วันนี้ 27 กันยายน แล้วครับ เป็นวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดอ่าน
คำพิพากษา ที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตกเป็นจำเลย คดี เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ
หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
โดยทุจริต ( กฎหมายอาญา มาตรา 157)
พูดง่ายๆ ปล่อยปละละเลยต่อหน้าที่ปล่อยให้มีการทุจริต
ย้ำอีกครั้งนะครับ ละเลยต่อหน้าที่ ปล่อยให้มีการทุจริต ไม่ใช่ฟ้องเอาผิดเพราะ นางเป็นนายกรัฐมนตรี
แล้วดำเนินนโยบายรับจำนำข้าวดังที่ขี้ข้าของนาง บริษัทบริวารของนางป่าวร้องนะครับ
รับจำนำข้าวช่วยเหลือชาวนานั่นไม่ถือเป็นความผิด เขาฟ้องเอาผิดที่นางปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริต
นางจะปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตหรือไม่ วันนี้รู้ ทั้งที่ควรจะรู้ตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม ที่ผ่านมา
แต่บังเอิญว่า น้ำในหูของนางไม่เท่ากัน ทำให้เสียการทรงตัว นางจึงไม่ไปฟังคำพิพากษา
ไม่ว่า นางจะรอด หรือไม่รอด ก็ยากที่จะกลับประเทศเสียแล้ว เพราะยังมีคดีอื่นอีก เว้นเสียแต่ นางจะสู้คดี
ไป ถูกขังไป เพราะยากที่ศาลจะให้ประกันตัวคนที่เคยหนีศาลมาแล้ว
แต่เหตุการณ์ที่ นางสาวยิ่งลักษณ์ ไม่มาฟังคำพิพากษา เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม มีเรื่องให้เป็นที่โจษขานกันใน
สังคมต่ออีกมากมาย เริ่มตั้งแต่ รัฐบาล คสช. ปล่อยให้นางหนีไปได้อย่างไร ?
ฝ่ายรัฐบาลบอก นางสาวยิ่งลักษณ์ ย่อมมีอิสระ ไปไหนมาไหนได้ตามปกติ ยกเว้นการเดินทางออกนอก
ประเทศ นางจะต้องขออนุญาตศาล
แต่นี่นางหนี !
ในที่สุด ฝ่ายตำรวจก็สืบสวนสอบสวนจนได้ความว่า นางเดินทางออกนอกประเทศ ผ่านช่องทางธรรมชาติ
โดยมีนายตำรวจ 3 นาย พาทางเดินทางจากกรุงเทพฯ ถึง อรัญประเทศ ติดพรมแดน กัมพูชา จากนั้นมีรถ
กระบะ 4 ประตูมารับ
เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสามถูกควบคุมตัวมาสอบสวนอยู่ค่อนคืนแล้วก็ได้รับการปล่อยตัวไป โดย พลตำรวจ
เอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ตำรวจที่พานางสาวยิ่งลักษณ์ไปนั้น ไม่มีความผิด เพราะ พาไปแค่สระแก้ว และพาไปก่อนที่ศาลจะออกหมายจับในวันที่ 25 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันที่ศาลออกหมายจับ เพราะไม่มาฟังคำพิพากษา
นอกจาก บุคคลระดับผู้ บริหารจะออกมาพูดเช่นนี้แล้ว อดีตผู้พิพากษาบางท่านก็แสดงความคิดเห็นไปใน
แนวทางเดียวกัน คือ ไม่ผิด
ความผิดเล็กน้อยก็คือ ปลอมทะเบียนรถ เท่านั้นเอง !
เออ เมื่อตำรวจที่พานางสาวยิ่งลักษณ์ ไม่ผิดแล้วจะย้ายเขาออกจากตำแหน่ง รองผู้บังคับการตำรวจนคร
บาลภาค 5 ทำไม ทำไมไม่ให้อยู่ที่เดิม หรือ ป นบำเหน็จให้สูงขึ้น (ก็ยังได้)
ทำไม นางสิงห์ ของบรรดาขี้ข้าทั้งหลาย ต้องสวมหมวก เอาผ้าอนามัยปิดปาก อำพรางโฉม ทำไมตำรวจ
จะต้องเตรียมการย่อยสลายรถที่พานางสาวยิ่งลักษณ์ไปชายแดนให้เป็นซาก
และที่มาตรา 189 กฎหมายอาญา ที่เขียนไว้ว่า ผู้ ใดช่วยเหลือผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็น
ผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้ที่พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อน
เร้น หรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใดเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่
เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
กฎหมายอาญามาตรานี้เขายกเลิกกันแล้วหรือ ?
นางสาวยิ่งลักษณ์ เป็นผู้ต้องหาหรือไม่ นางเป็นผู้ต้องหาแน่นอน และเมื่อถูกฟ้อง ศาลรับฟ้อง นางก็
เป็นจำเลย
เป็นจำเลยในคดีที่ระวางโทษ หนึ่งปีถึงสิบปี
ศาลเรียกเงินประกันสูงถึง 30 ล้านบาท มีเงื่อนไขการประกันตัวว่า ห้ามเดินทางออกนอกประเทศอีก
ต่างหาก
คนที่ช่วยเหลือให้จำเลยหลบหนี ไม่มีความผิดเลยเหรอ
ศาลฎีกาเคยลงโทษ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังจะไปจับคนเล่นการพนัน แต่ร้องบอกให้นักพนันรู้ตัว (ฎีกา
2448/2521 น. 1523) ตำรวจที่ว่านั้นมันไม่ได้ขับรถพาจำเลยไปชายแดน เหมือนอย่างรายนี้ด้วยซ้ำ และนัก
พนัน ก็ยังไม่ได้ถูกจับ ยังไม่ตกเป็นผู้ต้องหา ยังไม่ได้เป็นจำเลย ที่ศาลห้ามออกนอกประเทศเหมือนนาง
นี่ด้วยนา
ผมตรวจสอบแล้วครับ กฎหมายมาตรานี้เขายังไม่ได้ยกเลิก
แต่เมื่อท่านผู้เป็นใหญ่ในบ้านเมืองนี้บอกว่าไม่ผิด มันก็ต้องไม่ผิดละครับ จะทำยังไงได้ พกปืนขึ้นเครื่องบิน
ก็ไม่ผิด ทุจริต หลายเรื่อง ก็สอบแล้วสอบอีก สอบจนหมดอายุความ ฯลฯ
เขาก็ทำกันมาแล้ว
สำคัญที่กำปั้นใครใหญ่ หรือไม่ใหญ่ เท่านั้น !
สำเริง คำพะอุ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี