พรรคทหารกับปฏิรูป...อะไรจำเป็น
เรียน คุณวิภาวดีฯ ที่นับถือ
พรรคทหาร – ปราบโกง – ปฏิรูป : อะไรคือความจำเป็น
ความจำเป็นคืออะไร ขึ้นอยู่กับจะถามใคร ถ้าถามนักแสดง“ซุปตาร์”มีเงินล้นธนาคาร อาจตอบว่า “กระเป๋าแบรนด์เนม ที่มีใบเดียวในโลก“ แต่ถ้าถามคนทุกข์ยากคงตอบว่า“ขออิ่มอร่อยก่อนตายสักมื้อ” ซึ่ง“ปัจจัยสี่”คือคำตอบส่วนใหญ่
“เครื่องสแกนม่านตา”ที่ต้องจ่าย 45 บาททุกครั้งที่เก็บข้อมูลและ 45 บาททุกครั้งที่เปิดไฟล์ข้อมูล คุ้มหรือไม่ จำเป็นหรือไม่ คงไม่ใช่ภารกิจประชาชนที่มีหน้าที่เป็นแค่ห่านทองคำ เปิดโทรทัศน์พบข่าวคุณสมชายแถลงถึงความจำเป็นเครื่องสแกนม่านตาให้กระทรวงแรงงานที่ต้องใช้เมืองมะกันเป็นไลบรารี่สำหรับข้อมูลแรงงานต่างด้าว ที่ต้องเสียค่าเซฟและค่าเปิดไฟล์ เงินพันล้านบาทนั้น สมควรนำไปใช้ในภารกิจที่จำเป็นมากกว่า เช่น ซื้อครุภัณฑ์จำเป็นสำหรับป้องกันการก่อการร้ายที่ภาคใต้ ส่วนการจัดซื้อครุภัณฑ์ที่อ้างแต่จำเป็น เช่น เครื่องตรวจจับความเร็ว หรือเครื่องรูดบัตรคนจน ที่ดูเหมือนเป็น“การบกพร่องโดยสุจริต”มากกว่าความจำเป็น
พรรคทหาร ที่แป๊ะพี่ใหญ่บอกถ้าจำเป็นก็ต้องตั้ง ก็ต้องปุจฉาว่า“เป็นความจำเป็นของใคร” แต่คงไม่ใช่ ชาติและประชาชน ส่วนจะเป็นความจำเป็นของใคร ต้องขอให้คุณวิภาวดีฯและแฟนๆ ที่นี่แนวหน้าช่วยกันวิสัชนา แต่ก็มีขอฝากว่า “พรรคทหารตั้งมาแล้วหลายครั้ง”ก็มิได้ทำให้ราชอาณาจักรไทยดีขึ้น ดังนั้นจะโฮปหรือโฮปเลส ก็ต้องคอยเฝ้าดูกันต่อไป
ปราบโกง:เป็นความจำเป็นยิ่งยวด เพราะตราบใดยังทุจริตคอร์รัปชั่น ตราบนั้นประชาชนยัง กินไม่ดี อยู่ไม่เป็นสุข แต่กว่า 3 ปีนาวามแป๊ะนั้น ยังไม่เห็นผลงาน“ปราบโกง”เห็นแต่ผลงาน “ป้องโกง” ตัวอย่างเด่นชัดคือ การตั้งคณะกรรมการอายัดทรัพย์นางดอกไม้ที่ใช้เวลานานกว่า 6 เดือน ทำให้ยึดได้แต่ผายลมของคนโกงเท่านั้น ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า นอกจากไม่สามารถปราบโกงได้แล้ว ยังมีกระบวนการปกป้องคนโกง สำหรับเรื่องจัดซื้อครุภัณฑ์เกินราคามากมายนั้น จะเข้าข่ายส่งเสริมการโกงด้วยหรือไม่ ก็แล้วแต่ว่าจะคิดอย่างไร
ปฏิรูป: เมื่อมวลมหาประชาชนนับล้านๆออกมาขับไล่รัฐบาลสามานย์ จนคุณสมชายต้องยึดอำนาจนั้น เรื่องหนึ่งที่มวลมหาประชาชนปรารถนาคือ“การปฏิรูป”โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สตช.แต่ดูเหมือนนาวาสามแป๊ะจะคิดต่าง เพราะแสดงอาการอิดออด ไม่ต้องการปฏิรูป สตช.แจ้งว่า ให้เป็นภารกิจรัฐบาลหน้า ดังนั้นการปฏิรูปประเทศเรื่องต่างๆจึงไม่ก้าวหน้า เพราะถ้ามีผลงานปฏิรูปเรื่องอื่นๆ ประชาชนก็ต้องทวงถามเรื่องปฏิรูป สตช.ดังนั้น 2 สภาปฏิรูปจึงไร้ผลงาน เมื่อปิดม่านไป ก็แต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปอีกหนึ่งโหลขึ้นมาแทน ซึ่งมีผลงานแบบ“เงียบเป็นป่าช้า” แม้เขียนรัฐธรรมนูญกำหนดยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีสำหรับการปฏิรูป แต่เชื่อได้ว่า“เป็นการซื้อเวลา”เท่านั้น ถ้าปฏิรูป สตช.ล้มเหลว ก็เชื่อขนมเจ๊กกินได้เลยว่า ประเทศไทยจะไม่มีการปฏิรูปเกิดขึ้นเด็ดขาด โดยเฉพาะเมื่อจำเป็นต้องตั้งพรรคทหาร
อนึ่ง คนไทยมิได้เกลียดทหาร แต่ไม่ต้องการให้มาทำหน้าที่ซึ่งไม่เชี่ยวชาญเท่านั้น ถ้า 3 ปีที่ผ่านไป รมต.ทหารสร้างผลงานให้เห็น รับรองเสียงขับไล่รมต.ทหารของนักการเมือง นอกจากจะไร้ความหมายแล้ว ประชาชนจะโห่ร้องต่อต้านด้วย แต่เมื่อท่านรมต.สารภาพว่า ไม่มีความรู้เรื่องภารกิจกระทรวงที่รับผิดชอบ แล้วจะให้ประชาชนยอมรับด้วยหรือ ดอกกุหลาบในวันที่ 22 พ.ค. 2557 ที่มอบให้ทหารนั้น แสดงว่าเกลียดทหารหรือ ถ้าทหารขับไล่ทรราช ปราบโกง ปฏิรูปประเทศให้เห็นผล รับรองว่านักการเมืองสูญพันธุ์ เพราะเมื่อถึงเวลาเลือกตั้ง ประชาชนจะกาเลือกแต่ทหารเท่านั้น ดอกกุหลาบจะล้นค่ายทหารทุกค่ายด้วยซ้ำ
“ถ้าทหารไม่ทอดทิ้งประชาชน แล้วประชาชนจะทอดทิ้งทหารได้อย่างไร” ดังนั้น คุณสมชายก็ต้องถามตัวเองและสมาชิกนาวาสามแป๊ะว่า ทอดทิ้งประชาชนหรือไม่ ทำไมไม่ทำตามความประสงค์ของประชาชนที่ต้องการปราบโกง ปฏิรูป ก่อนการเลือกตั้ง
เฒ่าทารก
ตอบ คุณเฒ่าทารก
เรื่องตั้งพรรคทหาร ถามผมก็คงตอบว่า “ไม่จำเป็น” ในเมื่อผลงานทุกวันนี้ของรมต.ทหารไม่ได้ประทับใจอะไร จะตั้งพรรคไปทำไม หรือจะสืบทอดอำนาจต่อไปทำไมกัน
วิภาวดี หลักสี่
p p p
เรียน คุณวิภาวดี หลักสี่ ที่นับถือ
ทันทีที่“มหาดไทย”เปิดตัวเครื่องตรวจจับความเร็วแบบ“พกพา” ทำเอาฮือฮาไปทั้งบาง เครื่องดังกล่าวเสนอไปครั้งแรกราคาเครื่องละ 900,000 บาท ถูกสำนักงบประมาณท้วงติงมา ราคาสูงเกินไป มีการถอนเรื่องกลับไปทบทวนใหม่ ปรับลดลงเครื่องละ 225,000 บาท ถ้าหลุดรอดไปคงฟาดกันพุงกาง สรุปเหลือเครื่องละ 675,000 บาท ถึงกระนั้นผู้รู้บอกว่า ราคายังสูงกว่าท้องตลาดอีกเยอะ ครม.อนุมัติเงิน 573 ล้านบาทให้ทันที ปัญหายังไม่จบ การสู้รบย่อมส่งผลกระทบต่อผู้แสวงหา“ผลประโยชน์”
ปรากฏมีข้อทักท้วงตามมา ประทานโทษ...จำเป็นเร่งด่วนอะไรนักถึงต้องไปใช้“งบกลาง” ข้อทักท้วงต่อมา การจัดซื้อน่าจะเป็นเรื่องของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ “มหาดไทย”ทำตัวเป็น“ปีศาจ”เข้าไปยุ่งกับเขาได้อย่างไร ข้ออ้างยกขึ้นมาแจง ไม่ได้คลายความระแวงลงแต่ประการใด ในประเทศไทยมีรถสักกี่คันที่วิ่งด้วยความเร็ว 320 กม.ต่อชั่วโมง งานนี้มีผลประโยชน์เกี่ยวโยงด้วยเต็มร้อย ที่สำคัญเครื่องตรวจจับความเร็วแบบ“พกพา”ที่ตำรวจใช้อยู่ในปัจจุบัน ยังใช้การได้ดี แม้จะใช้มาถึง 15 ปีแล้วก็ตาม สำคัญที่สุดคือ...ราคาเพียงเครื่องละ 130,000 บาท สมควรไหมที่จะบริภาษไปถึงบุคคลที่หากินกับเรื่องนี้ สงสารนายกฯ ท่านเอาแต่“พล่าม”เรียกร้องให้เลิกทุจริตและคอร์รัปชั่น ถึงเวลาจริงๆ ก็ไม่เคยใช้อำนาจเข้าไป“ฟัน”ใครเลย ลองจัดการเรื่องนี้ให้เป็นตัวอย่างสักที ผมเดาว่าท่านคง“ไม่กล้า”เหมือนเดิม
ข้อมูลล่าสุดที่ผู้รู้แจ้งมา เครื่องตรวจจับความเร็วแบบ“พกพา”ที่มหาดไทยสำแดงออกมาให้เห็น ชักมีอะไรซ่อนเร้นที่ท่านนายกฯควรต้องตรวจสอบ ฟังนะครับ...เครื่องแบบเดียวกันรายละเอียดการใช้งานตรงกัน ตำรวจที่รัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกาซื้อเครื่องละ 85,000 บาท ย้ำ 85,000 บาทเท่านั้น “พญาโศก”คงมีโอกาสได้บรรเลงในรายการนี้แน่ ข้าราชการไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการ“คดโกง” และไม่ควรใช้อำนาจเข้าไปเชื่อมโยงกับผลประโยชน์ที่ไม่ถูกต้องใดๆทั้งสิ้น กรณีเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด จีที 200 และ“เรือเหาะ”ล้วนบ่มเพาะความไม่น่าไว้วางใจไว้มากโข
ฝากส่งท้ายถึงคสช.เรื่องคำสั่งแต่งตั้งผู้ปฏิบัติงานในคสช. 34 คนโครงการอินเตอร์เนตเพื่อประชาชน มีหนึ่งคนเท่านั้นที่หลายคนฝากถามมา “มยุรา ช่วงโชติ”เป็นบุตรสาวใคร ถ้าท่านนายกฯไม่รู้ก็ขอให้นายมีชัย ฤชุพันธุ์เป็นผู้ตอบ เพราะมีการระบุชัดเจนตำแหน่งของเธอคือ รองเลขาธิการของนายมีชัย อัตราเงินเดือน 47,500 บาท อุแม่เจ้า...เงินของชาติทั้งนั้นที่ต้องเอาไปจ่ายเป็นเงินเดือน
ย้อนหลังไปนิดไม่กี่ปีนี้เอง สนช.และสปช. ถูกวิจารณ์หนักในการแต่งตั้งลูกหลานมาช่วยงานกินเงินเดือนหลวง ช่วงนั้นท่านประธาน พรเพชร วิชิตชลชัย ปฏิเสธเสียงแข็งว่า ทำได้ ไม่มีระเบียบอะไรห้าม สุดท้ายตกมาตายอย่างน่าทุเรศ เพราะมีการกำหนดหลักเกณฑ์การแต่งตั้งผู้ปฏิบัติงานไว้ชัดแจ้ง ท่านประธานสนช.เป็นผู้ลงนามในคำสั่งดังกล่าวเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2557
ข้อบังคับจริยธรรมของ สนช. เขียนไว้อย่างสวยหรู ลองอ่านกันดูสักหน่อย “สมาชิกต้องไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ต้องไม่ใช้ตำแหน่งหน้าที่เพื่อประโยชน์ส่วนตัว” สุดท้ายก็ยอมก้มหัวให้กับความไม่ดีงาม ถ้าคิดว่ามีความสุขกับการจุดไฟเผาตัวเอง จะเดินหน้าบรรเลงต่อก็เชิญ
สมควร บุญสมเกียรติ
p p p
เรื่องยุ่งยุ่งนุงนังยังเห็นอยู่ ก็ไม่รู้เมื่อไหร่...จักได้หมดสิ้น
ยังมีข่าวพวกเหลวไหลให้ได้ยิน ยังหากิน“ส่วนต่าง”ไม่บางเบา
เรื่อง“เงินทอน”นอนคุกสนุกไหม ที่ทำไป“ไม่ใช่โซ”อวดโง่เขลา
เรื่องไม่ควรสวนกระแส ทุกข์แก่เรา ทางบรรเทาก็มี...แต่หนีมัน
เห็นเขาได้ อยากได้บ้าง เดินทางผิด เพราะวิกฤติเดือดร้อน...นอนไหวหวั่น
บทเรียนมีก็ไม่จำ ยังทำกัน รับโทษทัณฑ์เสียบ้า....อาจสร่างซา
“คอร์รัปชั่น”ต้องจับมารับโทษ ผลประโยชน์นอกระบบ จบปัญหา
นายกฯต้องจริงจังดังสัญญา เห็นแก่หน้ากันอยู่ “ตู่”จะพัง!!!
“เบี้ย”
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี