รัฐบาลใดก็ตามเมื่อมีอำนาจรัฐแล้ว แต่ใช้อำนาจรัฐโดยไม่ชอบธรรม ไม่ยึดมั่นในหลักความถูกต้อง ไม่ยึดหลักคุณธรรม สุดท้ายแล้วผู้มีอำนาจรัฐที่ใช้อำนาจรัฐโดยผิดหลักครองธรรม และผิดกฎหมาย ก็ต้องติดคุกติดตะราง แม้จะหลบหนีคุกไปได้ แต่ก็ถือว่าได้กระทำผิดกฎหมายไปแล้ว
เราได้เห็นอดีตรัฐบาลที่ทำผิดกฎหมายมาแล้ว และก็ได้เห็นแล้วว่าอดีตนายกรัฐมนตรีบางรายก็ต้องหลบหนีคดีอาญาแผ่นดิน แม้บางรายจะกลับเข้ามาในประเทศไทยแล้ว แต่บางรายก็ยังคงหลบหนีกฎหมายอยู่ส่วนอดีตรัฐมนตรีบางรายก็ต้องติดคุกติดตะรางจนถึงปัจจุบัน
มีคำถามว่า เหตุใดผู้มีอำนาจรัฐบางคนบางกลุ่มจึงไม่เคารพหลักกฎหมาย ทำไมจึงจงใจกระทำละเมิดกฎหมาย ทั้งๆ ที่ต้องรู้ดีอยู่แก่ใจว่าการกระทำของตนนั้นคือการทำผิดกฎหมาย แต่แม้บางกลุ่มบางคนจะรู้ว่ากระทำผิดกฎหมาย แต่ก็ยังคงดันทุรังแล้วอ้างว่าได้ตกลงกับประชาชนไว้แล้ว ได้ให้คำสัญญาในช่วงหาเสียงไว้แล้ว ดังนั้น หากไม่กระทำต่อไป ก็จะเท่ากับผิดสัญญาที่ให้กับประชาชน
ก็ต้องถามกลับว่า ในเมื่อรู้ว่าสิ่งที่ให้สัญญาเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะถูกกฎหมาย แล้วทำไมยังพยายามฝืนทำ หรือคิดเพียงแค่ว่า เมื่อมีอำนาจรัฐแล้วจะกระทำการใดๆ ก็ได้ โดยไม่สนใจหลักกฎหมาย หรือหลักความชอบธรรม
เรื่องการให้สัญญาในระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง สส. ว่าจะแจกเงิน 1 หมื่นบาท ผ่านระบบเงินดิจิทัล วอลเล็ต ให้กับประชาชนทั้งประเทศ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้ให้คำสัญญาต้องรู้ดีอยู่แก่ใจว่าประเทศหรือรัฐบาลมีเงินแจกให้ประชาชนทุกคนจริงๆ หรือ รัฐบาลมีปัญญาหาเงินจำนวนมหาศาลหลายแสนล้านบาทไปหว่านแจกให้ประชาชนได้จริงหรือ รัฐบาลต้องรู้ว่าการหว่านแจกเงินจำนวนมหาศาลดังกล่าวนั้นจะก่อหนี้สินมหาศาลให้ประเทศชาติ แล้วในอนาคตประชาชนทั้งประเทศจะต้องร่วมกันรับผิดชอบต่อหนี้ก้อนมหึมาที่รัฐบาลจงใจก่อไว้
วิญญูชนเห็นชัดเจนว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันพยายามดิ้นรนเพื่อจะหว่านแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต ให้จงได้ แม้ไม่มีเงิน ก็ยังพยายามเล่นเกมเล่นกลหมายจะดึงเอาเงินจากส่วนโน้นนี้นั้นไปใช้ให้จงได้
รัฐบาลชุดล่าสุดมีอำนาจบริหารประเทศมาแล้วประมาณ 7 เดือน แต่ก็ยังคงไม่สามารถหาเงินไปหว่านแจกได้ตามคำโฆษณาหาเสียงในช่วงเลือกตั้ง สส. ครั้งล่าสุด ทั้งๆ ที่ได้โฆษณาไปแล้วว่าจะแจกเงินทันทีเมื่อได้เป็นรัฐบาล
แต่อันที่จริงต้องบอกว่าการหาเสียงด้วยการหว่านแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต หัวละ 1 หมื่นบาท เป็นการหาเสียงโดยพรรคเพื่อไทยเท่านั้น แต่ทว่าเมื่อพรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำรัฐบาลผสม ซึ่งมีหลายพรรคการเมืองเข้าร่วมผสมเป็นรัฐบาล
ดังนั้น ก็จึงหมายความว่าทุกพรรคที่ร่วมผสมเป็นรัฐบาลต้องร่วมรับผิดชอบในการหว่านแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต ไปโดยปริยาย ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล แต่เท่าที่ปรากฏจนถึงบัดนี้ ก็ยังไม่มีพรรคร่วมรัฐบาลพรรคใดคัดค้านการแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต เพราะฉะนั้น จึงหมายความว่าทุกพรรคที่ร่วมรัฐบาลต้องเห็นด้วยกับการหว่านแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต แล้วถ้าเรื่องนี้เป็นสิ่งผิดกฎหมายก็หมายความว่าพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดต้องร่วมกันรับผิดชอบในความผิดที่บังเกิดขึ้น
มาล่าสุด รัฐบาลพยายามเล่นกลด้วยการนำเงินจำนวนหนึ่ง คือประมาณ 1.7 แสนล้านบาท จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ไปใช้สำหรับหว่านแจกเงินตามที่ได้หาเสียงไว้ แต่เรื่องนี้มีการแสดงความเห็นว่ารัฐบาลไม่สามารถนำเงินจาก ธ.ก.ส. ไปใช้หว่านแจกโดยผ่านรูปแบบเงินดิจิทัล วอลเล็ต ได้ เพราะผิดวัตถุประสงค์ของการใช้เงินของ ธ.ก.ส.
นอกจากนั้น ยังมีความพยายามเล่นลิ้นว่า รัฐบาลไม่ได้กู้เงินจาก ธ.ก.ส. แต่เพียงขอให้ธ.ก.ส. นำเงินไปให้รัฐบาลใช้ก่อนเท่านั้น ถามว่ารัฐบาลมีอำนาจอะไรที่จะนำเงินของ ธ.ก.ส. ไปใช้เพื่อผลประโยชน์การเมือง โดยการกระทำของรัฐบาลผิดต่อหลักวัตถุประสงค์ของ ธ.ก.ส.
น่าสังเกตคำพูดของปลัดกระทรวงการคลัง คือ ลวรณ แสงสนิท ที่บอกว่า ธ.ก.ส. มีอำนาจดำเนินการเรื่องให้เงิน 1.7 แสนล้านบาทกับรัฐบาลเพื่อนำไปหว่านแจกในโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ได้ และยังบอกด้วยว่า ธ.ก.ส.มีสภาพคล่องเพียงพอต่อการให้เงินกับรัฐบาล แต่ถึงอย่างไร ปลัดกระทรวงการคลังก็ต้องไม่เอาใจรัฐบาลมากเกินไป เสียจนจงใจละเลยหรือหลงลืมวัตถุประสงค์หลักของ ธ.ก.ส. ก็ต้องถามย้ำๆ ว่า ปลัดกระทรวงการคลังอ่านและเข้าใจวัตถุประสงค์หลักของ ธ.ก.ส. ถ่องแท้หรือไม่
จากคำแถลงของรัฐบาลเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2567 ในเรื่องดิจิทัล วอลเล็ต ได้ระบุว่าหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และแหล่งที่มาของเงินสำหรับโครงการดิจิทัล วอลเล็ต วงเงิน 5 แสนล้านบาท ไว้ว่าจะมาจากสามส่วนคือ
1 ขยายกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 โดยเพิ่มวงเงินอีก 175,000 ล้านบาท
2 บริหารจัดการเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 วงเงิน 175,000 ล้านบาท โดยนำเงินส่วนหนึ่งมาจากงบกลาง
3 นำเงินมาจากหน่วยงานของรัฐ คือจาก ธ.ก.ส. วงเงิน 172,300 ล้านบาท โดยรัฐบาลต้องรับภาระใช้คืนเงินก้อนนี้ในภายหลัง
ปลัดกระทรวงการคลังอ้างว่ารัฐบาลสามารถใช้เงินคืน ธ.ก.ส. ได้ โดยผ่านกระบวนการด้านงบประมาณ ซึ่งรัฐบาลตั้งงบฯ เพื่อชดใช้คืนให้ธนาคารของรัฐ โดยใช้คืนเป็นระยะ ตามความเหมาะสมของวงเงินงบประมาณในแต่ละปี
ขอบอกตรงๆ ว่าคำพูดของปลัดกระทรวงการคลังข้างต้นนั้นนับว่าเลื่อนลอยมาก เนื่องจากไม่มีความชัดเจนแม้แต่น้อย และไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดกับ ธ.ก.ส. หากต้องให้เงินยืมกับรัฐบาล ถามต่อไปว่ารัฐบาลจะคืนเงิน ธ.ก.ส. ให้หมดสิ้นพร้อมดอกเบี้ยภายในกี่ปี และชดใช้ปีละเท่าไร
เมื่อถามถึงประเด็นการใช้เงินจาก ธ.ก.ส. เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของ ธ.ก.ส. หรือไม่ เรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญที่รัฐบาลตอบไม่ได้ แล้วพยายามเบี่ยงประเด็นว่าหว่านแจกเงินเพื่อช่วยเกษตรกร แต่ในเบื้องต้นรัฐบาลเคยประกาศว่าหว่านแจกเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ถามว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจเกี่ยวข้องอย่างไรกับการใช้เงินจาก ธ.ก.ส. แล้วการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลหาเสียงไว้มันเกิดมาจากการใช้เงินจาก ธ.ก.ส. ไปเพื่อทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัว กระนั้นหรือ
ต้องย้ำว่า การที่รัฐบาลจะนำเงินจาก ธ.ก.ส. ไปหว่านแจกในโครงการดิจิทัล วอลเล็ต หัวละ 1 หมื่นบาท เป็นสิ่งที่ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ของ ธ.ก.ส. แต่มันคือการสร้างหนี้ให้ประเทศ โดยรัฐบาลเป็นผู้ก่อหนี้ขึ้น แล้วต้องไม่ลืมว่าอดีตรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ใช้เงินจาก ธ.ก.ส. ในโครงการจำนำข้าวทุกเมล็ด ซึ่งสุดท้ายกลายเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และจนถึงทุกวันนี้ยิ่งลักษณ์ยังคงหนีคดีอาญาแผ่นดิน รัฐบาลยังไม่ใช้หนี้ที่ก่อไว้กับ ธ.ก.ส.
สรุปคือ รัฐบาลนี้จงใจจะหว่านแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต หัวละหนึ่งหมื่นบาทให้จงได้ โดยไม่สนใจว่าจะก่อหนี้สิน หรือก่อปัญหาการคลังใดๆ ให้กับประเทศ และยังไม่ฟังคำคัดค้านใดๆ จากผู้ที่หวังดีกับประเทศชาติโดยเฉพาะผู้ที่ไม่ต้องการให้ประเทศชาติมีหนี้สินทั่วแผ่นดิน จนเป็นสาเหตุทำให้ประชาชนต้องมาแบกรับภาระหนี้สินในอนาคต
รัฐบาลที่ต้องการก่อหนี้ให้กับประเทศเพื่อสร้างคะแนนนิยมทางการเมืองให้ตนเองไม่นำพาถึงปัญหาเศรษฐกิจในอนาคต เพราะต้องการดึงคะแนนนิยมการเมืองให้ตนเอง โดยเฉพาะจากคนที่รู้ไม่เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมกลอุบายร้ายลึกของรัฐบาล และพวกที่คิดตื้นๆ ว่าโลกใบนี้มีของฟรี และไทยมีรัฐบาลที่มีปัญญาหาเงินมาหว่านแจกได้ โดยไม่ก่อหนี้มหาศาลให้กับประเทศ ส่วนรัฐบาลที่ต้องการสร้างหนี้ให้ประเทศก็จะใช้วิธีสร้างเรื่องลวงโลกเพื่อโกหกคนที่คิดไม่เป็นคิดไม่ทัน และไม่ชอบคิดต่อไปเรื่อยๆ ในขณะเดียวกัน รัฐบาลที่คิดคด คิดฉ้อฉลก็จะใช้การด้อยค่าคนที่รู้เท่าทัน คนที่จับโกหกรัฐบาลได้ โดยการบอกว่าคนที่คัดค้านโครงการฉ้อฉลของรัฐบาลคือคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวด้านเศรษฐกิจ และเป็นคนที่ไม่ต้องการเห็นชาติบ้านเมืองเจริญ นี่คือวิธีการของคนมีอำนาจรัฐที่ใช้อำนาจรัฐโดยไม่ชอบ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี