ขอกราบแสดงความคารวะหัวใจคนไทยที่อดทนอย่างสูงสุดมากจนยากที่จะหาคำใดมาบรรยายได้ ความอดทนประการหนึ่งของคนไทยที่ปรากฏชัดเป็นระยะเวลานานนับปีคือ ภาพของคนไทยจำนวนมากมายมหาศาลเข้าแถวเพื่อรอเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 รวมถึงภาพคนไทยที่ยากจะนับจำนวนได้ครบถ้วนที่หลั่งไหลไปร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9
ด้วยเพราะความจงรักภักดี และความรักเทิดทูน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 อย่างสูงสุดเหนือเกล้าเหนือกระหม่อม จนยากที่จะหาสิ่งใดมาเปรียบประมาณได้ จึงทำให้คนไทยอดทนได้ทุกสิ่งทุกอย่าง เช่น ยอมอดทนกับการใช้เวลารอแถวอันยาวนานข้ามวันข้ามคืน เพียงเพื่อให้ได้เข้าไปกราบถวายบังคมพระผู้ทรงเป็นดุจดั่งพ่อของแผ่นดิน ในพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทั้งๆ ที่ทุกคนรู้ดีว่าจะมีเวลาอันแสนสั้น เพียงไม่กี่นาทีกับการได้เข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ แต่ทว่าทุกคนต่างก็ยินดี และเต็มใจ
คนไทยจำนวนไม่ใช่น้อยเดินทางมาจากจังหวัดที่อยู่ไกลแสนไกลจากกรุงเทพฯ และถึงแม้จะต้องใช้เวลากับการนั่งรถยนต์หรือเดินทางด้วยพาหนะอื่นๆ ออกจากหมู่บ้านของตนเอง ซึ่งอยู่ห่างไกลออกไปจากตัวเมืองมากกว่า 100 กิโลเมตร เพื่อจะเข้ามาโดยสารรถประจำทางเดินทางเข้ากรุงเทพฯ แถมระยะทางจากตัวจังหวัดที่หลายคนอาศัยอยู่ก็ยังห่างไกลจากกรุงเทพฯ มากกว่า 600-700 กิโลเมตร แต่ความไกลของระยะทางก็ไม่ใช่อุปสรรคแต่อย่างใด
หลายคนต้องนั่งรถยนต์ข้ามคืนจากจังหวัดที่ตนเองอยู่เพื่อเข้ามากรุงเทพฯ เพราะต้องการเข้ามากราบถวายบังคมพระบรมศพ “พ่อของแผ่นดินไทย” ต้องการขอแค่เข้ามาอยู่ใกล้กับ “พ่อ” ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ แม้จะต้องนอนค้างอ้างแรมอยู่ตามท่ารถโดยสาร หรือตามริมถนน แม้จะรู้ว่าลำบากมากมาย แต่ก็ไม่ยอมล้มเลิกความตั้งใจ
ไม่ว่าแดดจะร้อนจัดสักเพียงใด อากาศจะร้อนอบอ้าวจนทำให้เหงื่อไหลท่วมตัว หรือแม้ในวันที่ฝนตกหนักจนไม่ลืมหูลืมตา ทำให้เนื้อตัวเปียกปอนจนหนาวสั่น แต่ทั้งแดดและทั้งฝนก็ไม่สามารถล้มเลิกความตั้งใจมั่นที่จะเข้าไปกราบถวายบังคมพระบรมศพ “พ่อ” ของแผ่นดินไทยได้
ไม่ว่าจะเมื่อยแสนเมื่อย หรือต่อให้ล้าแสนล้า ร่างกายเหนื่อยอ่อนเพลียจนแทบจะยืนไม่ไหว จนหลายคนต้องทรุดกายลงนั่ง บางรายก็ถึงกับต้องนอนตามริมถนน แต่เมื่อร่างกายมีกำลังกลับขึ้นมาแล้ว คนไทยที่รัก “พ่อ” ก็กลับเข้าแถวดังเดิม แล้วเดินต่อไปจนกระทั่งถึงพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท แล้วความเหนื่อยยากทั้งหลายที่ได้ประสบมา ก็พลันสูญสลายหายไปทันทีเมื่อได้ขึ้นไปกราบถวายบังคมพระบรมศพ พระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ
นอกจากนั้นก็ยังมีภาพที่สร้างความประทับใจให้กับเพื่อนร่วมชาติอีกคือ กลุ่มจิตอาสาสารพัดกลุ่มที่ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ตามที่แต่ละคนจะสามารถกระทำได้ เช่น ปรุงอาหาร แจกอาหาร แจกน้ำ แจกผ้าเย็น แจกขนม แจกพัด แจกพระบรมฉายาลักษณ์ แจกเสื้อสีดำ แจกร่ม แจกลูกอม แจกยาดม แจกยาสามัญประจำบ้าน เก็บขยะ หน่วยปฐมพยาบาล หน่วยเข็นรถเข็นให้กับผู้สูงอายุและพิการ หน่วยงานช่วยอำนวยความสะดวกและปลอดภัยด้านการจราจร ช่วยพาคนสูงอายุข้ามถนน กลุ่มผู้ขับจักรยานยนต์ให้บริการรับส่งฟรี รวมถึงเจ้าของบ้านหลายแห่งก็แสดงความเอื้ออารีด้วยการเปิดห้องน้ำให้เข้าโดยไม่คิดค่าบริการ หน่วยงานโยธา หน่วยประชาสัมพันธ์ รวมถึงกลุ่มจิตอาสาอีกมากมายที่ไม่สามารถกล่าวถึงได้หมดสิ้นในที่นี้
ภาพเหล่านี้คือเครื่องบ่งบอกอย่างดีเยี่ยมที่แสดงให้โลกเห็นว่าให้สังคมไทยน่าอยู่ และยังมีความโอบอ้อมอารีที่จับต้องได้จริงบนแผ่นดินไทย
สำหรับคุณผู้อ่านที่มีประสบการณ์ตรงในการรอเวลาเพื่อเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ที่ต้องใช้เวลารอแถวนานกว่า 10 ชั่วโมง ต้องซาบซึ้งเป็นอย่างดีกับคำว่า “เพื่อพ่อของแผ่นดินไทยแล้ว ยากลำบากเพียงใดก็ไม่ย่อท้อและไม่มีวันล้มเลิกความตั้งใจ”
หากจะถามคุณๆ ว่า เพราะเหตุใดคนไทยจึงอดทนได้มากมายถึงเพียงนี้ สำหรับคุณที่ไปเข้าแถวรอด้วยตัวคุณเองคงตอบได้ดีว่าเพราะอะไร แต่สำหรับผู้ที่ไม่เคยไปเข้าแถวรอ ก็คงอาจจะตอบได้ไม่ชัดเจนเท่าไรนัก แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ก็ยังเชื่อว่าคงจะสามารถรับรู้ได้ถึงความทรหดอดทนของคนไทย
หลายต่อหลายคนบอกตรงกันว่า แค่เห็นภาพคลื่นมนุษย์ที่สวมชุดดำไปรอแถวยาวนานนับสิบชั่วโมง ก็ทำให้น้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว หลายต่อหลายคนบอกว่า ภาพที่เห็นนี้คือเครื่องบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าคนไทยรักพระเจ้าแผ่นดิน รักในหลวงของเขาจนยากที่จะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้
ครั้นเมื่อใกล้ถึงวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ หรือวันออกพระเมรุ คลื่นมนุษย์ก็พากันหลั่งไหลไปให้ใกล้กับทุ่งพระเมรุ ณ กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นสถานที่ประดิษฐานพระเมรุมาศ คนจำนวนไม่น้อยไปเฝ้ารอพระราชพิธีนี้ล่วงหน้า 4-5 วัน หลายคนยอมนอนรออยู่บนบาทวิถีริมถนนราชดำเนินใน โดยเฉพาะจุดที่ใกล้กับทุ่งพระเมรุ หรือท้องสนามหลวง หลายคนบอกว่าไม่กล้าที่จะทิ้งที่ซึ่งได้จับจองไว้ไปไหน เพราะเกรงว่าเมื่อกลับมาแล้ว พื้นที่ดังกล่าวจะไม่ว่างอีกต่อไป เนื่องจากผู้อื่นจะเข้าไปครองครองแทน
ภาพเหล่านี้คือภาพที่แสนมหัศจรรย์ ซึ่งบ่งบอกได้ชัดเจนอย่างที่สุดว่า คนไทยรักในหลวง รัชกาลที่ 9 มากจนเกินบรรยาย
ถามว่าทำไมคนไทยจึงรักในหลวง รัชกาลที่ 9 มากมายเช่นนี้ คำตอบคือ เพราะคนไทยประจักษ์ชัดมายาวนานถึง 70 ปี ว่า ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงอุทิศพระวรกายโดยมิได้ทรงคำนึงถึงความยากลำบากของพระองค์มาโดยตลอด เพราะพระองค์ทรงปรารถนาให้คนไทยทั้งแผ่นดินมีชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีกว่าเดิม
เมื่อ “พ่อของแผ่นดินไทย” ทรงรักคนไทยมากมายถึงเพียงนี้ ดังนั้นคนไทยจึงรัก “พ่อของแผ่นดินไทย” อย่างมากมายจนเกินจะกลั่นออกมาเป็นคำพูดหรือข้อเขียนใดๆ ได้ แต่ทว่าทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงความรักที่คนไทยมีต่อพระเจ้าแผ่นดินของเขาได้ทันทีเมื่อได้เห็นภาพคลื่นมนุษย์ที่ไปรวมตัวกันในจุดต่างๆ ทั่วเขตพระราชอาณาจักรไทย รวมถึงในต่างประเทศซึ่งมีคนไทยไปรวมตัวอยู่ด้วยกัน แล้วร่วมกันจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิง
น้ำตาของคนไทยไหลรินออกมาโดยทันทีเมื่อยามได้เห็นริ้วขบวนพระราชอิสริยยศในขบวนอัญเชิญพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ยิ่งยามที่ได้ยินเสียงปืนใหญ่ยิงสลุตเพื่อถวายพระเกียรติในวันถวายพระเพลิง ณ ทุ่งพระเมรุ ก็ทำให้น้ำตาแห่งความภักดีไหลพรากจนอาบนองใบหน้า ซึ่งภาพเหล่านี้เป็นสิ่งที่บังเกิดขึ้นทั่วไปบนพระราชอาณาจักรไทย
แม้ความจริงจะเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า บัดนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ได้เสด็จสู่สวรรคาลัยแล้ว แต่ในความรู้สึกและในความสำนึกของพสกนิกรไทยก็ยังคงอยากที่จะมองข้ามความจริงนั้นเสีย
คงไม่มีอะไรสามารถลบเลือนความทรงจำที่แสนดีของคนไทยที่มีต่อในหลวง รัชกาลที่ 9 ได้อย่างแน่นอน ภาพพระเสโทของในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่ไหลอาบพระพักตร์ของพระองค์ ภาพพระองค์เสด็จพระราชดำเนินข้ามน้ำข้ามภูเขาเพื่อทรงไปเยี่ยมเยียนพสกนิกรของพระองค์ที่อยู่ในแดนทุรกันดาร ภาพ “พ่อ” ค้อมพระวรกายลงหาพสกนิกรที่ไปเฝ้าฯรอรับเสด็จ ภาพฉลองพระบาทของพระองค์ที่ทรงให้ช่างซ่อมแล้วซ่อมอีก ภาพหลอดยาสีพระทนต์ที่ถูกรีดจนแบนเหมือนกระดาษ ภาพพระดินสอที่ทรงเหลาใช้จนเหลือเพียงไม่กี่เซนติเมตร และภาพ “พ่อ” ทรงเล่นกับคุณทองแดง สุนัขทรงเลี้ยง รวมถึงภาพอื่นๆ ที่ผุดขึ้นมาในมโนสำนึกของพสกนิกรไทย จะยังคงตราตรึงอยู่ในหัวใจและความทรงจำของพสกนิกรไทยไปตราบนิจนิรันดร์
คนไทยมิได้รักในหลวง เพราะว่าทรงเป็นพระเจ้าแผ่นดิน แต่คนไทยรักในหลวง เพราะพระองค์ทรงเป็น “พ่อ” ของคนไทยทั้งแผ่นดิน “พ่อ” ที่ทรงอุทิศทุกอย่างเพื่อพสกนิกรของพระองค์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี