วันอาทิตย์ ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / เส้นใต้บรรทัด
เส้นใต้บรรทัด

เส้นใต้บรรทัด

จิตกร บุษบา
วันอาทิตย์ ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 02.00 น.
‘พ่อ’ ลาออก ‘ลูก’ ขึ้นหัวหน้า

ดูทั้งหมด

  •  

ตระกูล “อมรวิวัฒน์” ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในพรรคเพื่อไทย เมื่อพ่อ-สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เพิ่งลาออกไป แต่ลูกชาย-จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ เพิ่งได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค โดยที่พ่อก็เคยเป็น “อดีตหัวหน้าพรรค” ที่ถูก “ใช้แล้วทิ้ง” จาก “เจ้าของพรรค” คือ “ตระกูลชินวัตร” มาแล้ว คำถามคือ ชะตากรรมของจุลพันธ์จะลงเอยเหมือนพ่อหรือไม่ ภายใต้การรับใช้ตระกูลชิน

1) วันที่ 17 ต.ค. 2568 นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า หลังจากทบทวนประมวลเหตุผลจากสิ่งต่างๆ ที่ตนเจอมาตนได้ตัดสินใจจะลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และส่งผลให้ต้องพ้นจากตำแหน่ง สส.บัญชีรายชื่อด้วย โดยให้ทีมงานนำเอกสารใบลาออกไปยื่นแจ้งต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยืนยันว่าการตัดสินใจนี้ไม่เกี่ยวกับการที่พรรคเพื่อไทยต้องเป็นฝ่ายค้านหรือเผชิญกระแสตกต่ำในช่วงนี้แต่อย่างใด แต่เหตุผลมาจากปัญหาที่สะสมมาตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้งปี 2566 คือเรื่องการบริหารจัดการภายใน ซึ่งเชื่อว่า สส.ในพรรคเพื่อไทยส่วนใหญ่ก็อึดอัดใจกับสถานการณ์ในพรรคที่เกิดขึ้น รับไม่ได้กับสิ่งที่ต้องเผชิญอยู่ เพราะการจัดลำดับความสำคัญของพรรคมีปัญหาค่อนข้างมาก ตอนที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลปัญหาจึงไม่ถูกนำมาพูดถึง และผู้บริหารพรรคมองไม่เห็นทั้งที่มีผลการเลือกตั้งทั้งในระดับ สส. หรือในระดับท้องถิ่น ก็ฟ้องอยู่ว่า พรรคเพื่อไทยตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือตอนบนซึ่งตนเคยมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการมาโดยตลอด ก่อนจะถูกลดบทบาท กระทั่งไม่สามารถแสดงความคิดเห็น หรือเสนอแนะใดๆ ได้เลย


2) นายสมพงษ์ยกตัวอย่างว่า อย่างที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงของพรรค ที่การเลือกตั้งล่าสุด พรรคเพื่อไทยได้ สส.เพียง 2 เขต จาก 10 เขตเลือกตั้ง ขณะที่คะแนนบัญชีรายชื่อก็ตามหลังคู่แข่งเป็นแสนคะแนน ถือเป็นจุดบ่งชี้ชัดเจนว่ากำลังเดินผิดทาง

“พื้นที่เชียงใหม่ เรายึดครองมาตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย มาวันนี้เอาตัวแทบไม่รอด จุดเปลี่ยนก็คงตั้งแต่พรรคเปลี่ยนผู้สมัครนายก อบจ. (นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด) เมื่อปี 2563 แม้จะระดมทุกองคาพยพจนชนะมาได้ 2 สมัย แต่ตัวนายก อบจ.เชียงใหม่ (นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร) ก็ยังทำงานแบบไม่เห็นหัวใคร ไม่เคยประสาน สส. หรือผู้สมัคร สส.ของพรรค ที่ไม่ใช่พวกตัวเอง มันก็เลยพังอย่างที่เห็น”

และจุดแตกหักสุดท้าย คือกรณี จ.ลำพูน ที่เขต 1 ที่ นายสงวน พงษ์มณี ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย แพ้ให้กับคู่แข่งแบบขาดลอย ในปี 2566 และยังมีผลมาถึงสนามท้องถิ่นเลือกนายก อบจ. เมื่อต้นปี 2568 หนนี้ผู้ใหญ่ในพรรคได้มอบหมายให้ตนไปเฟ้นหาผู้ที่มีศักยภาพ เพื่อเสนอตัวเป็นผู้สมัคร สส. เขต 1 จ.ลำพูน กระทั่งได้คนที่ตนมีความเห็นว่ามีความเหมาะสมเชื่อว่าสามารถทวงเก้าอี้ สส.เขต 1 จ.ลำพูน คืนให้กับพรรคได้อย่างแน่นอน จึงชักชวนกันเรียบร้อย และให้เริ่มทำพื้นที่ทันที ได้เสียงตอบรับที่ดี กระทั่งมาทราบว่าทางพรรคตัดสินใจเลือกคนอื่นเป็นผู้เสนอตัวลงสมัคร สส.เขต 1 จ.ลำพูน โดยที่ไม่แม้แต่จะนำชื่อคนที่ตนไปชักชวน เข้าไปเป็นตัวเลือกในการพิจารณาด้วยซ้ำ

3) นายสมพงษ์บอกว่า “ผู้มากบารมีในพรรคบางคนเข้ามาล้วงลูก สั่งการจะเอาคนนั้นคนนี้ลง สส. โดยไม่มีการทำโพล หรือวิเคราะห์มิติการเมืองแต่อย่างใด ไม่ใช่แค่จังหวัดลำพูน ยังมีอีกหลายพื้นที่หลายจังหวัดต่างๆ ที่ปฏิบัติแบบนี้ วันที่กระแสพรรคเป็นเช่นนี้ การวางตัวผู้สมัคร สส.ย่อมต้องละเอียดมากที่สุดจะทำกันแบบเดิมๆ ไม่ได้ หากมีเหตุมีผล พิจารณาแล้ว คนของผมไม่มีศักยภาพเพียงพอ หรือมีคนอื่นที่ดูดีกว่า ก็ต้องมทำความเข้าใจกัน แต่นี่จะเปิดตัวอยู่รอมร่อ ไม่มีใครบอกกล่าวผมเลย เท่ากับไม่ให้เกียรติกันอย่างชัดเจน ก็คงต้องทางใครทางมัน”

4) นายสมพงษ์ กล่าวยืนยันว่า การตัดสินใจลาออกจากพรรคเพื่อไทยครั้งนี้ เป็นการตัดสินใจเพียงลำพัง ไม่ได้หารือหรือแจ้งให้ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ บุตรชาย ที่มีตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยทราบแต่อย่างใด เพราะเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับสายสัมพันธ์ครอบครัว วันนี้ นายจุลพันธ์ ก็ถือว่ามีความอาวุโสทางการเมืองพอสมควร และมีแนวทางการเมืองที่เป็นตัวของตัวเองอยู่แล้ว ไม่อยากให้มองว่า ตนทิ้งพรรคเพื่อไทยในวันที่พรรคตกต่ำ แต่เป็นฝ่ายที่เลือกจะถอยออกมาเอง เพราะที่ผ่านมาได้ทุ่มเทอย่างเต็มความสามารถ ด้วยความปรารถนาดีกับพรรค และกับครอบครัวชินวัตรมาโดยตลอด ยอมรับว่าใจหายและเสียใจอย่างยิ่ง เพราะได้ร่วมบุกเบิกมาตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย เมื่อถามถึงอนาคตทางการเมือง นายสมพงษ์ กล่าวว่า ส่วนตัวอายุ 84 ปีแล้ว ในความเป็นจริงก็คิดที่จะพักผ่อน และปล่อยให้การเมืองเป็นเรื่องของคนรุ่นใหม่ที่มีพละกำลังในการขับเคลื่อนประเทศมากกว่า แต่ก็มีหลายๆ เรื่องที่ยังคั่งค้าง อยากจะผลักดันให้คนเชียงใหม่ และประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ก่อนที่จะวางมือทางการเมือง หรือหากมีใครเห็นความสำคัญในความรู้ประสบการณ์ที่มีของตน ที่อาจไปช่วยเสริมในบางมิติให้กับนักการเมืองรุ่นลูกรุ่นหลาน ในลักษณะที่ปรึกษา หรือบทบาทที่เหมาะสมอื่นๆ ที่สามารถสร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติได้ ก็มีความพร้อมและยินดี แต่ยืนยันว่าไม่ได้ถูกพรรคไหนดูด เพราะแม้จะมีคนรู้จัก และสนิทสนมคุ้นเคยกับหลายพรรคการเมือง แต่คงไม่มีพรรคไหนกล้ามาดูดผมแน่นอน

5) 14 วันต่อมา ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมใหญ่วิสามัญประจำปีพรรคเพื่อไทย เพื่อเลือกหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยชุดใหม่ ที่ประชุมมีมติให้ “นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” ลูกชายของนายสมพงษ์เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ โดยได้คะแนน 354 คะแนน จากผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งหมด 369 คน และมีคนไม่ประสงค์ลงคะแนน 15 คน

6) นายจุลพันธ์ ได้แสดงวิสัยทัศน์ หลังรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคว่า ต้องขอบคุณที่ประชุมที่ให้ความมั่นใจ ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจอย่างสูงสุดของพวกตนที่มีโอกาสได้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ ณ จุดนี้ ซึ่งตนอยู่กับพรรคเพื่อไทย มาตั้งแต่รุ่นของพรรคไทยรักไทย ครึ่งชีวิตของตนมากกว่า 25 ปี ที่ได้ทำงานในฝ่ายของการเมือง ร่วมกับพรรคการเมืองพรรคนี้ มีความทรงจำมากมายที่เราผ่านมาด้วยกัน ทั้งความสำเร็จ อุปสรรค ไม่ใช่ถนนที่โรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างแน่นอน

ทุกท่านคงทราบดีเราผ่านการต่อสู้ทางการเมืองทุกรูปแบบทั้งบนถนน และในสภาฯ แต่เรายังคงอยู่รอดมาได้ เราผ่านการปฏิวัติรัฐประหาร ผ่านการตัดสิทธิ์ทางการเมือง นายกรัฐมนตรีถูกถอดถอนหลายครั้ง เขาพยายามปิดปากพวกเรา แต่พวกเราก็ยังคงอยู่ยังคงสู้

7) นายจุลพันธ์ พร้อมกับยังระบุอีกว่า วันนี้ถือเป็นอีกวันหนึ่งที่เราส่งไม้ต่อเพื่อการเดินหน้าพรรคการเมือง นโยบายเพื่อประโยชน์ของประชาชนในวันแรกที่พวกเรามารวมกันในนามไทยรักไทยในอดีต วันนั้นพวกเราไม่มีอะไรเลย มีแต่ความเชื่อ และความหวังว่า นโยบายที่ดี จะสามารถแก้ไขปัญหาให้กับชีวิตประชาชนได้ เราเป็นพรรคการเมืองแรกที่นำเสนอนโยบายที่กินได้และจับต้องได้จนเป็นที่ให้การยอมรับ และวันนี้ตนต้องเรียนกับทุกคนว่า จิตวิญญาณนั้นยังคงอยู่กับคณะกรรมการบริหารพรรคนี้ทุกคน เรายังคงยึดมั่นในคำว่า หัวใจคือประชาชน

8) นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ทั้งสื่อสารมวลชน และสังคม ส่งสัญญาณบอกว่า พรรคเพื่อไทย ต้องมีการเปลี่ยน ตนเห็นด้วย เพราะโลกเปลี่ยนทุกวันการเมืองไทยปรับเปลี่ยนตลอดเวลาประชาชนมีความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปวันนี้การยกเครื่องพรรคเพื่อไทย จึงไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นทางที่จำเป็นที่จะต้องเดิน เราในฐานะพรรคการเมือง ผ่านมาทั้งประสบการณ์ ที่เป็นความประทับใจเป็นความสำเร็จที่เราจะต้องจดจำ แต่แน่นอนว่า ก็ผ่านบาดแผล ที่จะต้องเรียนรู้ และหาทางแก้ไข เราแบกรับความหวังของประชาชน แบกความเชื่อมั่นของประชาชนที่เลือกเรามาโดยตลอด สิ่งเหล่านี้เป็นแรงขับเคลื่อนให้กับสมาชิกพรรคมาโดยตลอดและเราจะยึดมั่นกับประชาชนเพื่อนำพานโยบายที่เป็นประโยชน์คืนสู่ประชาชนทุกคน

9) นายจุลพันธ์ ยังกล่าวด้วยว่า แนวทางของพรรคในวันนี้ เราพร้อมที่จะยกเครื่อง อย่างแรก คือ การสื่อสารกับประชาชน จะต้องรวดเร็วทันการ และจะต้องตรงถึงประชาชนได้อย่างทันท่วงที ในส่วนของผู้สมัครเราต้องคัดผู้สมัครเข้าสู่การเลือกตั้งซึ่งกำลังจะมาถึงให้เป็นผู้สมัคร ซึ่งมีคุณภาพตรงกับความต้องการของประชาชน ในส่วนของนโยบายเราต้องย้อนกลับไปยังนโยบายซึ่งเป็นนโยบายที่ถูกใจ และสามารถตอบโจทย์ของประชาชนได้ วันนี้เรากำลังเดินหน้าในภารกิจเหล่านั้น นี่ไม่ใช่ภารกิจที่ง่าย แต่ตนไม่ได้อยู่คนเดียว มีพวกเราที่อยู่ในห้องนี้ทุกคนเป็นกำลัง และยังมีความเชื่อมั่นว่า ยังมีประชาชนอีกนับ 10 ล้านคนที่จะคอยเป็นกำลังผลักดันให้กับพรรคเพื่อไทย ในการเดินหน้านำพาพรรคเพื่อไทยไปสู่ชัยชนะในการเลือกตั้ง และเป็นรัฐบาลในครั้งถัดไปให้ได้ ขอกำลังจากพวกเราทุกคนร่วมมือร่วมใจ และที่สำคัญเชื่อมั่นในพรรคเพื่อไทยเชื่อมั่นในแนวทางที่เรายึดมั่นแล้ว เราจะนำพาพรรคและประเทศไทยไปสู่ความสำเร็จและอนาคตที่สดใส

10) สำหรับกรรมการบริหารพรรค ประกอบด้วยรองหัวหน้าพรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล, นายสรวงศ์ เทียนทอง,นางมนพร เจริญศรี, นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ, นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล, นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ, นายจักรพงษ์ แสงมณี, นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์, นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล, นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล, นายก่อแก้ว พิกุลทอง, นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ และนายจเด็ศ จันทรา

ขณะที่กรรมการบริหารพรรค ประกอบด้วย นายดนุพร ปุณณกันต์, นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด, นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์,นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์, นายวรวงศ์ วรปัญญา และนายวิพุธ ศรีวะอุไร

ส่วนนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ยังคงทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เพื่อร่วมสู้ศึกเลือกตั้งกับพรรค

11) วิเคราะห์กันในแง่ที่ว่า พรรคเพื่อไทยเป็นของ “ตระกูลชินวัตร” และล่มสลายในรอบล่าสุดก็ด้วยตระกูลชินวัตร กล่าวคือ ทักษิณโกงบ้านโกงเมือง ต้องคดี แล้วหนีไป ก่อนจะกลับมารับโทษ ถูกพิพากษาจำคุก 8 ปี ได้รับพระมหากรุณาธิคุณอภัยลดโทษ เหลือโทษ 1 ปี ก็ยังโกงโทษ โดยสร้างเรื่องว่าป่วยวิกฤต ต้องไปรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ จนถูกจับได้ว่า ไม่ได้ป่วยวิกฤตที่ผ่านมา จึงเสมือนไม่เคยรับโทษจำคุก จึงต้องกลับเข้าคุกอีกครั้งเพื่อรับโทษ “ตามพระบรมราชโองการ” ขณะที่ลูกสาว คือ “แพทองธาร ชินวัตร” ก็เป็นนายกฯ หย่อนปัญญา แก้ปัญหาประเทศชาติและประชาชนไม่ได้ แถมมีคลิปเสียงสนทนาที่ถูกตีตราว่า “ขายชาติ” กับ “ฮุนเซน” แห่งกัมพูชา นำมาซึ่งสงครามชายแดน ประชาชนหลายจังหวัดได้รับผลกระทบ จนแพทองธารตกจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี และคะแนนนิยมของพรรคก็ตกต่ำกราวรูด

12) ยังนึกไม่ออกว่า “จุลพันธ์” จะมีสติปัญญาอะไรที่จะแก้ไขในเรื่องนี้ เนื่องจากความเสื่อมของพรรคไม่ได้เกิดจาก สส. แต่เกิดจาก “เจ้าของพรรค” ผู้เป็นสัญลักษณ์และผู้นำทางจิตวิญญาณ ที่บัดนี้กาลเวลาพิสูจน์แล้วว่า คนพวกนี้ไม่ได้อยู่เพื่อประชาชน แต่อยู่เพื่อตัวเอง เสวยสุข และลุ่มหลงในอำนาจของตน ไม่ฟังเสียงใคร เอาตัวรอดอยู่ร่ำไป และหลอกใช้มวลชนรอบแล้วรอบเล่า

13) “จุลพันธ์” เอง หากตระกูลชินไม่พยักหน้า ถามว่ามีบารมีอะไรให้คนในพรรคลงคะแนนเลือกมากเท่านี้ และถามต่อว่าจะมีบารมีอะไรในการนำคนในพรรค ภายใต้การแวะเข้าไปในห้องประชุมก่อนหน้านี้ของ “คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์”แล้วบอกว่า “สู้ๆ นะคะ”

แต่เมื่อฟัง “วิสัยทัศน์” ของจุลพันธ์แล้ว ก็เข้าใจได้ นึกถึงคำของ “นายชัยเกษม นิติสิริ” ที่ว่า “ผมเป็นแค่ตุ๊กตาตัวหนึ่ง” ได้ก้องหู เมื่อเจอวาทกรรมที่หลุดจากปาก “จุลพันธ์”ที่ว่า “เราผ่านการปฏิวัติรัฐประหาร ผ่านการตัดสิทธิ์ทางการเมือง นายกรัฐมนตรีถูกถอดถอนหลายครั้ง เขาพยายามปิดปากพวกเรา แต่พวกเราก็ยังคงอยู่ยังคงสู้” ซึ่งมันคือวาทกรรมของตระกูลชินวัตรที่ใช้หลอกตัวเอง หลอกประชาชน โดยไม่ได้สำนึกในความผิดที่ทำ จนนำมาสู่การถูกยุบพรรค การถอดถอน และการต้องติดคุกเลย

“จุลพันธ์” เอง ขณะเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังก่อนหน้านี้ ก็ล้มเหลวรอบแล้วรอบเล่าในการเลื่อนนโยบาย “ดิจิทัล วอลเล็ต” ไม่ได้มีผลงานอะไร

แต่วาทกรรมของเขา เห็นชัดว่า “รู้ใจ” และ “คาบ” วาทกรรมตระกูลชินวัตรมาสานต่อได้ 1,000,000 เปอร์เซ็นต์

ยินดีต้อนรับ “หุ่นเชิด” ตัวใหม่

มารอดูกันว่า ตระกูลชินวัตรจะเชิด “จุลพันธ์” อย่างไร

และสุดท้ายจะเป็นแค่ “หัวหน้าพรรค” ที่ไม่ได้เป็นตัวเลือก “นายกฯ” ก่อนจะถูกเขี่ยทิ้งจากเก้าอี้หัวหน้าพรรคเหมือนผู้เป็นพ่ออีกหรือเปล่า!

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
08:41 น. ‘นิพิฏฐ์’ฉายภาพเลือกตั้ง‘ภาคใต้’ ชวนปชช.กากบาท X เปลี่ยนแปลงสังคมสีเทา
08:20 น. กาง‘ดัชนีการเมือง’สะท้อนปชช.‘เฝ้าดู แต่ยังไม่มั่นใจ’ผลงานรัฐบาล ‘นายกฯ-ไอซ์ รักชนก’โดดเด่น
08:04 น. ‘รองนายก อบต.’ยิงดับอดีตทหารป่าหวาย-เมีย ฉุนปล่อยดูแล‘แม่ยาย’ป่วยติดเตียงคนเดียว
07:49 น. เศรษฐศาสตร์วันหยุด : เศรษฐกิจไทยปี 2569 อาการน่าเป็นห่วง
07:32 น. เช็กเรตติ้งการเมือง!วันนี้‘คนอีสาน’เชียร์‘พรรคการเมือง’ไหน หนุนใครนั่ง‘นายกฯ’
ดูทั้งหมด
พร้อมกันหรือยัง!!! เปิดภาพพยากรณ์อากาศ 12-13 พ.ย. อุณหภูมิเย็นลงอีกครั้ง
มิติใหม่! 'หน้าเหมือนองค์หญิงมาก องค์หญิงจ๊ะ' สมเด็จเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี ทรงไลฟ์สดแต่งพระพักตร์ครั้งแรก (ชมคลิป)
มาแล้ว!!! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 28 ต.ค.-3 พ.ย.68
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568
'พี่ดี้'ถึงกับห่อเหี่ยวอดสู เห็นประกาศรับสมัครครูปฐมวัย เงินเดือน6,000บาท
ดูทั้งหมด
กองทัพไทยกับการสนับสนุนจากประชาชน
บุคคลแนวหน้า : 2 พฤศจิกายน 2568
อะไรที่ทุกคนต้องเรียน
‘พ่อ’ ลาออก ‘ลูก’ ขึ้นหัวหน้า
สส.ไทยมีประวัติ (เลว) กันทั้งนั้น!!!
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ยิปซี 12 นักษัตร พยากรณ์ : ระหว่างวันที่ 2- 8 พฤศจิกายน พ.ศ.2568

‘ทั่วไทย’ฝนฉ่ำ-‘กทม.’ 80% ของพื้นที่ กรมอุตุฯเตือน‘อากาศแปรปรวน’ฉบับ 12

ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568

'อนุทิน'โพสต์เนื้อเพลงบ้านเรา 'ทรุดกายลงจูบดิน ไม่ถวิลอายใคร'

เชิดชูเกียรติ 'จ.ส.อ.พลพร' นักรบภูมะเขือ รู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ขอสู้เพื่อประเทศชาติถึงที่สุด

สิ้น 'น.ต.ฐิติ'อดีตเลขาพรรคสามัคคีธรรม พ่อของ'อนุดิษฐ์ นาครทรรพ'

  • Breaking News
  • ‘นิพิฏฐ์’ฉายภาพเลือกตั้ง‘ภาคใต้’ ชวนปชช.กากบาท X เปลี่ยนแปลงสังคมสีเทา ‘นิพิฏฐ์’ฉายภาพเลือกตั้ง‘ภาคใต้’ ชวนปชช.กากบาท X เปลี่ยนแปลงสังคมสีเทา
  • กาง‘ดัชนีการเมือง’สะท้อนปชช.‘เฝ้าดู แต่ยังไม่มั่นใจ’ผลงานรัฐบาล ‘นายกฯ-ไอซ์ รักชนก’โดดเด่น กาง‘ดัชนีการเมือง’สะท้อนปชช.‘เฝ้าดู แต่ยังไม่มั่นใจ’ผลงานรัฐบาล ‘นายกฯ-ไอซ์ รักชนก’โดดเด่น
  • ‘รองนายก อบต.’ยิงดับอดีตทหารป่าหวาย-เมีย ฉุนปล่อยดูแล‘แม่ยาย’ป่วยติดเตียงคนเดียว ‘รองนายก อบต.’ยิงดับอดีตทหารป่าหวาย-เมีย ฉุนปล่อยดูแล‘แม่ยาย’ป่วยติดเตียงคนเดียว
  • เศรษฐศาสตร์วันหยุด : เศรษฐกิจไทยปี 2569 อาการน่าเป็นห่วง เศรษฐศาสตร์วันหยุด : เศรษฐกิจไทยปี 2569 อาการน่าเป็นห่วง
  • เช็กเรตติ้งการเมือง!วันนี้‘คนอีสาน’เชียร์‘พรรคการเมือง’ไหน หนุนใครนั่ง‘นายกฯ’ เช็กเรตติ้งการเมือง!วันนี้‘คนอีสาน’เชียร์‘พรรคการเมือง’ไหน หนุนใครนั่ง‘นายกฯ’
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

‘พ่อ’ ลาออก ‘ลูก’ ขึ้นหัวหน้า

‘พ่อ’ ลาออก ‘ลูก’ ขึ้นหัวหน้า

2 พ.ย. 2568

‘ดอกไม้ดำ’ กับ ‘ยี่เป็งเชียงใหม่’

‘ดอกไม้ดำ’ กับ ‘ยี่เป็งเชียงใหม่’

29 ต.ค. 2568

‘กัน จอมพลัง’ กับพลังที่ซ่อนเร้น

‘กัน จอมพลัง’ กับพลังที่ซ่อนเร้น

26 ต.ค. 2568

การกลับมาของ ‘อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ’

การกลับมาของ ‘อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ’

22 ต.ค. 2568

บำเพ็ญกุศลซาก ‘ทักษิณ’

บำเพ็ญกุศลซาก ‘ทักษิณ’

19 ต.ค. 2568

‘นักสิทธิมนุษยชน’ กับ เสียงหลอนๆ

‘นักสิทธิมนุษยชน’ กับ เสียงหลอนๆ

15 ต.ค. 2568

‘คนละครึ่งพลัส’ กระสุนที่เล็งเข้าเป้า

‘คนละครึ่งพลัส’ กระสุนที่เล็งเข้าเป้า

12 ต.ค. 2568

เลวร้ายยิ่งกว่าสัตว์!

เลวร้ายยิ่งกว่าสัตว์!

8 ต.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved