเงินบริจาค ยก'องค์กรทำดี'จัดตั้งโปร่งใส
สื่อทั่วโลกรายงานข่าว 'สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง' สวรรคต
เปิดวินาที! ประชาชนฝ่าขบวนเสด็จ'ในหลวง-พระราชินี'
ดูทั้งหมด
วันนี้ คุณทำบุญด้วยอะไร? (2)
กรังด์ปรีซ์เลือกตั้ง
ค่ารถแห่โดนัลด์ ทรัมป์
บุคคลแนวหน้า : 27 ตุลาคม 2568
ถ้าลงนามแล้ว กัมพูชาไม่ทำ?
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เข้าใจยากตรงไหน? 'โดม'โพสต์สั้นๆง่ายๆ หลังคนงงเรื่องการจัดงานรื่นเริง

‘เอ้ สุชัชวีร์’ศิษย์พระจอมเกล้าลาดกระบัง ร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ‘สมเด็จพระพันปีหลวง’

ไม่ยกเลิกจัดที่ไทย! Miss Universe 2025 พร้อมปรับรูปแบบให้เหมาะสม

น้อมรำลึกเก้าอี้ทรงประทับของ'สมเด็จพระพันปีหลวง' เมื่อทรงเสด็จเยี่ยมชาวผู้ไทยบ้านโพน

'นฤมล'แจงชัด!คำสั่งงดกิจกรรมรื่นเริง ไม่กระทบกีฬาสี-กิจกรรมเสริมหลักสูตร

'เรวัช'ซัดแรง! อดีต สส.ไม่สำนึก ปมโพสต์ถาม'จะจัดงานลอยกระทงยังไง'

  • Breaking News
  • \'ป้ารุจี\'นักปั้นตุ๊กตาชาววังบ้านบางเสด็จ บุคคลในภาพที่เคยเฝ้ารับเสด็จ\'สมเด็จพระพันปีหลวง\' 'ป้ารุจี'นักปั้นตุ๊กตาชาววังบ้านบางเสด็จ บุคคลในภาพที่เคยเฝ้ารับเสด็จ'สมเด็จพระพันปีหลวง'
  • เข้าใจยากตรงไหน? \'โดม\'โพสต์สั้นๆง่ายๆ หลังคนงงเรื่องการจัดงานรื่นเริง เข้าใจยากตรงไหน? 'โดม'โพสต์สั้นๆง่ายๆ หลังคนงงเรื่องการจัดงานรื่นเริง
  • ‘เอ้ สุชัชวีร์’ศิษย์พระจอมเกล้าลาดกระบัง ร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ‘สมเด็จพระพันปีหลวง’ ‘เอ้ สุชัชวีร์’ศิษย์พระจอมเกล้าลาดกระบัง ร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ‘สมเด็จพระพันปีหลวง’
  • ไม่ยกเลิกจัดที่ไทย! Miss Universe 2025 พร้อมปรับรูปแบบให้เหมาะสม ไม่ยกเลิกจัดที่ไทย! Miss Universe 2025 พร้อมปรับรูปแบบให้เหมาะสม
  • จังหวัด-อำเภอทั่วไทยร่วมประกอบพิธีถวายน้ำสรงพระบรมศพเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์\'สมเด็จพระพันปีหลวง\' จังหวัด-อำเภอทั่วไทยร่วมประกอบพิธีถวายน้ำสรงพระบรมศพเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์'สมเด็จพระพันปีหลวง'
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ถ้าลงนามแล้ว กัมพูชาไม่ทำ?

ถ้าลงนามแล้ว กัมพูชาไม่ทำ?

27 ต.ค. 2568

อัยการสูงสุดคนใหม่ ปมอุทธรณ์คดี 112 ทักษิณ  บทพิสูจน์ความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรม

อัยการสูงสุดคนใหม่ ปมอุทธรณ์คดี 112 ทักษิณ บทพิสูจน์ความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรม

20 ต.ค. 2568

การเมืองยุคหลังลุงตู่

การเมืองยุคหลังลุงตู่

13 ต.ค. 2568

ความจริง... ทองคำในทุนสำรองฯ ของไทย

ความจริง... ทองคำในทุนสำรองฯ ของไทย

6 ต.ค. 2568

ไม่อุทธรณ์คดี 112 ทักษิณ ?!?!

ไม่อุทธรณ์คดี 112 ทักษิณ ?!?!

29 ก.ย. 2568

อย่ามองข้าม ‘ความจริง’  คดีถึงที่สุดตามคำตัดสินของศาล

อย่ามองข้าม ‘ความจริง’ คดีถึงที่สุดตามคำตัดสินของศาล

22 ก.ย. 2568

‘พ่อขายฝัน อาขายข้าว ลูกสาวขายชาติ  เห็นศัตรูเป็นญาติ เห็นรั้วของชาติเป็นศัตรู’

‘พ่อขายฝัน อาขายข้าว ลูกสาวขายชาติ เห็นศัตรูเป็นญาติ เห็นรั้วของชาติเป็นศัตรู’

15 ก.ย. 2568

นายกฯ อนุทิน  ในสนามทุ่นระเบิดการเมือง

นายกฯ อนุทิน ในสนามทุ่นระเบิดการเมือง

8 ก.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved