1.นางอุษณีย์ แสงสิงแก้ว รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การบินไทยกำลังพิจารณาแผนจัดซื้อเครื่องบินใหม่ 28 ลำ ระหว่างปี 2560-2565 เพื่อทดแทนเครื่องบินที่จะทยอยปลดระวาง รักษาฝูงบินไว้ในระดับ 100 ลำ
แผนการจัดซื้อเครื่องบินใหม่ แบ่งเป็นเครื่องบินของสายการบินไทย 19 ลำ และของสายการบินไทยสมายล์ (บริษัทลูก การบินไทยถือหุ้น 100%) 9 ลำ
คาดว่า จะเสนอให้ที่ประชุมบอร์ดการบินไทยเห็นชอบในเดือนก.ค. และเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเดือนส.ค. จากนั้น จะเริ่มทยอยจัดซื้อตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ของปีนี้เป็นต้นไป
2.การเติบโต พัฒนา ต่อยอด เป็นสิ่งที่ต้องทำ
การบินไทยจะต้องเติบโต และเข้มแข็ง
ขณะนี้ ยังไม่มีข้อท้วงติงเกี่ยวกับการจัดซื้อเครื่องบินใหม่ แต่ข้องใจว่า เมื่อไหร่ การบินไทยจะสะสางปัญหาเครื่องบินเน่าที่ถูกซื้อมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลทักษิณ ใช้ไม่นานก็ต้องจอดทิ้ง เพราะบินยังไงก็ขาดทุน ล่าสุด เห็นข่าวว่าอยู่ที่สนามบินอู่ตะเภา
จะขายอย่างไร ก็คำถามหนึ่ง
จะเช็คบิลกับคนที่กระทำให้เกิดความเสียหายแก่การบินไทย ก็เป็นอีกคำถามใหญ่
ไม่ใช่จะปล่อยทิ้งๆ ไป เพียงเพราะว่าความเสียหายที่การบินไทยต้องแบกรับนั้น ไม่ใช่เงินในกระเป๋าส่วนตัวของใคร สังคมคงรับไม่ได้แน่
3.จัดซื้อมาในยุครัฐบาลทักษิณ
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เลขาธิการพรรคไทยรักไทย เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
ช่วงนั้น มีการอนุมัติซื้อเครื่องบิน A340-500 และ A340-600 สำหรับบินพิสัยไกลพิเศษ กรุงเทพฯ-นิวยอร์ก และกรุงเทพฯ-ลอสแองเจลิส
เหตุที่ต้องหยุดบิน จอดแช่หลุม และทิ้งร้างจนวันนี้ เพราะเครื่องบินพวกนี้ หลังจากซื้อมา ทำการบินแล้วขาดทุน หากใช้บินต่อ ก็มีแต่ขาดทุนเป็นเงาตามตัว
กลายเป็นเครื่องบิน ตกรุ่น ราคาร่วง
ขายเลหลัง ก็ไม่ได้ราคา
ซื้อมาใช้ทำการบินได้ยังไม่ถึง 10 ปี แต่ต้องขายเสียแล้ว
ทั้งๆ ที่ ปกติอายุเครื่องบินใช้งานได้กว่า 20 ปี
ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2548 จนถึงวันที่ 1 กรกฎาคม 2551 ช่วงที่บินทำการ เส้นทางบินตรงกรุงเทพฯ-นิวยอร์ก ทำยอดขาดทุนสะสมเกือบหมื่นล้านบาท
บอร์ดมีมติยกเลิกเส้นทางบินดังกล่าว และประกาศขายเครื่องบินทิ้ง แบบขาดทุน
แต่วันนี้ ยังจอดรอขาย หรือรอทิ้งเป็นเศษเหล็ก?
ขายขาดทุนแน่ๆ ไม่ต่ำกว่า ลำละหลายพันล้านบาท
แต่อย่างน้อย หากขายออก ก็จะประหยัดค่าจอด ค่าเช่าโรงจอด ค่าบำรุงรักษา ฯลฯ
ยอดรวมความเสียหายทั้งหมด ทั้งการจัดซื้อ (รวมค่าคอมมิสชั่น หรือคอร์รัปชั่นด้วยหรือไม่?) การขาดทุน และค่าบำรุงรักษาดูแลเรื่อยมา จนถึงวันนี้ น่าจะทะลุหลายหมื่นล้านบาท
รูปการณ์ไม่น่าจะใช่บกพร่องโดยสุจริต เพราะทราบว่าสภาพัฒน์เอง ก็เคยทักท้วงการจัดซื้อครั้งนั้น แต่ผู้มีอำนาจก็ยังเร่งผลักดันกันต่อไปจนปิดจ๊อบ
4.นายไพศาล พืชมงคล ผู้ช่วยรัฐมนตรี รองนายกฯ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ค Paisal Puechmongkol ระบุว่า
“ต้องรีบขายเครื่องบินเน่า 10 ลำ
1.เครื่องบินเน่า 10 ลำนี้บินระยะสั้นก็ขาดทุน บินระยะยาวก็ขาดทุน ยิ่งบินก็จะขาดทุนปีละหมื่นกว่าล้าน
2.เพราะเหตุที่ยิ่งบินยิ่งขาดทุน จึงต้องนำมาจอด แต่เครื่องบินนั้นจอดเฉยๆ ก็ขาดทุน เพราะต้องเสียค่าจอดที่สนามบินในอัตราที่สูง ดังนั้น จึงต้องเอาไปจอดไว้ใกล้ชายป่าเพื่อลดค่าจอดลง ซึ่งมีผลขาดทุนและยังมีค่าเสื่อมๆ ลงไปทุกวัน จอดเฉยๆ ก็ต้องขาดทุนปีละ 3 พันล้านบาท
3.เครื่องบินเน่า จึงไม่ต่างกับข้าวเน่าที่จะต้องรีบขายโดยเร็วที่สุด
เหตุที่ไม่กล้าขาย ก็เพราะกลัวว่าประชาชนจะจับได้ ว่าตั้งโครงการชงโครงการโกหกยกเมฆว่าเป็นโครงการที่มีกำไร คุณสนธิเคยแฉว่าเพื่อรับเงินใต้โต๊ะ 3% แท้จริงขาดทุนมหาศาล
4.เหตุที่ไม่กล้าขายอีกประการหนึ่ง ก็เพราะว่ากลัวประชาชนจะรู้ว่าขบวนการชงโครงการนี้เป็นใคร ซึ่งถ้าหากรู้ว่าเป็นใครแล้วคงได้โห่ไล่กันทั้งเมือง แต่ก็จะช่วยบ้านเมืองไม่ให้เสียหายต่อไปได้
5.ราคาเครื่องบินตอนซื้อเกือบ 4 หมื่นล้าน นานไปก็จะขาดทุนรวมกันถึง 7 หมื่นล้าน
รีบขายออกไปเถิดครับ
ช่วยกันตะโกนดังๆ”
5. ถึงวันนี้ ข้าวเน่าแก้ไขไปเกือบหมดแล้ว
ต้องชื่นชมที่รัฐบาล คสช. ทั้งแบกภาระชำระหนี้ที่รัฐบาลชุดที่แล้วถลุงไปในโครงการจำนำข้าวช่วงสองปี โดยทยอยชำระในงบประมาณแผ่นดินทุกๆ ปี และยังบริหารจัดการระบายข้าวในโกดังจนสำเร็จ ทั้งข้าวดีและข้าวเน่า จนสต๊อกที่กดทับราคาไว้หายไปเกือบหมด
อย่ากระนั้นเลย เสร็จภารกิจสะสางข้าวเน่าแล้ว ก็ขอเชียร์ให้รัฐบาล คสช.จัดการเครื่องบินเน่าด้วย
“ข้าวเน่า” มาจากยุครัฐบาลน้องสาว
“เครื่องบินเน่า” มาจากยุครัฐบาลพี่ชาย
เน่าทั้งโคตร
พลเอกประยุทธ์ กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม บอร์ดการบินไทย สตง. ศอตช. ตลอดจน ป.ป.ช. หากรักความถูกต้อง ปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติ ควรจะต้องเร่งเช็คบิล
ติดตามทวงเงินแผ่นดินกลับคืนมาด้วย
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี