สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) อภิปรายปัญหาการไปศึกษาดูงานต่างประเทศของบรรดานักการเมือง ทั้ง สส. สว. จำพวกที่มีพฤติกรรมไปเที่ยว มากกว่าจะศึกษาดูงานจริงๆ
ข้อเสนอในรายงานที่ สปท. เห็นชอบ ถึงขนาดให้ตัดงบศึกษาดูงานต่างประเทศของ สส. สว.เสียเลย
1. นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการ สตง. เปิดเผยว่า ตัวเลขงบประมาณดูงานของคณะกรรมาธิการต่างๆ ในสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา ในช่วงก่อนการรัฐประหาร คสช. ช่วงปี 2554-2557 ปรากฏว่า
สำหรับ สส.
ปี 2554 ใช้งบประมาณไปดูงานต่างประเทศ 143 ล้านบาท
ปี 2555 ใช้งบประมาณ 176 ล้านบาท
ปี 2556 ใช้งบประมาณ 193 ล้านบาทเศษ
ปี 2557 เกิดวิกฤติการเมือง งบส่วนนี้ลดลง
ประเทศเป้าหมายปลายทางที่นิยมอันดับต้นๆ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สวีเดน ฟินแลนด์ นอร์เวย์ เป็นต้น
สำหรับ สว.
ปี2554 ใช้งบ 79 ล้านบาท
ปี 2555 ใช้งบ 73 ล้านบาท
ปี 2556 ใช้งบ 106 ล้านบาท
ปี 2557 ผลาญงบลดลง เพราะปัญหาการเมืองในประเทศ
ประเทศที่นิยม ก็เครือๆ เดียวกับ สส.
2. อันที่จริง การเดินทางไปศึกษาดูงานต่างประเทศ ก็มีประโยชน์ หากไปดูงานจริงๆ
เช่น ไปศึกษาดูการแก้ปัญหา
ศึกษาดูการดำเนินโครงการบางอย่าง
ศึกษาเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ
ที่เราจำเป็นต้องเรียนรู้ นำกลับมาใช้ดำเนินการในบ้านเรา
เพราะฉะนั้น หากตัดงบไปเลย ตัดโอกาสไปเลย ก็จะทำให้ประเทศเสียโอกาสได้เหมือนกัน
3. ทางออกที่เหมาะสม คือ จะต้องปฏิรูประบบบริหารจัดการงบในการไปดูงานต่างประเทศ
เดิม วิธีคิดของแต่ละกรรมาธิการ คือ คิดเสมือนการแบ่งเค้ก
มีงบประมาณเท่าไหร่ เฉลี่ยรายหัวได้เท่าไหร่ แล้วมาวางแผนกันว่าใครจะไปไหน ประเทศไหน เมื่อไหร่ อย่างไร
บางคณะ นิยมใช้วิธีไปซื้อทัวร์มาจัดการเลยด้วยซ้ำ
แบบนี้ เท่ากับว่า เอาเงินเป็นตัวตั้ง
ควรจะเปลี่ยนวิธีคิด ให้เอางานเป็นตัวตั้ง
เริ่มจากคณะกรรมาธิการใด มีโครงการดูงานเรื่องอะไร ที่ประเทศใดก็ควรนำเสนอโครงการเพื่อของบประมาณ แสดงเหตุผลความจำเป็น ว่าสำคัญอย่างไร
เมื่อพิจารณาเห็นชอบ ก็ประสานงาน รายละเอียด จะต้องไปเจอหน่วยงานใดในประเทศนั้นๆ
มีโปรแกรมการไปทำงานชัดเจน
และเมื่อเดินทางไป ก็จะต้องมีการไปตามกำหนดจริงๆ พร้อมทั้งเขียนรายงานผลการศึกษาดูงาน คล้ายๆ บันทึกการประชุม และสรุปประเด็นข้อเรียนรู้สำคัญๆ
สามารถนำมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในรัฐสภา เปิดให้สังคมได้ร่วมตรวจสอบเรียนรู้ไปด้วย
แบบนี้ จะแตกต่างจากอดีต เพราะบางคณะ เมื่อไปถึงต่างประเทศ ต่างคนต่างไป
แยกกับไปลูก-เมีย-กิ๊ก
หัวหน้าบางคณะ ไปเข้ากาสิโน กลับมาเจอคณะวันเดินทางกลับเลยก็มี
4.วิธีการเช่นนี้ ไม่ควรใช้เฉพาะ สส. สว. แต่ข้าราชการก็เช่นกัน
หน่วยงานภาครัฐจำนวนมาก นิยมไปเที่ยว ไปดูงานต่างประเทศกัน
มหาวิทยาลัย ที่ไปโดยใช้งบประมาณส่วนรวมก็เยอะ
ยังไม่ต้องพูดถึง นักการเมืองท้องถิ่น แต่ละปีผลาญเงินไปกับการดูงานมหาศาล รวมๆ แล้ว น่าจะถึงพันล้านบาทด้วยซ้ำไป
ควรจัดระบบกันเสียที
จะเข้ามาทำงาน หรือมาเที่ยวแสวงหาความสำราญ?
ถ้าจะไปทำงาน ไปดูงาน ก็ได้ แต่จะต้องมีหลักเกณฑ์การปฏิบัติ
แบบนี้ น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี