ขณะนี้บรรยากาศที่แผ่ปกคลุมประเทศไทยซึ่งทำให้ผู้คนตื่นตาตื่นใจตื่นตัว ลุกฮือขึ้นในทางจิตใจในขอบเขตทั่วประเทศก็คือปรากฏการณ์ ตูน บอดี้สแลม
ตูน บอดี้สแลม เป็นชื่อและฉายาของนักร้องคนหนึ่งของประเทศไทย ซึ่งจัดว่าเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมของคนรุ่นใหม่ของประเทศไทย และเจ้าตัวก็เป็นนักกีฬา คือเป็นนักวิ่ง
ปรากฏการณ์ ตูน บอดี้สแลม เกิดขึ้นเนื่องจากประสบการณ์จากการเห็นผู้คนได้รับความทุกข์ทรมานและความไม่ยุติธรรมของผู้ป่วยจำนวนมาก ที่ไม่ได้รับการรักษาพยาบาลอย่างเต็มที่ตามสมควรแก่ฐานะ โดยสาเหตุสำคัญก็คือโรงพยาบาลเหล่านั้นขาดทั้งเครื่องมือแพทย์ ขาดทั้งบุคลากร และขาดทั้งหยูกยาที่จะใช้ในการดูแลรักษาพยาบาล
ปรากฏการณ์ดังกล่าวนั้นคงกระทบใจ ตูน บอดี้สแลม อย่างลึกซึ้ง ดังนั้นจึงได้ตัดสินใจที่จะวิ่งการกุศลเพื่อระดมเงินบริจาคจากพี่น้องประชาชนเพื่อบริจาคให้แก่โรงพยาบาล 11 โรง
ดังนั้นทันทีที่มีการปรากฏข่าวเรื่องนี้ออกสู่สาธารณะ จึงได้รับการขานรับจากผู้คนทุกวงการอย่างกว้างขวาง เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ฝังใจคนไทยส่วนใหญ่มาช้านานแล้ว นั่นคือมีความฝังใจว่าคนไทยไม่ได้รับการเหลียวแลในการรักษาพยาบาลตามสมควร
โรงพยาบาลก็ขาดแคลน หมอก็ขาดแคลน เครื่องมือแพทย์ก็ขาดแคลน การดูแลเอาใจใส่ผู้ป่วยก็เป็นแบบขอไปทีเป็นจำนวนมาก จึงเป็นเหตุให้คนป่วยจำนวนหนึ่งต้องได้รับความทุกข์ทรมานเกินจำเป็น บ้างก็อาการหนักและเดือดร้อนเสียหายเกินความจำเป็น และบ้างก็เสียชีวิตชนิดที่ไม่พึงจะเป็น
ปรากฏการณ์เหล่านี้ฝังใจคนไทยอยู่ทั่วประเทศ และที่สำคัญคือความฝังใจเรื่องขบวนการผีดิบ ที่เอาเงินภาษีประชาชนซึ่งแทนที่จะส่งเข้าคลัง จัดทำเป็นงบประมาณเพื่อตั้งเป็นงบสาธารณสุขของประเทศ กลับตัดตอนเอาเงินภาษีดังกล่าวไปให้บุคคลคณะหนึ่งซึ่งเขาเรียกว่า คณะตระกูล ส. เพื่อไปจับจ่ายใช้สอยเรื่องการรณรงค์ต่อต้านเหล้าและบุหรี่โดยไม่มีการตรวจสอบ ไม่ผ่านระบบงบประมาณ
ตั้งตนเป็นผู้วิเศษที่อยู่เหนือกฎหมายงบประมาณแผ่นดินและอยู่เหนือการตรวจสอบทั้งปวงทั้งๆ ที่มีข่าวฉาวโฉ่ตลอดมาถึงการตั้งมูลนิธิส่วนบุคคลไปขอเงินวงเงินดังกล่าวไปใช้จ่ายกันโดยไม่มีการตรวจสอบใดๆในระบบงบประมาณ
เมื่อความฝังใจนั้นถูกกระตุ้นด้วยจิตกุศลสาธารณะของ ตูน บอดี้สแลม คนไทยทั้งประเทศก็ขานรับสนับสนุนกันเป็นการใหญ่ จนกลายเป็นมหกรรมครั้งประวัติศาสตร์ของชาติ
เป็นมหกรรมของการลุกฮือทางจิตใจของคนไทยทั้งประเทศ ที่ตื่นลุกขึ้นสู้กับความอยุติธรรมในการสาธารณสุขของประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด
จากการเริ่มต้นวิ่งของ ตูน บอดี้สแลม ด้วยคนระดับร้อยคน เพียงระยะเวลาไม่ถึงวันที่สิบ ปรากฏว่า ตามทางผ่านมีประชาชนเข้าร่วมหรือรอต้อนรับนับแสนคน ซึ่งต้องนับว่าเป็นปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เห็นปรากฏการณ์เช่นนี้แล้วก็ตั้งความหวังในใจลึกๆ ว่า ถ้าหากการลุกฮือทางจิตใจของประชาชนขยายวงขึ้นถึงขีดสุด กรณีก็อาจจะเป็นแบบเดียวกับเมื่อครั้งมหาตมะ คานธีออกเดินเท้าเปล่าไปทำนาเกลือ ในขณะที่เกลือของอินเดียขาดแคลนมาก และในที่สุดเมื่อประชาชนชาวอินเดียนับล้านๆ คน เข้าร่วมเดินทางไปทำนาเกลือ ก็นำไปสู่การกอบกู้เอกราชให้กับอินเดียในที่สุด
ครั้งนี้ถ้าหากปรากฏการณ์ ตูน บอดี้สแลม สามารถทำให้เกิดการลุกฮือทางจิตใจของคนไทยทั้งประเทศ ที่ส่งผลสะเทือนให้เกิดความรู้สึกละอายใจและความรับผิดชอบในหัวใจของผู้มีอำนาจ โดยเฉพาะผู้มีอำนาจหน้าที่ในกิจการสาธารณสุขของประเทศ
ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาพวกท่านทำอะไรกัน? จึงปล่อยให้บ้านเมืองและราษฎรทุกข์เข็ญถึงเพียงนี้ ทั้งๆ ที่แต่ละปีก็มีการตั้งงบประมาณสาธารณสุขจำนวนมหาศาล ซึ่งแทนที่จะอำนวยประโยชน์สุขแก่อาณาประชาราษฎร์ทั้งปวง กลับมีแต่ข่าวคราวการโกงบ้านกินเมือง การเล่นพรรค เล่นพวก ในขณะที่ปัญหาของประเทศชาติและประชาชนในเรื่องสาธารณสุขไม่เคยได้รับการแก้ไขอะไรเลย
วงเงินบริจาคในการวิ่งการกุศลของ ตูน บอดี้สแลม ในครั้งนี้อาจจะไม่มากนักถ้าหากจะเทียบกับวงเงินงบประมาณ แต่เงินนี้เป็นเงินจากจิตใจเสียสละและรักห่วงเพื่อนร่วมชาติของคนไทยทั้งประเทศ จะเปรียบประดุจดังประกายไฟที่ถูกจุดขึ้นแล้วจากปลายด้ามขวานใต้สุดของประเทศไทย
ขอเพียงไฟหย่อมนี้ลุกลามกระจายไปทั่วประเทศด้วยกุศลเจตนาอย่างเดียวกันในการปฏิรูปกอบกู้กิจการสาธารณสุขของประเทศ เมื่อนั้นการลงทุนลงแรงของ ตูน บอดี้สแลม และปรากฏการณ์ ตูน บอดี้สแลม ในครั้งนี้ก็จะล้ำค่ายิ่งนัก
บ้านเมืองของเราในวันนี้หันไปทางไหนก็มีแต่ความมืดมิดวังเวง คนทั้งหลายหมดที่พึ่ง ร้องตะโกนอย่างไรก็ไม่มีใครได้ยิน ความทุกข์ยากของราษฎรก็ไม่มีใครมองเห็น
ราษฎรประสบภัยน้ำท่วมหลายจังหวัดทั่วประเทศ เดือดร้อนแสนเข็ญ ทุกอย่างยังถูกปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรม คือรอน้ำลดตามธรรมชาติ ไม่มีใครคิดอ่านป้องกันแก้ไขในวันข้างหน้าเลย
แต่ประเทศไทยนี้ศักดิ์สิทธิ์ พระสยามเทวาธิราชมีจริง ดังนั้นทุกวันคนไทยจึงได้สัมผัส ได้รู้ ได้เห็น ข่าวคราวที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีรับสั่งให้หน่วยทหารในพระองค์หลายหน่วย รวมทั้งองคมนตรีและจิตอาสาออกไปช่วยเหลือราษฎรทุกหนแห่งทุกวัน เป็นพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้
ก็ไม่รู้ว่าคนมีอำนาจหน้าที่ รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดที่เกี่ยวข้องจะสำนึกสำเหนียกอะไรกันบ้าง?
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี