เป็นที่คาดกันว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเลือกศิษย์เก่าจาก โกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) บริษัทวาณิชธนกิจชื่อดัง Steve Mnuchin (สตีฟ มิน-อู-ชิ่น) ขึ้นมาเป็นขุนคลังคู่กาย
และถ้าไม่เกิดการพลิกล็อกอะไร มินอูชิ่น ก็จะเป็นบุคลากรจากโกลด์แมน แซคส์คนที่สามในสี่รัฐบาลล่าสุด ที่เข้ามากุมบังเหียนการคลังของสหรัฐฯ ต่อจาก โรเบิร์ต รูบิน รัฐมนตรีคลัง (1995-1999) ในรัฐบาลบิล คลินตัน และเฮนรี พอลสัน รัฐมนตรีคลัง (2006-2009) สมัยรัฐบาลจอร์จ บุช จูเนียร์ทั้งนายรูบินและพอลสันนั้น เคยดำรงตำแหน่งระดับเบอร์หนึ่งของสถาบันการเงินแห่งนี้มาก่อนที่จะมาเป็นขุนคลังให้คลินตันและบุช ส่วนขุนคลังของรัฐบาลโอบามา ทิโมธี ไกธ์เนอร์ (2009-2012) แม้ไม่เคยผ่านงานจากโกลด์แมน แซคส์มาก่อน แต่ก็เป็นเด็กปั้น(protégé) ของโรเบิร์ต รูบิน ตั้งแต่ครั้งยังเป็นข้าราชการดาวรุ่งพุ่งแรง ในยุคที่รูบินเป็นเจ้ากระทรวง
ก่อนหน้านี้ไม่นานทรัมป์ก็ตั้ง สตีฟ แบนนอน Goldman Sachs alumni อีกคนหนึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์ประจำ(ตัว)ทำเนียบขาว (Chief White House of Strategist) ขณะเดียวกันก็มีข่าวว่า ทรัมป์สนใจอยากจะได้ตัว Gary Cohn ผู้บริหารระดับเบอร์สองของโกลด์แมน แซคส์คนปัจจุบันมาเป็นผู้อำนวยสำนักงบประมาณของสหรัฐฯ อีกด้วย
โกลด์แมน แซคส์ เป็นบริษัทวาณิชธนกิจชั้นนำของโลก วาณิชธนกิจหรือธนาคารเพื่อการลงทุน(Investment Bank)เป็นสถาบันการเงินประเภทหนึ่งที่ไม่ได้ให้บริการด้านการรับและฝากเงินแบบธนาคารพาณิชย์ทั่วไป (Commercial Bank) แต่จะทำหน้าที่ระดมทุน ซื้อขายหลักทรัพย์ ให้คำปรึกษาด้านการเงิน เช่น การปรับโครงสร้างหนี้ การจัดอันดับความน่าเชื่อถือ รวมถึงบริการทางการเงินด้านต่างๆ เช่น การบริหารครอบงำ/ควบรวมกิจการบริษัท ออกแบบผลิตภัณฑ์ทางการเงินรูปแบบใหม่ๆ โดยรายได้หลักๆ มาจากค่าคอมมิชชัน(commission) ในการทำดีล(deal) เหล่านี้
การขายหุ้นในกลุ่มบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ของตระกูลชินวัตรให้แก่บริษัทเทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ จำกัด (Temasek) เมื่อปี 2549 ก็มีโกลด์แมน แซคส์ เป็นผู้ทำดีลให้อยู่เบื้องหลัง
กองทุนเพื่อความมั่งคั่งแห่งชาติ (Sovereign Wealth Funds) กองทุนเพื่อการลงทุนหรือบรรษัทเพื่อการลงทุนของหลายๆ รัฐบาลล้วนใช้บริการโกลด์แมน แซคส์ในการเป็นผู้บริหารเงินของกองทุนให้ โดยเฉพาะกองทุนจากกลุ่มประเทศตะวันออกกลางซึ่งมีหลายกองทุนที่โกลด์แมน แซคส์บริหารขาดทุนหลายพันล้านดอลลาร์ เช่น กองทุนของประเทศลิเบีย (Libyan Investment Authority) อันนำไปสู่การฟ้องร้องเรียกใช้ค่าเสียหายจากรัฐบาลลิเบีย
บางกองทุนเช่น 1MDB (1Malaysia Development Berhad) บริษัทเพื่อการลงทุนของรัฐบาลมาเลเซียที่กำลังมีเรื่องทุจริตอื้อฉาวของนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ในข้อกล่าวหาว่า ยักยอกทรัพย์สินหลายพันล้านดอลลาร์จากกองทุนนี้เข้าบัญชีตัวเอง ปัจจุบัน 1MDB มีหนี้กว่าหมื่นล้านดอลลาร์ หนี้สินดังกล่าว ส่วนหนึ่งมาจากการออกพันธบัตรรัฐบาลสามพันล้านดอลลาร์ในปี 2013 ที่โกลด์แมน แซคส์เป็นผู้ดำเนินการให้ งานดีลนี้โกลด์แมน แซคส์ได้ค่าเหนื่อย 10% หรือ 300 ล้านดอลลาร์
สื่อมวลชนอเมริกันเคยพูดถึงโกลด์แมน แซคส์ ไว้สั้นๆ ว่า .....“The first thing you need to know about Goldman Sachs is that it’s everywhere.....”
โกลด์แมน แซคส์ ก่อตั้งปี ค.ศ.1869 โดย มาร์คัส โกลด์แมน (Marcus Goldman) นักธุรกิจการเงินเชื้อสายยิว ผู้อพยพจากเยอรมันมาตั้งรกรากที่นิวยอร์กในปี ค.ศ.1848 และ แซมมวล แซคส์(Samuel Sachs) วาณิชธนากร ชาวอเมริกันเชื้อสายยิวบุตรเขยของมาร์คัส ปัจจุบันโกลด์แมน แซคส์ มีสินทรัพย์รวมมูลค่ากว่า 800,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เงินทุนสำรองระหว่างประเทศของไทย ณ ปัจจุบันมีประมาณ 180,000 ล้านดอลลาร์) สำนักงานกว่า 60 แห่งทั่วโลกในกว่า 20 ประเทศ และพนักงานกว่า 34,000 คน
นอกจากอดีตสองขุนคลังและว่าที่ขุนคลังคนใหม่ของสหรัฐฯ บุคคลระดับสูงในภาครัฐของหลายๆ ประเทศ ตั้งแต่นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี รัฐมนตรีช่วย ผู้ช่วยรัฐมนตรี วุฒิสมาชิก ผู้ว่าการรัฐ ผู้ว่าการธนาคารกลาง เจ้าหน้าที่ระดับสูงองค์กรระหว่างประเทศ เช่น ธนาคารโลก กองทุนการเงินระหว่างประเทศ ธนาคารกลางยุโรป หลายคนล้วนเคยทำงาน เป็นผู้บริหารหรือเคยดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาให้โกลด์แมน แซคส์ อาทิ
นายโรเบิร์ต โซลลิก ผู้แทนการค้าแห่งสหรัฐอเมริกา (2001-2005) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศและประธานธนาคารโลก (2007-2012)
นายวิลเลี่ยม ดัดลี ประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา สาขานิวยอร์ก (2009-ปัจจุบัน)
นายจอน คอร์ไซน์ วุฒิสมาชิก รัฐนิวเจอร์ซี่ย์ (2001-2006) ผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซี่ย์ (2006-2010)
นายโจชัว บอลเตน ผู้อำนวยสำนักงบประมาณ สหรัฐฯ (2003-2006) หัวหน้าคณะทำงานประจำทำเนียบขาว (2006-2009)
นายมาริโอ มอนติ นายกรัฐมนตรี อิตาลี (2011-2013)
นายมาริโอดราจี ผู้ว่าการธนาคารกลาง อิตาลี (2005-2011) ประธานธนาคารกลางยุโรป (2011-ปัจจุบัน)
นายมาร์ค คาร์นี่ ผู้ว่าการธนาคารกลางแคนาดา (2008-2013) ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (2013- ปัจจุบัน)
นายเอียน แมคฟาร์แลนซ์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลีย (1996-2006)
นายมัลคอล์ม เทิร์นบูลล์ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย (2015-ปัจจุบัน)
นาย Efthymios Christodoulou ผู้ว่าการธนาคารกลางกรีซ (1991-1993)
นาย Tito Mboweni ผู้ว่าการธนาคารกลางเซาท์แอฟริกา (1999-2009)
นาย Olusegun Olutoyin Aganga รัฐมนตรีคลัง ประเทศไนจีเรีย (2010-2011)
นาย Erik Asbrink รัฐมนตรีคลัง สวีเดน (1996-1999)
นาย Ziad Bahaa Eldin รองนายกรัฐมนตรี อียิปต์ (2013-ปัจจุบัน)
บุคคลเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของศิษย์เก่าโกลด์แมน แซคส์ที่ทำงานอยู่หรือเคยอยู่ในภาครัฐของประเทศต่างๆ ทั่วโลกซึ่งในรอบ 30 กว่าปีที่ผ่านมา การแลกเปลี่ยนบุคลากรระหว่างโกลด์แมน แซคส์กับภาครัฐบาลประเทศต่างๆ ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ยังไม่รวมศิษย์เก่าอีกหลายคนที่แยกกระจายไปอยู่ในภาคเอกชนอื่นๆ โดยเฉพาะภาคการเงินในตำแหน่งผู้บริหารสถาบันการเงินและกองทุนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กองทุนเก็งกำไรระยะสั้นหรือเฮดจ์ฟันด์ (Hedge Fund) กองทุนส่วนบุคคล (Private Equity Fund) หรือกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ (Sovereign Wealth Fund) ที่มีอยู่กว่า 80 กองทุนในกว่า 50 ประเทศทั่วโลก สอดคล้องกับคำกล่าวข้างต้นที่ว่า “...สิ่งแรกที่คุณควรรู้เกี่ยวกับโกลด์แมน แซคส์ ก็คือ มันอยู่ทุกหนทุกแห่ง.....”
ธิติ สุวรรณทัต
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี