สุรินทร์ พิศสุวรรณ-กรณีศึกษาดับไฟใต้
เรียน คุณวิภาวดีฯ ที่นับถือ
อัตชีวประวัติของดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ : กรณีศึกษาเพื่อใช้แก้ไขปัญหาไฟใต้
อัตชีวประวัติดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ ที่คุณยายได้รับจากไลน์ แล้วอ่านให้ฟัง ทำให้ผมได้รับทราบว่า ชีวิตของท่านมีคุณค่ามาก สามารถนำมาถ่ายทอดให้ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบทั้งทางด้านการศึกษาและสังคมรับทราบ โดยเฉพาะสามารถนำมาแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสี่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ได้อย่างบูรณาการ
เด็กชายสุรินทร์เกิดในครอบครัวคนไทยที่นับถือศาสนาอิสลาม เป็นมุสลิมที่จ.นครศรีธรรมราช ชื่อภาษาอาหรับนั้นผมจำไม่ได้ แต่ใช้นามสกุล “พิศสุวรรณ” เมื่อยังเด็ก พ่อแม่เดินทางไปศึกษาศาสนาที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ทิ้งให้เขาอาศัยอยู่กับตายาย ถึงวัยเข้าศึกษา ก็เข้าศึกษาโรงเรียนปอเนาะเหมือนเด็กมุสลิมทั่วไป แต่ที่แปลกไปคือ ดร.สุรินทร์ได้เข้าศึกษาในโรงเรียนวัดด้วย(กลางวันเรียนโรงเรียนวัด กลางคืนเรียนโรงเรียนปอเนาะ) ทำให้ได้รับความรู้มากกว่าเด็กมุสลิมคนอื่นๆ ครั้งหนึ่งเขาขี่จักรยานไปโรงเรียน ถนนเป็นถนนลูกรัง ทำให้มีน้ำขังและเมื่อรถยนต์ที่แล่นผ่านหลุมที่มีน้ำขังไม่ระวัง ทำให้น้ำโคลนกระเซ็นมาเปื้อนชุดนักเรียน ด.ช.สุรินทร์ที่ในวันนั้นยังใช้ชื่อในภาษาอาหรับอยู่ จึงตั้งใจว่า “โตขึ้นจะเป็นนายอำเภอและจะกลับมาราดยางถนนเส้นนี้” ด.ช.สุรินทร์ถูกเปลี่ยนชื่อตามใบปลิวที่ใช้หาเสียงของ นายสุรินทร์ มาศดิตถ์ ที่คุณยายได้รับแจกจากตลาดซึ่งคุณยายชื่นชอบชื่อนี้ จึงเปลี่ยนชื่อให้หลานชาย
ต่อมาเมื่อด.ช.สุรินทร์เข้าศึกษาต่อโรงเรียนมัธยมประจำจังหวัด ได้รู้จักครูสองสามีภรรยาที่เป็น มิชชันนารี่ซึ่งได้ชวนเขาให้ไปร่วมดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อน ทำให้มีความรู้ภาษาอังกฤษดีขึ้น ซึ่งครูสองสามีภรรยาก็ช่วยเหลือให้ด.ช.สุรินทร์สมัครทุนเอเอฟเอส ได้เป็นนักเรียนโครงการแลกเปลี่ยนไปศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อกลับมาก็เข้าศึกษาคณะรัฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ แต่ก็ก่อปัญหาใหญ่ให้ดร.สุรินทร์ เพราะบิดาที่กลับจากศึกษาต่อต้องการให้เรียนเรื่องศาสนา แต่ดร.สุรินทร์ตัดสินใจจะเรียนธรรมศาสตร์ พ่อก็บอกว่าจะไม่ส่งเสีย พร้อมกับ “ตัดลูกตัดพ่อ” ซึ่งดร.สุรินทร์ก็หาเงินเรียนเองจนผ่านไปสองปี ก็สามารถชิงทุนไปศึกษาต่อชั้นปีที่ 3 และ 4 ในมหาวิทยาลัยแคลร์มอนต์ และได้ทุนศึกษาต่อจนจบปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด โดยทำงานหาเงินระหว่างเรียนทุกอย่าง เช่น รับจ้างทาสี หลังจากนั้นก็กลับมาเป็นอาจารย์ที่ธรรมศาสตร์และนักการเมืองน้ำดีของไทย ก่อนจะก้าวสู่ระดับโลก จนถึงแก่อนิจกรรมในวัย 68 ปี
การใช้ชีวิตของดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณเป็นแบบอย่างที่ดีที่ลูกหลานไทยสมควรเดินตามและยึดถือท่านเป็นไอดอล ผมขอกราบส่งวิญญาณท่าน ไม่ว่าจะเชื่ออย่างไรแต่เมื่อมี Action ก็ต้องมี Reaction ไม่ว่าจะเชื่อตามปรัชญาศาสนาใด ดังนั้นวิญญาณของดร.สุรินทร์ต้องไปดีอย่างแน่นอน
ประเทศไทยจะไม่มี ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ ถ้าเด็กชายสุรินทร์ไม่ได้ “เข้าโรงเรียนวัด” เพราะจะมีแต่นายที่มีชื่อเป็นภาษาอาหรับและมีความรู้เฉพาะเรื่องศาสนาและภาษาอาหรับเท่านั้น จะไม่มีเลขาฯอาเซียนชื่อดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ อัตชีวประวัติของท่านมีคุณค่ามาก สามารถนำมาใช้เป็นกรณีศึกษาเพื่อใช้แก้ไขปัญหาไฟใต้ได้อย่างดี เพราะถ้าใช้ “แพทเทิลชีวิต” ของดร.สุรินทร์ เป็นแม่พิมพ์ ประเทศไทยก็จะมีคนเก่งๆ เช่น ดร.สุรินทร์เพิ่มขึ้นอีกมากมาย เพียงแต่ต้องให้โอกาสเด็กมุสลิมให้สามารถเรียนรู้โลกกว้าง มิใช่ให้รู้แต่เรื่องศาสนาและภาษาอาหรับ เพราะเท่ากับสร้างสังคม“ฮามิช” ในประเทศไทย ฮามิชเลือกที่จะใช้ชีวิตแบบโบราณ ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงใดๆ ซึ่งไม่สามารถอยู่ร่วมกับเทคโนโลยีและกฎหมายได้ เพราะต้องอยู่ใต้กฎข้อบังคับโบราณและกฎของศาสนา
ถ้าประเทศไทยต้องการให้ชาวมุสลิมอยู่ร่วมสังคมไทย ก็ต้องนำแบบแผนชีวิต ดร.สุรินทร์มาใช้เป็น “แม่พิมพ์” ดร.สุรินทร์ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า แม้จะมีโอกาสเพียงน้อยนิด แต่สามารถทำให้ฝันเป็นจริงได้ ดังนั้น ประเทศไทยต้องดึงสี่จังหวัดชายแดนใต้เข้ามาอยู่ในวงโคจรของประเทศไทย ต้องไม่ผลักไสไล่ส่งให้คนไทยที่นับถือศาสนาอิสลามหลุดออกไปเป็นส่วนเกินเพราะภาษาท้องถิ่นและวัฒนธรรม ทุกวันนี้ภาษาท้องถิ่นภาคอื่นๆ แทบสูญหายไปเพราะภาษากรุงเทพฯภาษาไลน์ แต่ทำไมไม่สามารถแทรกซึมเข้าไปภาคใต้ได้ ถ้าตั้งใจจริงเชื่อว่าสามารถสร้าง ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ ได้อีกนับหมื่นนับแสนครับ
ถ้าไม่มีโรงเรียนวัดก็คงไม่มีดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ และจากการวิเคราะห์อัตชีวประวัติของท่านก็เชื่อว่า ผู้มีส่วนทำให้ท่านก้าวถึงสุดยอดได้ก็คือ “คุณตาและคุณยาย” ที่รับเลี้ยง เมื่อพ่อแม่ท่านเดินทางไปศึกษาต่อด้านศาสนาที่ซาอุดีอาระเบีย เพราะถ้าพ่อแม่เป็นผู้ดูแลเลี้ยงดู ก็คงไม่อนุญาตให้เข้าโรงเรียนวัดแน่นอน เพราะต้องการให้ศึกษาแต่เรื่องศาสนาเท่านั้น การศึกษาที่ถูกต้องในวัยเด็กนั้นสมควรต้องศึกษาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิต ไม่สมควรปิดกั้นการเรียนรู้โลกกว้าง เช่น ถ้านักการศึกษาในอดีตไม่ฝังหัวว่า “ประเทศไทยจะไม่มีปรากฏการณ์สึนามิ” ก็คงสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากสึนามิครั้งใหญ่ในประเทศไทยให้รอดชีวิตได้มากกว่านี้ ดังนั้น สำหรับคนไทยภาคใต้ที่นับถือศาสนาอิสลาม ก็ไม่สมควรเรียนรู้เฉพาะภาษาอาหรับและคัมภีร์ศาสนาเท่านั้น เป็นเพราะดร.สุรินทร์มีโอกาสเห็นโลกกว้าง จึงสามารถพัฒนาตัวเองให้เป็นบุคคลของโลกที่มีความสามารถ สร้างประโยชน์แก่โลกและประเทศไทย
ดังนั้นช่วยกรุณาเปิดโลกของเด็กมุสลิมในสี่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้รู้กว้างมากกว่าภาษาอาหรับและคัมภีร์ด้วยครับ
นายโง่ดำดิน
ตอบ นายโง่ดำดิน
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ หวังว่าผู้มีหน้าที่ในแวดวงการศึกษา,การปฏิรูปประเทศ โดยเฉพาะรัฐบาลผู้มีอำนาจหน้าที่ในการดับไฟใต้ จะมองเห็นคุณค่าของอัตชีวประวัติดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณนี้...ขอเติมเต็มข้อมูลที่ดูจาก “อากู๋” สำหรับชื่อภาษาอาหรับของดร.สุรินทร์คือ “อับดุล ฮาลิม บิน อิสมาอิล” ครับ
วิภาวดี หลักสี่
แยกแยะเสนอแนะเยอะ+ส่วย
เรียน คุณวิภาวดี หลักสี่ ครับ
แยกแยะเสนอแนะเยอะ
เก๋าเสื้อกั๊กออกมาทักมาทาย ถึงเชื้อชายขุนชาญ ทหารกล้า
เอ่ยสังคมบ่มประเมิน เทินเรื่อยมา ทำนิ่งนอนอ่อนล้า จะแย่เอา
อานันท์ทั่นอดีตนายกฯก็ถกแจ้ง ควรเข้มแข็งแหล่งข้าว น้าวเขย่า
ชาวนาไทยไม่ขี้ก้อง ต้องบรรเทา ให้พวกเขายืนยั้งอย่างมั่นคง
ช่วงนี้มีแต่คำนำ ชี้แนะ คสช. เฉยแฉะ แวะทำหลง
รัฐบาลค้างช้า อาจ“ขาลง” ต้องพะวงไว้บ้าง กร่างไม่ดี
ควรทุ่มเทแรงกาย ใส่สติ เพ่งเร่งผลิริร่ำกระหน่ำซี่
ให้สังคมชมชื่นรื่นชีวี ลบคำที่มีแต่พ้องพี่น้องอวย
เข็นผลงานบานกระฉูดให้สูดได้ ลบปัญหาคาใจให้มันม้วย
เคร่งกระชับกับฟันเฟืองเชื่องช้าซวย ซังกะบ๊วยห่วยแตก อย่าแบกหาม
พวกโหลยโท่ยโกยทิ้ง ปิ้งให้เกรียม พวกขาเทียมเตรียมส่งคงต้องห้าม
อย่าเอามาประดับ ครับไม่งาม คอยห้ามปรามพวกกังฉินกินของเน่า
แม้ลงมือลงไม้ ไม่ช้าคงรอด จะมีดอกออกผล ยลตรงเป้า
แล้วทีนี้ ชี้ว่าถ้าบรรเทา นั่งที่เก่าเก้าอี้หนา นายกฯเอย
ชิชะ ชัด
.........
ส่วย
หาดป่าตองครองส่วยซะด้วยซี่ เขาว่ามีมาเฟียคอยเคลียร์สิน
ข่าวบอกว่าตั้งหน้าตั้งตากิน ทั่วท้องถิ่นร้านค้าหาดป่าตอง
เป็น“คนที่มีสี”มีกฎหมาย ยึดถือไว้ใช้สอยคอยสนอง
ทั้งทั้งมีหน้าที่คลี่ปกครอง กลับมาจ้องทำหมองไหม้ ใช้เสียเอง
ถ้าไม่มีผู้กล้าออกมาแฉ ค่อนข้างแน่แลไม่เห็นเส้นบวมเบ่ง
ส่วยไม่สวย ห่วยแตกแทรกครื้นเครง เอาตัวเป้งออกมาดูนะหมู่พวก
มองทางโน้นก็หวย ห่วยแสนเข็ญ มองทางนี้มีประเด็น ส่วยร้อนลวก
เอสยามเมืองยิ้มพิมพ์สะดวก กับกลุ่มกร๊วก จวกทรัพย์นับใส่เป๋า
รัตน์ ทะเลแก้ว
wvvipawadee1@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี