วันอังคาร ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / ปรีชา'ทัศน์
ปรีชา'ทัศน์

ปรีชา'ทัศน์

วันศุกร์ ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2567, 02.00 น.
การก่อหนี้สาธารณะครั้งแรกของไทย

ดูทั้งหมด

  •  

แนวคิดการก่อหนี้สาธารณะในประเทศไทยเริ่มปรากฏขึ้นสมัยรัชกาลที่ ๕ โดยที่ผ่านมาตั้งแต่ช่วงรัตนโกสินทร์ตอนต้น สถานะการคลังของประเทศอยู่ในภาวะไม่เดือดร้อนเมื่อเก็บภาษีมาได้เท่าใด ก็จ่ายออกไปจากวงเงินนั้น และเมื่อต้องการพัฒนาประเทศก็นำเงินที่เหลือในปีก่อนออกมาใช้จ่ายเพื่อพัฒนาประเทศ

กล่าวได้ว่า การคลังสมัยนั้นดำเนินนโยบายงบประมาณแบบเกินดุลและแบบสมดุลมาอย่างต่อเนื่อง เพราะรัฐมีรายได้มากกว่ารายจ่ายหรือมีรายได้เท่ากับรายจ่าย
มาโดยตลอด ไม่มีการใช้จ่ายเกินตัว รัฐบาลอาจมีเงินเหลือจ่ายเพื่อนำมาทำนุบำรุงบ้านเมืองบ้าง แต่เนื่องจากมีจำนวนจำกัดจึงต้องค่อยๆ ดำเนินการไปทีละเล็กทีละน้อย แนวทางการพัฒนาประเทศยังไม่ปรากฏว่ามีการนำนโยบายก่อหนี้สาธารณะมาใช้เป็นเครื่องมือทางการคลังแต่ประการใด


ต่อมาใน พ.ศ. ๒๔๓๙ รัชกาลที่ ๕ ได้ทรงแต่งตั้งนายมิตเชล อินเนส (Michell Innis) นายชาร์ลสริเวต-คาร์แนค (Charles Rivett-Carnac) และนายวิลเลียม วิลเลียมสัน (William Williamson) เป็นที่ปรึกษากระทรวงพระคลังมหาสมบัติ เพื่อวางรากฐานการคลังประเทศโดยยึดแบบอย่างของอังกฤษ

นับตั้งแต่ นายอินเนสพยายามแก้ไขสนธิสัญญาพิกัดภาษีขาเข้าและขาออกที่ทำเมื่อ พ.ศ. ๒๓๙๘ และวางหลักเกณฑ์เรื่องงบประมาณแผ่นดินตามแบบยุโรป
นายคาร์แนควางระบบภาษีอากรของไทยโดยยึดแบบอย่างของอินเดียและแนะนำให้รัฐบาลนำธนบัตรมาใช้ในระบบเงินตราไทย และนายวิลเลียมสันจัดระบบกระจายเงิน
รายจ่ายให้แก่สาธารณประโยชน์อันมีผลต่อการปฏิรูปประเทศในด้านอื่นๆ

นอกจากนี้ที่ปรึกษาทั้งสามยังได้ทำการศึกษาวิเคราะห์การคลังในประเทศไทยแล้วจัดทำบันทึกรายงานเสนาบดีกระทรวงพระคลังมหาสมบัติ ความว่า....

“ลักษณะการคลังของประเทศไทยในเวลานั้นนับได้ว่าดี เพราะการจัดเก็บภาษีอากรจากประชาชนไม่เดือดร้อนรุนแรง ได้เงินมาเท่าใดก็ใช้จ่ายในวงเงินนั้น เมื่อมีเงินเหลือจ่ายจึงใช้ทำนุบำรุงบ้านเมืองแต่วิธีการดังกล่าวจะทำนุบำรุงบ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรืองได้รวดเร็วเหมือนกับประเทศอื่นไม่ได้ เช่น การสร้างทางรถไฟ ถ้าต้องใช้เงินเหลือจ่ายมาสร้างต่อออกไปทีละเล็กทีละน้อยดังเช่นที่กระทำอยู่ ก็จะสร้างไม่ได้รวดเร็วตามความต้องการ สมควรต้องใช้วิธีการกู้เงินตามประเทศอื่นมาเป็นทุนสร้างทางรถไฟและสิ่งอื่นๆ ซึ่งจะได้ดอกผลและเงินต้นโดยไม่ขาดทุน”

และจึงขอให้รัฐบาลพิจารณาว่าจะใช้วิธีการไม่มีหนี้เพื่อรักษาชื่อเสียงเมืองไทย หรือจะยอมเป็นประเทศลูกหนี้ก่อหนี้หรือกู้เงินมาทำนุบำรุงบ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรืองดังเช่นประเทศอื่น รัชกาลที่ ๕ ทรงเห็นด้วยกับกรณีที่จะมีการกู้เงินมาเพื่อดำเนินการที่ก่อให้เกิดประโยชน์ แต่ถ้าเป็นกิจกรรมใดที่ไม่เกิดดอกผล เช่น ซื้อเครื่องอาวุธยุทธภัณฑ์ ก็มิให้กู้เงินมาใช้ จึงได้พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้กระทรวงพระคลังมหาสมบัติพิจารณาดำเนินการกู้เงินเพื่อนำไปใช้สร้างทางรถไฟ

การกู้เงินได้เริ่มดำเนินการอย่างจริงจังในปลายปี พ.ศ. ๒๔๔๕ โดย พระยาสุริยานุวัตร อัครราชทูตไทยประจำกรุงปารีส ได้หาข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการที่รัฐบาลไทย
จะกู้เงินเพื่อนำมาใช้ในโครงการสร้างทางรถไฟจากลพบุรีไปอุตรดิตถ์

ต่อมา รัฐบาลจึงได้มอบหมายให้พระยาสุริยานุวัตร และ นายคาร์แนค ผู้เป็นตัวแทนการคลังของรัฐบาลไทยในกรุงลอนดอนร่วมกันเจรจากู้เงินจากตลาดเงินกรุงลอนดอน ๕๐๐,๐๐๐ ปอนด์ และตลาดเงินกรุงปารีส ๕๐๐,๐๐๐ ปอนด์ โดยมีธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้จากอังกฤษ และธนาคารอินโดจีนจากฝรั่งเศส เป็นผู้จัดจำหน่าย

การที่รัฐบาลไทยใช้สองธนาคารนี้เป็นผู้จัดการ เพราะธนาคารทั้งสองมีสาขาอยู่ในประเทศไทยและการกู้เงินนั้นมีภารกิจที่ต้องกระทำหลายอย่าง เช่น การออกพันธบัตร การจ่ายดอกเบี้ย เป็นต้น ดังนั้น การจ้างธนาคารดำเนินการแทนจึงเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย ประกอบกับประเทศไทยยังไม่เคยดำเนินการกู้เงินเลย จึงไม่มีผู้ใดทราบฐานะการคลังของประเทศว่าเป็นเช่นไร ดังนั้นการให้ธนาคารที่มีชื่อเสียงเป็นผู้ดำเนินงานย่อมเป็นที่ไว้วางใจของผู้ให้กู้

นอกจากนี้ ธนาคารทั้งสองยังประกันเงินกู้ให้แก่ประเทศไทยด้วย กล่าวคือ ถ้ากู้เงินไม่ได้เต็มตามจำนวนที่ทำสัญญา ธนาคารทั้งสองก็จะนำเงินของธนาคารออกให้กู้เองจนครบตามจำนวน จึงทำให้เป็นที่แน่ชัดว่ารัฐบาลไทยจะได้เงินกู้เต็มตามจำนวนที่ขอกู้ ซึ่งการกู้เงินดังกล่าวนี้เป็นการกู้เงินโดยไม่มีหลักประกัน หากแต่อาศัยความน่าเชื่อถือของประเทศไทยเท่านั้น

หลังจากที่ได้ทำสัญญากันแล้ว ธนาคารทั้งสองก็ออกหนังสือชี้ชวน โดยแถลงให้ทราบว่าประเทศไทยต้องการกู้เงินเพื่อใช้ในการสร้างรถไฟและกิจการอื่นๆ โดยออกเป็นพันธบัตรกู้เงิน วงเงิน ๑ ล้านปอนด์ ระยะเวลา ๔๐ ปี อัตราดอกเบี้ย ๔.๕ ต่อปี จ่ายปีละสองครั้ง คือวันที่ ๑ กันยายน และ ๑ มีนาคม พร้อมทั้งแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับรายได้ของรัฐบาลในอดีตย้อนหลังตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๓๖ - ๒๔๔๖

ภายหลังการออกหนังสือชี้ชวน ปรากฏว่ามีสถาบันการเงินและรัฐบาลหลายประเทศยื่นคำเสนอให้กู้และบางรายเสนอให้กู้เป็นจำนวนแปดเท่าของจำนวนที่ขอกู้ ซึ่งสะท้อนได้ถึงความเชื่อถือในสถานะการคลังและความสามารถที่จะชำระหนี้ได้ของประเทศไทย

การกู้เงินต่างประเทศในครั้งนี้ จึงนับเป็นก้าวสำคัญในการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการคลังเป็นครั้งแรก จากที่เคยใช้จ่ายเฉพาะรายได้ที่จัดหามาได้ มาเป็นการกู้เงิน ก่อนหน้านี้ประเทศไทยไม่เคยกู้เงินเลยไม่ว่าจะเป็นการกู้เงินจากแหล่งเงินกู้ภายในหรือภายนอกประเทศ และนับจากการกู้เงินครั้งนี้รัฐบาลไทยก็ได้ดำเนินนโยบายการก่อหนี้สาธารณะเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันนี้

โดยมีทั้งการกู้เงินจากแหล่งกู้ภายในและต่างประเทศเพื่อนำมาใช้จ่ายการลงทุน พัฒนาเศรษฐกิจด้านต่างๆ ตลอดจนการกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ โดยเฉพาะในช่วงการเร่งรัดพัฒนาประเทศนั้นจำเป็นต้องมีการใช้จ่ายเงินเป็นจำนวนมาก เฉพาะแต่เพียงรายได้ในการจัดเก็บภาษีอากรซึ่งเป็นรายได้หลักเพียงอย่างเดียวไม่อาจสนองตอบความต้องการใช้จ่ายเงินของรัฐบาลได้ ดังนั้นการกู้เงินมาเพื่อใช้จ่ายตามความจำเป็นเร่งด่วน เช่น กรณีการระบาดของโควิด หรือเพื่อการลงทุนโครงการต่างๆ เพื่อพัฒนาประเทศจึงมีความจำเป็น

อย่างไรก็ตาม ในประวัติศาสตร์การก่อหนี้สาธารณะของประเทศไทย จากอดีตถึงปัจจุบันก็ยังไม่เคยมีกรณีของการกู้เพื่อเอามาแจก ด้วยการบิดเบือนการใช้กฎหมายอย่างเลวร้ายมาก่อน...


ดร.ธิติ สุวรรณทัต
 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
18:41 น. 'อ.เบียร์'ยืนยันไม่ป้องคนผิด แต่ขอเป็นกระบอกเสียง เล่าอีกมุม ในฐานะลูกศิษย์'พระอาจารย์คึกฤทธิ์'
18:29 น. เก่งรอบด้าน! 'ผู้กองแคท อาทิติยา'สำเร็จอีกขั้น จบหลักสูตรปลัดอำเภอ พร้อมปฏิบัติหน้าที่เพื่อปชช.
18:20 น. ทนายเข้าเยี่ยม'ทักษิณ'เผยมีอาการอิดโรย ไม่รู้เรื่องเลี้ยงพิซซ่าในเรือนจำ เตือนคนพูดให้ระวังดีๆ
18:19 น. 'นก จริยา'ลุยฟ้องเกรียนคีย์บอร์ด ลั่นรอรับกรรมได้เลยหลังโพสต์แซะมาหลายปี
18:18 น. เช็คชื่อโผ ครม.อนุทิน 1 'โสภณ'คัมแบ็คนั่งรองนายกฯ 'ธรรมนัส'ผ่านฉลุย
ดูทั้งหมด
'เพลง ชนม์ทิดา'ร่ายความในใจ หลังถูกจับตาความสัมพันธ์'เป๊ก เศรณี'
น้ำตาคลอทั้งโซเชียล! 'เกลือ'ตั้งคำถาม'ทำไมทหารพรานต้องใส่ชุดดำ' ได้คำตอบสุดสะเทือนใจ
‘ในหลวง-พระราชินี’ เสด็จฯทอดพระเนตรการแสดงกายกรรมจากจีน
'เป๊ก-เพลง'ไปต่อหรือพอแค่นี้? วงในเมาท์แรงหลังจัดตั้งครม. รู้เรื่อง!
'พุทธ อภิวรรณ'ชวนจับตา!!! คาดมีข่าวใหญ่ คนดังมีลูกศิษย์ทั่วฟ้าเมืองไทย ถูกสอบโยงผู้หญิง-เงินบริจาค
ดูทั้งหมด
ในความต่างระหว่างสีผิว
นักการเมืองปล้นอำนาจประชาชนฉีกทิ้ง รธน.
บุคคลแนวหน้า : 16 กันยายน 2568
เปิดด่านเพื่อ...?
เตโชเบาะสะแก ซำแต
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'อ.เบียร์'ยืนยันไม่ป้องคนผิด แต่ขอเป็นกระบอกเสียง เล่าอีกมุม ในฐานะลูกศิษย์'พระอาจารย์คึกฤทธิ์'

เก่งรอบด้าน! 'ผู้กองแคท อาทิติยา'สำเร็จอีกขั้น จบหลักสูตรปลัดอำเภอ พร้อมปฏิบัติหน้าที่เพื่อปชช.

เชื่อ'อภิสิทธิ์'ยังไม่กลับปชป. 'ศิริโชค'ชี้'เดชอิศม์'ยังกุมอำนาจ

'นก จริยา'ลุยฟ้องเกรียนคีย์บอร์ด ลั่นรอรับกรรมได้เลยหลังโพสต์แซะมาหลายปี

สภาพอากาศพรุ่งนี้! กรมอุตุฯเตือน 37 จังหวัดฝนถล่มหนัก กทม.อ่วมร้อยละ 60

หนุ่มเมืองผู้ดีซัดคนบอกไทยไม่ปลอดภัย เปิดให้เห็นจะๆทำแบบนี้ที่อังกฤษไม่ได้แน่

  • Breaking News
  • \'อ.เบียร์\'ยืนยันไม่ป้องคนผิด แต่ขอเป็นกระบอกเสียง เล่าอีกมุม ในฐานะลูกศิษย์\'พระอาจารย์คึกฤทธิ์\' 'อ.เบียร์'ยืนยันไม่ป้องคนผิด แต่ขอเป็นกระบอกเสียง เล่าอีกมุม ในฐานะลูกศิษย์'พระอาจารย์คึกฤทธิ์'
  • เก่งรอบด้าน! \'ผู้กองแคท อาทิติยา\'สำเร็จอีกขั้น จบหลักสูตรปลัดอำเภอ พร้อมปฏิบัติหน้าที่เพื่อปชช. เก่งรอบด้าน! 'ผู้กองแคท อาทิติยา'สำเร็จอีกขั้น จบหลักสูตรปลัดอำเภอ พร้อมปฏิบัติหน้าที่เพื่อปชช.
  • ทนายเข้าเยี่ยม\'ทักษิณ\'เผยมีอาการอิดโรย ไม่รู้เรื่องเลี้ยงพิซซ่าในเรือนจำ เตือนคนพูดให้ระวังดีๆ ทนายเข้าเยี่ยม'ทักษิณ'เผยมีอาการอิดโรย ไม่รู้เรื่องเลี้ยงพิซซ่าในเรือนจำ เตือนคนพูดให้ระวังดีๆ
  • \'นก จริยา\'ลุยฟ้องเกรียนคีย์บอร์ด ลั่นรอรับกรรมได้เลยหลังโพสต์แซะมาหลายปี 'นก จริยา'ลุยฟ้องเกรียนคีย์บอร์ด ลั่นรอรับกรรมได้เลยหลังโพสต์แซะมาหลายปี
  • เช็คชื่อโผ ครม.อนุทิน 1 \'โสภณ\'คัมแบ็คนั่งรองนายกฯ \'ธรรมนัส\'ผ่านฉลุย เช็คชื่อโผ ครม.อนุทิน 1 'โสภณ'คัมแบ็คนั่งรองนายกฯ 'ธรรมนัส'ผ่านฉลุย
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

การทำประชามติเรื่องรัฐธรรมนูญต้องไม่ขัดกับกฎตรรกะ

การทำประชามติเรื่องรัฐธรรมนูญต้องไม่ขัดกับกฎตรรกะ

12 ก.ย. 2568

การใช้อำนาจที่เป็นกลางในการยุบสภา

การใช้อำนาจที่เป็นกลางในการยุบสภา

5 ก.ย. 2568

สองภาพซ้อนในคดีแพทองธาร

สองภาพซ้อนในคดีแพทองธาร

29 ส.ค. 2568

หมู่บ้านโปเตมคิน

หมู่บ้านโปเตมคิน

22 ส.ค. 2568

การออกอากาศพระสุรเสียง

การออกอากาศพระสุรเสียง

15 ส.ค. 2568

ชุมชนเทียม

ชุมชนเทียม

8 ส.ค. 2568

คดี พระพิมลธรรม กับ ศาลทหาร

คดี พระพิมลธรรม กับ ศาลทหาร

1 ส.ค. 2568

ศาลทหาร

ศาลทหาร

25 ก.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved