วันจันทร์ ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / คิด เขียน คุย
คิด เขียน คุย

คิด เขียน คุย

รุ่งเรือง ปรีชากุล
วันจันทร์ ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 02.00 น.
ถอนราก‘สแกมเมอร์’งานท้าทาย‘อนุทิน’

ดูทั้งหมด

  •  

คนไทยในประเทศนี้ส่วนใหญ่ยังรู้สึกเจ็บใจเขมร มันก่อสงครามรุกรานไทยเราก่อน แต่สุดท้ายก็ต้องจบแบบ “เกี๊ยเซียะ”ยอมๆ กันไป โดยมีชาติที่สามที่สี่เข้ามาตีกินกับเลือดเนื้อและชีวิตของพลเรือนไทยและทหารไทย ที่เสียชีวิตบาดเจ็บและพิการ ซึ่งคิดดูแล้วมันง่ายเกินไป

คนไทยที่เป็นราษฎรผู้บริสุทธิ์ซึ่งไม่รู้อิโหน่อิเหน่แต่ต้องรับเคราะห์กรรมที่เขมรเป็นผู้ก่อสงคราม ซึ่งมีทั้งเด็กและผู้หญิงรวมอยู่ด้วย เสียชีวิตไป 16 ศพ บาดเจ็บอีก 38 คน และทหารเสียชีวิตไป 15 นาย พร้อมทั้งบาดเจ็บอีก 192 นาย ในจำนวนนี้มีพิการขาขาด 6 นาย และนอกจากนั้น มีโรงพยาบาลทั่วไปเสียหาย 20 แห่ง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) เสียหาย 144 แห่ง บ้านเรือนประชาชนเสียหาย705 หลัง และโรงเรียนต้องปิดการสอนช่วงเกิดสงครามรุกรานระหว่างวันที่ 24-28 กรกฎาคม 2568 จำนวน 914 โรงเรียนใน 7 จังหวัด


โดยที่การลงนาม“ปฏิญญาสันติภาพ”ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา ระหว่างนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีไทย และ“ฮุน มาเนต”นายกรัฐมนตรีกัมพูชา นั้น สหรัฐอเมริกาโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับ“อันวาร์ อิบราฮิม”นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ต่างก็ยิ้มแก้มบาน ในฐานะผู้ทำให้สันติภาพจอมปลอมเกิดขึ้นได้

ขณะที่สองพ่อลูกตระกูลฮุนของเขมร“ฮุนเซน-ฮุน มาเนต” ผู้ซึ่งควรจะต้องถูกนำตัวไปขึ้นศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ในฐานะอาชญากรสงคราม ผู้ก่อสงครามรุกรานไทยอย่างไร้มนุษยธรรม อันส่งผลทำให้พลเรือนไทยผู้บริสุทธิ์บาดเจ็บล้มตายถึง 54 คน ปรากฏว่ารอดตัวไปได้อย่างลอยนวลเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จากการก่อสงครามในครั้งนี้

ส่วน สส.ไทย คือ สส.จากพรรคประชาชน ที่เป็นฝ่ายค้าน ก็ทำตัวเป็นฝูงอีแร้งลงรุมทึ้งจิกกินกับซากศพและสงครามที่สิ้นสุดลงไปแล้ว ด้วยการกล่าวหาตั้งแง่กับกลุ่มพลังจิตอาสาคนไทยด้วยกันเอง เพื่อมีเจตนาจะเซาะกร่อนบ่อนทำลายกองทัพที่ตนมีอคติ และมุ่งหวังจะทำลายอยู่แล้วเป็นประการสำคัญ โดยระหว่างที่มีสงคราม บรรดา สส.จากพรรคการเมืองนี้กลับนิ่งเฉย โดยมีเสียงจากชาวบ้านถามว่า“ไปมุดหัวหลบอยู่ที่ไหน”

เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ฝ่ายกัมพูชาได้เผยแพร่ภาพการถอนกำลังอาวุธจำนวนมากจากที่ถูกนำมาตั้งประชิดแดนไทย ยิ่งตอกย้ำว่ากัมพูชาหวังจะก่อสงครามใหญ่กับไทยอย่างยืดเยื้อ หากไม่มีปัญหาภายในของตนทั้งจากการขาดอาวุธยุทโธปกรณ์ตลอดจนยุทธปัจจัยรวมทั้งข้าวปลาอาหาร ที่ขาดการส่งกำลังบำรุง เนื่องจากกัมพูชามีอยู่อย่างจำกัด ประกอบกับแสนยานุภาพในการรบของกองทัพไทยก็มีศักยภาพสูงกว่ากัมพูชาในทุกๆ ด้าน เชื่อกันว่า กัมพูชาก็คงจะไม่ยอมยุติสงครามด้วยการวิ่งไปร้องขอให้“โดนัลด์ ทรัมป์”ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกามาหย่าศึก โดยมี“อันวาร์ อิบราฮิม”นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่เป็นสมุนนายหน้าในฐานะประธานอาเซียนเป็นผู้สนองรับ

ต้องจับตาดูกันต่อไป ว่ากัมพูชาจะเล่นอะไรพลิกแพลงแบบสุนัขลอบกัดหรือไม่ จากข้อตกลงเรื่องการถอนอาวุธหนักทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชา รวมทั้งหมด 3 ประเภทที่แบ่งเป็น 3 เฟส ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน - 31 ธันวาคม 2568 โดยมีคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) จากทั้งฝั่งไทยและกัมพูชาเข้าร่วมสังเกตการณ์

คือเฟสแรกระหว่างวันที่ 1 - 12 พฤศจิกายน 2568ตามที่กัมพูชาได้เผยแพร่ภาพเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เป็นการถอนอาวุธประเภท A หมายถึงระบบจรวดหลายลำกล้องที่มีตั้งแต่ 2 ลำกล้องขึ้นไปซึ่งตามภาพที่กองทัพกัมพูชาเผยแพร่นั้นเป็นการถอนปืนใหญ่อัตตาจร“SH-1”ขนาด 155 มม. พร้อมด้วยรถยิงจรวดหลายลำกล้อง“Type 90” และจรวดหลายลำกล้อง“Type 81” ขนาด 122 มม.ที่ผลิตในจีน และจรวดหลายลำกล้อง “BM-21”ขนาด 122 มม.ของรัสเซีย ออกจากแนวหน้าในฝั่งจังหวัดอุดรมีชัยของกัมพูชา ตรงข้ามจังหวัดศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ของไทย รวมทั้งจังหวัดพระวิหารของกัมพูชา ตรงข้ามจังหวัดศรีสะเกษ และอุบลราชธานีของไทย เพื่อนำกลับไปยังฐานที่ตั้งเดิม

เฟสที่ 2 ระหว่างวันที่ 22 พฤศจิกายน-12ธันวาคม 2568 จะเป็นการถอนอาวุธประเภท B หมายถึงระบบปืนใหญ่ทุกประเภท ประกอบด้วยระบบปืนใหญ่ลากจูงและปืนใหญ่อัตตาจร รวมถึงปืนใหญ่ขนาด 105 มม. 122 มม. 130 มม. 152 มม.และ 155 มม.

และเฟสที่ 3 ระหว่างวันที่ 13-31 ธันวาคม 2568 จะเป็นการถอนอาวุธประเภท C คือ รถหุ้มเกราะ โดยเฉพาะรถถังที่ออกแบบมาเพื่อให้มีการเคลื่อนที่ ที่ได้รับการปกป้องอำนาจการยิงที่เหนือกว่าและกำลังสนับสนุนโดยตรง ซึ่งรถถังประเภทนี้เป็นยานรบภาคพื้นดินที่มีอำนาจการยิงและการป้องกันตัวสูง โดยกัมพูชาใช้รถถัง “T-54/T-55”ของรัสเซีย และ “Type 59”ของจีน

อย่างไรก็ตาม เรื่องการถอนกำลังอาวุธได้มีการขยับ“เฟส 1” กันไปแล้วเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนตามที่เป็นข่าว ยังเหลืออีก 3 เรื่อง ที่จะต้องทำพร้อมกันไปตาม“ปฏิญญาสันติภาพกรุงกัวลาลัมเปอร์” คือการเก็บกู้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล, การปราบปราม“สแกมเมอร์” หรือ“Cyber Scam” และการจัดการพื้นที่ที่แต่ละฝ่ายอ้างสิทธิ์ จากหลักเขต ที่ 42 ถึง 47 ช่วงบ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ซึ่งทั้ง 3 เรื่องนี้ฝ่ายกัมพูชาเพิ่งจะยินยอมร่วมมือกับไทยเป็นครั้งแรก จากการลงนามในปฏิญญาฉบับนี้

ในข้อตกลงทั้ง 4 ข้อนั้น ถ้ากัมพูชาซึ่งเปรียบเสมือนอสรพิษไม่เบี้ยว ก็จะนำไปสู่สันติภาพที่ถาวรและเป็นจริงได้ จากนั้นฝ่ายไทยก็จะยอมเปิดด้านชายแดน“ไทย-กัมพูชา”ให้กลับมาเหมือนเดิมอีกครั้ง และการเปิดด่านชายแดนถ้าหากจะมีขึ้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้ให้สัมภาษณ์ยืนยันชัดเจนเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังเดินทางกลับมาจากการประชุมเอเปกที่ประเทศเกาหลีใต้ ว่า

“ขอยืนยันอีกครั้งเรื่องการเปิดด่านว่าถ้ารัฐบาลจะเปิดด่าน ต้องขอประชาชนก่อน จะได้ไม่ต้องพูดกันอีก และคิดว่ามาถึงจุดที่รัฐบาลต้องฟังประชาชนในเรื่องการเปิดด่าน และเราจะไม่เปิดด่านจนกว่าจะมั่นใจว่า ภัยต่อความมั่นคงลดลงไป จนเราวางใจ และควบคุมได้”

จะอะไรก็ตามแต่ 1 เดือนเต็มที่รัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล เข้ามาบริหารประเทศ นอกจากจะต้องมาตามล้างตามเช็ดสิ่งปฏิกูลที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยถ่ายเรี่ยราดไว้ในช่วง 2 ปีที่บริหารประเทศแล้ว การทำงานเพียงแค่ 1 เดือน ยังเห็นผลงานมากกว่า 2 ปีของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่นายกรัฐมนตรี 2 คนต้องพ้นจากตำแหน่งเพราะถูกศาลรัฐธรรมนูญถอดถอนออกจากตำแหน่ง โดยเฉพาะล่าสุดจากการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปกครั้งที่ 32ที่เพิ่งจะสิ้นสุดลง นายอนุทินได้รับเสียงชื่นชมสดุดีจากผู้นำทุกประเทศที่เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้อย่างถ้วนทั่ว และประเทศไทยก็กลับมาเป็นประเทศที่เนื้อหอมอีกครั้ง ซึ่งใครก็อยากจะมาลงทุนและทำการค้าด้วย

ฝากไว้เป็นการบ้านให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล ซึ่งมีเวลาอันจำกัดในฐานะ“รัฐบาลหนูชั่วคราว”ต้องทำให้สะเด็ดน้ำก่อนยุบสภาฯเลือกตั้งใหม่ นั่นก็คือ ล้างขบวนการ“สแกมเมอร์”เถื่อนเทาที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรี สส. หรือเจ้าพ่อมาเฟียที่ไหน ให้สิ้นซากแบบถอนรากถอนโคน

คนไทยทั้งประเทศเขาอยากรู้ว่า นายกรัฐมนตรีที่ชื่อ“หนู-อนุทิน ชาญวีรกูล”จะกล้าปราบจริงหรือไม่ ?!

รุ่งเรือง ปรีชากุล

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
18:08 น. มือปืนโมโหถูกทวงหนี้‘ค่าเช่านา’ ลูกซองสั้นลั่นกลางบ้าน เจ็บสาหัส 2 ราย
18:00 น. ขอบคุณกำลังใจ! 'หนุ่ม กรรชัย'เล่าอาการป่วย แถมฝากถึงคนสาปแช่ง
17:51 น. รับมือฝนตกค่ำนี้! 'ปภ.สมุทรปราการ'เตรียมความพร้อมระบายน้ำ
17:50 น. 'พล.ต.ณัฏฐ์'เปิด 2 ทางทวงคืน'ปราสาทตาควาย' ลั่นยังไงก็ต้องกลับมาเป็นของไทย
17:49 น. สาวร้านเครื่องสำอางยอมรับคิด VAT เพิ่มในโครงการคนละครึ่งอ้างยื่นภาษีถูกต้อง พร้อมให้ตรวจสอบ
ดูทั้งหมด
พร้อมกันหรือยัง!!! เปิดภาพพยากรณ์อากาศ 12-13 พ.ย. อุณหภูมิเย็นลงอีกครั้ง
มิติใหม่! 'หน้าเหมือนองค์หญิงมาก องค์หญิงจ๊ะ' สมเด็จเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี ทรงไลฟ์สดแต่งพระพักตร์ครั้งแรก (ชมคลิป)
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 2-8 พ.ย.68
(คลิป) 'สุภาพ-เรียบร้อย-ก้าวร้าว' เปรียบเทียบวุฒิภาวะ 3 รัฐมนตรีหญิง
ดูทั้งหมด
แบงก์ชาติต้องเข้ามาแทรกแซงค่าเงินบาทให้อ่อนตัวโดยเร็ว
ความทรงจำถึงพระองค์ท่าน จากหอประชุมจุฬาฯ สู่สวนจิตรลดา (1)
เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน
ฝ่ายทำงานจริง กับฝ่ายรอปั่นกระแส สร้างวาทกรรม
บุคคลแนวหน้า : 3 พฤศจิกายน 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ขอบคุณกำลังใจ! 'หนุ่ม กรรชัย'เล่าอาการป่วย แถมฝากถึงคนสาปแช่ง

รับมือฝนตกค่ำนี้! 'ปภ.สมุทรปราการ'เตรียมความพร้อมระบายน้ำ

สาวร้านเครื่องสำอางยอมรับคิด VAT เพิ่มในโครงการคนละครึ่งอ้างยื่นภาษีถูกต้อง พร้อมให้ตรวจสอบ

‘ราเมศ’ซัดแรง‘กาฝากประชาธิปไตย’ สวน‘ก่อแก้ว’บิดเบือนให้‘ปชป.-อภิสิทธิ์’เสียหาย

‘นายกฯ’ต้อนรับ‘ลี เซียนลุง’อดีตนายกฯ สิงคโปร์ หลังเข้าถวายสักการะพระบรมศพ'พระพันปีหลวง'

‘กรมชลประทาน’เร่งหน่วงน้ำ หลัง‘ร่องมรสุม’ทำพิษ‘น้ำเหนือ’เพิ่มสูงขึ้น

  • Breaking News
  • มือปืนโมโหถูกทวงหนี้‘ค่าเช่านา’ ลูกซองสั้นลั่นกลางบ้าน เจ็บสาหัส 2 ราย มือปืนโมโหถูกทวงหนี้‘ค่าเช่านา’ ลูกซองสั้นลั่นกลางบ้าน เจ็บสาหัส 2 ราย
  • ขอบคุณกำลังใจ! \'หนุ่ม กรรชัย\'เล่าอาการป่วย แถมฝากถึงคนสาปแช่ง ขอบคุณกำลังใจ! 'หนุ่ม กรรชัย'เล่าอาการป่วย แถมฝากถึงคนสาปแช่ง
  • รับมือฝนตกค่ำนี้! \'ปภ.สมุทรปราการ\'เตรียมความพร้อมระบายน้ำ รับมือฝนตกค่ำนี้! 'ปภ.สมุทรปราการ'เตรียมความพร้อมระบายน้ำ
  • \'พล.ต.ณัฏฐ์\'เปิด 2 ทางทวงคืน\'ปราสาทตาควาย\' ลั่นยังไงก็ต้องกลับมาเป็นของไทย 'พล.ต.ณัฏฐ์'เปิด 2 ทางทวงคืน'ปราสาทตาควาย' ลั่นยังไงก็ต้องกลับมาเป็นของไทย
  • สาวร้านเครื่องสำอางยอมรับคิด VAT เพิ่มในโครงการคนละครึ่งอ้างยื่นภาษีถูกต้อง พร้อมให้ตรวจสอบ สาวร้านเครื่องสำอางยอมรับคิด VAT เพิ่มในโครงการคนละครึ่งอ้างยื่นภาษีถูกต้อง พร้อมให้ตรวจสอบ
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ถอนราก‘สแกมเมอร์’งานท้าทาย‘อนุทิน’

ถอนราก‘สแกมเมอร์’งานท้าทาย‘อนุทิน’

3 พ.ย. 2568

‘พรรคเพื่อไทย’กงสีของ‘ตระกูลชิน’

‘พรรคเพื่อไทย’กงสีของ‘ตระกูลชิน’

31 ต.ค. 2568

‘อนุทิน’ปลาหมอตายเพราะปาก

‘อนุทิน’ปลาหมอตายเพราะปาก

30 ต.ค. 2568

‘แม่ของแผ่นดิน’ผู้ทรงพลิกฟื้นศิลปวัฒนธรรมไทย

‘แม่ของแผ่นดิน’ผู้ทรงพลิกฟื้นศิลปวัฒนธรรมไทย

29 ต.ค. 2568

MOU-แร่หายาก‘อนุทิน’ชักศึกเข้าบ้าน

MOU-แร่หายาก‘อนุทิน’ชักศึกเข้าบ้าน

28 ต.ค. 2568

‘แม่ผู้ยิ่งใหญ่ของแผ่นดิน’

‘แม่ผู้ยิ่งใหญ่ของแผ่นดิน’

27 ต.ค. 2568

ยำใหญ่‘รัฐบาลหนูชั่วคราว’

ยำใหญ่‘รัฐบาลหนูชั่วคราว’

24 ต.ค. 2568

‘ฟ้ากับเหว’นายกฯหญิงญี่ปุ่นกับ‘2 นายกฯหญิงตระกูลชิน’

‘ฟ้ากับเหว’นายกฯหญิงญี่ปุ่นกับ‘2 นายกฯหญิงตระกูลชิน’

23 ต.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved