วันพฤหัสบดี ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / คิด เขียน คุย
คิด เขียน คุย

คิด เขียน คุย

รุ่งเรือง ปรีชากุล
วันพฤหัสบดี ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 02.00 น.
เชื้อไม่ทิ้งแถว‘ดีเอ็นเอ’ตระกูลชิน

ดูทั้งหมด

  •  

อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งพลิกคดีสั่งให้“ทักษิณ ชินวัตร” ต้องจ่ายภาษีย้อนให้แก่กรมสรรพากรเป็นเงินถึง 1.76 หมื่นล้านบาท (17,629 ล้านบาท) เป็นภาษีจากการที่“ทักษิณ”และ“ครอบครัวชินวัตร”ขายหุ้นชินคอร์ป จำนวน 49 เปอร์เซ็นต์ให้“กองทุนเทมาเส็ก”ของสิงคโปร์ ในปี 2549 มูลค่า 7.3 หมื่นล้านบาท (73,000 ล้านบาท) อ่านรายละเอียดแล้วก็ทำให้ฉุกคิดแบบมีข้อสงสัย

คือสงสัยว่า “ทักษิณ ชินวัตร” ซึ่งเวลานี้ใช้คำนำหน้าว่า“นักโทษเด็ดขาดชาย” หรือ “น.ช.” ติดคุกอยู่ในเรือนจำกลางคลองเปรมจากคดีทุจริตประพฤติมิชอบขณะเป็นนายกรัฐมนตรี กับบรรดาลูกเมียและวงศาคณาญาติของตระกูลชินวัตร เป็นคน“เยี่ยงนี้”กันหรือ เนื่องจากคำพิพากษาของศาลฎีการะบุว่า การยักย้ายถ่ายเทหุ้นของ“ทักษิณ”นั้น ขาดคุณธรรมทางภาษี และเป็นธุรกรรมที่ทำขึ้นเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมายอย่างร้ายแรง


ทั้งนี้ ศาลฎีกาได้พิพากษา จากการที่“ทักษิณ ชินวัตร”เป็นโจทก์ยื่นฟ้องกรมสรรพากรเพื่อให้มีคำสั่งเพิกถอนคำสั่ง ที่สั่งให้โจทก์จ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากการขายหุ้น“ชินคอร์ปอเรชั่นฯ” เป็นเงิน 1.76 หมื่นล้านบาทให้กับกรมสรรพากรนั้น-ว่า

“การที่โจทก์ปกปิดการถือหุ้น บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ“ชินคอร์ป”ของตน โดยให้บุคคลอื่น รวมถึงนายพานทองเเท้ ชินวัตร และนางสาวพินทองทา ชินวัตร ถือหุ้นแทนเพราะโจทก์ประสงค์ที่จะเข้ารับตำแหน่งทางการเมือง ที่กฎหมายห้ามมิให้โจทก์ถือหุ้นบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ที่ขาดคุณธรรมทางภาษีและไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกฎหมายภาษีอากรในการจัดเก็บภาษีอากร ส่งผลให้รัฐไม่สามารถจัดเก็บภาษีได้อย่างถูกต้องและแน่นอนตามเจตนารมณ์แห่งกฎหมาย ทั้งเป็นธุรกรรมที่ไม่มีเหตุผลทางเศรษฐกิจนอกเหนือจากการหาประโยชน์อื่น รวมถึงภาษีเงินได้ และเป็นธุรกรรมที่ทำขึ้นเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมายอย่างร้ายแรง”

สรุปก็คือ “ทักษิณ ชินวัตร”ยักย้ายถ่ายเทหุ้น“ชินคอร์ป”ไปซุกอยู่ในชื่อของลูกชายลูกสาว ซึ่งก็เหมือนกับกรณี“ซุกหุ้น”ผ่านแม่บ้าน ผ่านคนรับใช้ และคนขับรถในปี 2544 หลังจากพรรคไทยรักไทยได้เป็นรัฐบาล และ“ทักษิณ”เป็นนายกรัฐมนตรี โดย ป.ป.ช.ตรวจพบและส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาถอดถอนออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่“ทักษิณ”รอดมาได้ เพราะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก 8 ต่อ 7 เสียง ใช้หลักรัฐศาสตร์ในการวินิจฉัย อันเป็นที่มาของวาทะ “บกพร่องโดยสุจริต” หรือในความหมาย“การทุจริตโดยมิได้เจตนา”

กรณี“บกพร่องโดยสุจริต”นี้ จะว่าเป็นภาคแรกของการขาดคุณธรรมทางภาษี และ “เป็นธุรกรรมที่ทำขึ้นเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมายอย่างร้ายแรง” ของนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร อันนำมาสู่ภาคสองคือการขายหุ้นชินคอร์ปจำนวน 49 เปอร์เซ็นต์ให้“กองทุนเทมาเส็ก”ของสิงคโปร์ ก็ไม่ผิดนัก

ในภาคแรกนั้น ในเดือนกันยายนปี 2543 “ทักษิณ ชินวัตร” และคู่สมรส คือ“คุณหญิงพจมาน ชินวัตร” ได้แจ้งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ว่า ได้ขายหุ้นชินคอร์ป และหุ้นบริษัทอื่นๆ เช่น หุ้นธนาคารทหารไทย มูลค่า 2 หมื่นล้านให้แก่นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย, นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวของ“ทักษิณ” และนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายของคุณหญิงพจมาน ในราคาหุ้นละ 10 บาท โดยอ้างว่าต้องการทำงานการเมืองเต็มตัวไม่ยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจ และเพื่อให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ (ฉบับปี 2540) ที่ห้ามไม่ให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ถือหุ้นในบริษัทจำกัดเกิน 5 เปอร์เซ็นต์

ปรากฏว่า ในเวลาต่อมาเกิดโอละพ่อ เมื่อ ป.ป.ช.ตรวจพบว่า “ทักษิณ ชินวัตร” ยังได้โอนหุ้นไปซุกไว้กับนางสาวบุญชู เหรียญประดับ แม่บ้าน, นายชัยรัตน์ เชียงพฤกษ์ คนรับใช้ในบ้านจันทร์ส่องหล้า และนายวิชัย ช่างเหล็กคนขับรถ อีกทั้ง ป.ป.ช.ยังตรวจพบด้วยว่า “ทักษิณ”เลี่ยงภาษีจากการโอนหุ้นให้“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” และนายบรรพจน์ ดามาพงศ์ รวมถึงการโอนหุ้นไปยังเกาะบริติช เวอร์จิน (British Virgin Islands) ที่ตั้งอยู่ในทะเลแคริบเบียนฝั่งตะวันออกของประเทศจาเมกา อันเปรียบเสมือน“เกาะสวรรค์”สำหรับการเลี่ยงภาษีและใช้เป็นแหล่งฟอกเงินของนักการเมืองและทุนเทาจากทุกประเทศบนโลกใบนี้

ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ที่กล่าวมานั้น คือที่มาของกรณี“ซุกหุ้น”ภาคแรก และ“ทักษิณ ชินวัตร”รอดมาได้ เพราะ“บกพร่องโดยสุจริต” ซึ่งทำให้ต่อมาในภายหลัง ก็ทำให้“อาณาจักรชินคอร์ป” เติบโตอย่างรวดเร็วท่ามกลางข่าวทุจริตคอร์รัปช่ัน ทั้งธุรกิจโทรศัพท์มือถือ ธุรกิจอินเตอร์เนต ดาวเทียม อสังหาริมทรัพย์ และรวมถึงธุรกิจใหม่ๆ ของคนในครอบครัวตระกูลชินวัตร

โดยดูได้จากรายงานสินทรัพย์ประจำปีของบริษัทในอาณาจักรชินคอร์ป ในยุคที่“ทักษิณ ชินวัตร”เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งตัวเลขมีแต่เพิ่มขึ้น เช่นปี 2543 ก่อน“ทักษิณ”เป็นนายกรัฐมนตรี บริษัทในเครือชินคอร์ปมีรายได้ 3.78 หมื่นล้านบาท และในปี 2544 เมื่อ“ทักษิณ”เป็นนายกรัฐมนตรีขยับเพิ่มเป็น 4.13 หมื่นล้านบาท และเพิ่มเป็น 5.12 หมื่นล้านบาท และ 6.63 หมื่นล้านบาท ในปีถัดตามลำดับ

ดังนั้น เรื่องการขายหุ้นชินคอร์ปจำนวน49 เปอร์เซ็นต์ให้“กองทุนเทมาเส็ก”ของสิงคโปร์ ในปี2549 ของ“ทักษิณ ชินวัตร” และ“ทักษิณ”ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุก 5 ปี ซึ่งเวลานี้ต้องเป็นนักโทษติดคุกอยู่ในเรือนจำกลางคลองเปรม กระทั่งล่าสุดถูกศาลฎีกาพิพากษาสั่งให้จ่ายภาษีแก่ 1.76 หมื่นล้านบาท ล้วนเป็นเรื่องเดียวกัน คือ เป็นผู้ที่“ขาดคุณธรรมทางภาษี” และสิ่งที่ทำถือว่าเป็น“ธุรกรรมที่ทำขึ้นเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมายอย่างร้ายแรง”

ส่วนเยี่ยงอย่างของ“ทักษิณ ชินวัตร”ตามที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น อย่างน้อย“แพทองธาร ชินวัตร”บุตรสาวผู้สืบสันดานบิดา และมี“ดีเอ็นเอ”เดียวกัน ก็ได้ประพฤติให้เห็นอย่างที่ทราบกันดี คือ การทำ“นิติกรรมอำพราง” กรณีซื้อหุ้นจากเครือญาติโดยจ่ายค่าหุ้นเป็น“ตั๋วP/N”เพื่อเลี่ยงภาษี เฉกเช่นเดียวกันกับบิดาไม่มีผิดเพี้ยน

ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริงๆ-พับผ่า !

รุ่งเรือง ปรีชากุล

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
22:13 น. ‘สธ.’ส่งยาเวชภัณฑ์ ชุดยาสามัญประจำบ้าน 15,000 ชุด ช่วยเหลือประชาชนพื้นที่น้ำท่วม
22:01 น. ‘ชัยภูมิ’รวมใจ! พอ.สว.ลำดับ46 ออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่‘พระพันปีหลวง’
21:46 น. ‘สืบปัว’รวบคากุฏิ-จับสึกพระเสพยาบ้า
21:37 น. สมเด็จเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ทรงเปิดงาน 'Kraam International Symposium 2025'
21:31 น. ‘ททท.ระยอง’เร่งเครื่องลุย 5 โครงการ ดันยอดนักท่องเที่ยว 6.5 ล้านปลายปีนี้
ดูทั้งหมด
การทูตหยุดโลก 'อ.ธรณ์'ชี้ความสำคัญ ในหลวงเสด็จเยือนจีน
เบื้องหลังฉลองพระองค์ 'สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี'
กลับถึงไทยแล้ว! นักศึกษาไทยป่วยโคม่าในเกาหลีใต้ หลังนางเอก'แดจังกึม'ยื่นมือเข้าช่วย
งดงามดุจจันทรา! เปิดรายละเอียด'ไหมเปลือก 6 เส้น' ที่สุดแห่งเส้นใยชั้นนอกสู่ฉลองพระองค์อันวิจิตร
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 พฤศจิกายน 2568
ดูทั้งหมด
เขมรเล่นบทเหยื่อเพื่อตอแหล
เชื้อไม่ทิ้งแถว‘ดีเอ็นเอ’ตระกูลชิน
จีน-ไทย มิใช่อื่นไกล แต่เป็นพี่น้องกัน : ในรอบใหม่
สติแตก
1.76 หมื่นล้านบาท ทำไมทักษิณต้องจ่ายภาษีขายหุ้นชินฯ (ตอนจบ)
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

สมเด็จเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ทรงเปิดงาน 'Kraam International Symposium 2025'

ชาวเน็ตแซะ'ไม่อายเหรอ' ดส.บุกค้นบาร์โฮสรัชดา 18 ยึดของกลางแค่เหล้า 1 ขวด

'วุ้นเส้น'มาเอง!! ยันไม่ใช่ดาราตัวแม่เบี้ยวหนี้แก๊งเพื่อน 400 ล้าน

‘อุทยานแห่งชาติภูเวียง-12 หน่วยงาน’คว้ารางวัล‘สุดยอดส้วมสาธารณะแห่งปี 2568 ระดับประเทศ’

จิตอาสา ปตท.สผ. ร่วมเปลี่ยนขยะให้มีคุณค่า สร้างประโยชน์แก่ชุมชน

ผีกระสือเขมร! พบดวงไฟปริศนาคล้ายใบหน้าคน ลอยเหนือ'ผามะนาว'สุรินทร์

  • Breaking News
  • ‘สธ.’ส่งยาเวชภัณฑ์ ชุดยาสามัญประจำบ้าน 15,000 ชุด ช่วยเหลือประชาชนพื้นที่น้ำท่วม ‘สธ.’ส่งยาเวชภัณฑ์ ชุดยาสามัญประจำบ้าน 15,000 ชุด ช่วยเหลือประชาชนพื้นที่น้ำท่วม
  • ‘ชัยภูมิ’รวมใจ! พอ.สว.ลำดับ46 ออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่‘พระพันปีหลวง’ ‘ชัยภูมิ’รวมใจ! พอ.สว.ลำดับ46 ออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่‘พระพันปีหลวง’
  • ‘สืบปัว’รวบคากุฏิ-จับสึกพระเสพยาบ้า ‘สืบปัว’รวบคากุฏิ-จับสึกพระเสพยาบ้า
  • สมเด็จเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ทรงเปิดงาน \'Kraam International Symposium 2025\' สมเด็จเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ทรงเปิดงาน 'Kraam International Symposium 2025'
  • ‘ททท.ระยอง’เร่งเครื่องลุย 5 โครงการ ดันยอดนักท่องเที่ยว 6.5 ล้านปลายปีนี้ ‘ททท.ระยอง’เร่งเครื่องลุย 5 โครงการ ดันยอดนักท่องเที่ยว 6.5 ล้านปลายปีนี้
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

เชื้อไม่ทิ้งแถว‘ดีเอ็นเอ’ตระกูลชิน

เชื้อไม่ทิ้งแถว‘ดีเอ็นเอ’ตระกูลชิน

20 พ.ย. 2568

ชะตาชีวิตของ‘ทักษิณ’

ชะตาชีวิตของ‘ทักษิณ’

19 พ.ย. 2568

ไทย-จีน‘ดุจครอบครัวเดียวกัน’

ไทย-จีน‘ดุจครอบครัวเดียวกัน’

18 พ.ย. 2568

สหรัฐฯหัวโจก‘หมาหมู่’รุมไทย

สหรัฐฯหัวโจก‘หมาหมู่’รุมไทย

17 พ.ย. 2568

เผด็จศึกเขมรยุติสงคราม

เผด็จศึกเขมรยุติสงคราม

14 พ.ย. 2568

‘Do it My Way’ทางของ‘หนู-อนุทิน’

‘Do it My Way’ทางของ‘หนู-อนุทิน’

13 พ.ย. 2568

เทียบกำลังรบ‘สงครามไทย-กัมพูชา’

เทียบกำลังรบ‘สงครามไทย-กัมพูชา’

12 พ.ย. 2568

‘แต่ถึงรบไม่ขลาด’ต้องเด็ดขาดกับเขมร

‘แต่ถึงรบไม่ขลาด’ต้องเด็ดขาดกับเขมร

11 พ.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved