หลังจากรัฐธรรมนูญครึ่งใบประกาศใช้และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่มีการถ่วงน้ำหนัก กำลังจะผ่านสภาแต่งตั้ง นักการเมืองอาชีพ นักการเมืองสมัครเล่น ตลอดจนผู้แปลงร่างจากองค์อธิปัตย์มาเป็นนักการเมือง ประกอบด้วยโรดแมปที่องค์อธิปัตย์ยืนยันว่า จะดำเนินไปตามที่ได้ประกาศไว้ ทำให้นักการเมืองของประเทศไทยภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบไทยๆ เริ่มคึกคักเสมือนนักมวยเริ่มต้นฟิตซ้อมเพื่อเตรียมขึ้นเวที
เกิดเกจิอาจารย์ที่ไม่เคยลงเวทีการเลือกตั้ง แต่มีส่วนทำการเมืองด้วยการแต่งตั้ง แสดงความเห็น ทั้งที่ไม่มีประสบการณ์ในการสมัครรับเลือกตั้งเลย ได้เสนอความเห็นสนับสนุนให้จัดมีมหรสพในการหาเสียงได้ โดยอ้างสารพัดประโยชน์ ซึ่งในอดีตก็เคยมีการทำในทำนองนั้นในการหาเสียงของผู้สมัครรับเลือกตั้ง
จริงอยู่การยอมให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งจัดให้มีมหรสพควบคู่ไปกับการปราศรัย สามารถเรียกประชาชนให้มารวมตัวกัน แต่อย่าลืมปัญหาที่ต้องคิดต่อไปว่า การจัดให้มีมหรสพ ไม่ว่าจะเป็นหนังกลางแปลงหรือดนตรีหรือการแสดงไม่ว่าลิเก ละคร ตลก หรือการแสดงอื่นใดที่เรียกคนมารวมตัวกันเพื่อดูมหรสพพร้อมกับฟังการปราศรัยของผู้สมัครรับเลือกตั้งหรือตัวแทนนั้นไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ
สิ่งสำคัญที่สุด คือ ค่าใช้จ่ายในการจัดให้มีมหรสพแต่ละครั้งเป็นเงินมากพอสมควร ถ้ายอมตามนี้กฎหมายเลือกตั้งคงต้องกำหนดจำนวนเงินค่าใช้จ่ายไว้จำนวนหนึ่งก็ตาม ผู้สมัครจะใช้จ่ายในวงเงินที่กำหนด คงไม่เพียงพอแน่ แต่ถ้ากำหนดไว้สูง ผู้สมัครที่มีคุณสมบัติสมควรจะเป็นตัวแทนของประชาชนจำนวนมาก คงสู้ค่าใช้จ่ายไม่ไหว ผลก็คือผู้สมัครที่มีเงินเท่านั่นสามารถหาเสียงด้วยวิธีดังกล่าวได้
แต่วิธีดังกล่าวจะเป็นไปได้ ถ้าคณะกรรมการเลือกตั้งต้องเป็นผู้จัดมหรสพเองโดยรัฐออกค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ ซึ่งอาจจะจัดให้มีการแสดงมหรสพตามสถานที่ที่กำหนดในแต่ละเขตเลือกตั้งแล้วเชิญให้ผู้สมัครในเขตนั้นๆมาร่วมกันปราศรัยหาเสียง ก็จะเป็นไปได้
อย่างไรก็ดี การที่ประชาชนจะได้ผู้แทนราษฎรที่สมควรจะเป็นตัวแทน สมควรที่เขาจะเลือกนั้น ผู้สมัครรับเลือกตั้งจะปราศรัยเก่งแต่เพียงอย่างเดียว ประชาชนก็จะไม่ได้ผู้แทนที่เป็นตัวแทนที่ดีมีความสามารถ ในอดีตประเทศไทยเคยมีผู้แทนราษฎรในแบบต่างๆ มามาก เช่น ผู้แทนคนยาก ผู้แทนปลาทูเค็ม ผู้แทนประเภทเจ้าสัวผู้แทนนักเลง ผู้แทนจากพลร่ม-ไพ่ไฟ ฯลฯ เป็นต้น
สุดท้ายนี้ เคยมีนักวิชาการที่สนใจเรื่องคุณสมบัติองตัวแทนประชาชน สรุปเรื่องคุณสมบัติของผู้แทนราษฎรที่ประชาชนควรเลือกไว้ 6 ประการ คือ
1.เป็นผู้สมัครฯ ที่มีถิ่นฐานอยู่ในเขตเลือกตั้งที่เราจะเลือกและเป็นคนที่เรารู้จักดีที่สุด
2.มีความประพฤติอันดีงาม
3.มีความเสียสละและซื่อสัตย์
4.มีความรู้และความสามารถ
5.หาเสียงด้วยความสุจริตใจ
6.มีประวัติการทำงานเพื่อส่วนรวมมาแล้ว
ถ้าผู้มีสิทธิเลือกตั้งเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น สังคมไทยจะเป็นสังคมประชาธิปไตยที่ประชาชนชาวไทยแสวงหามาเป็นเวลากว่า 83 ปี เพราะที่ผ่านมาประเทศไทยปกครองด้วยระบอบราชาธิปไตยเปลี่ยนเป็นอภิชนาธิปไตย รวมทั้งธนาธิปไตย ไม่เคยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยในทางปฏิบัติเลย นอกจากประชาธิปไตยแต่ตัวหนังสือ
และเคยมีผู้กล่าวว่าเรามีประชาธิปไตยที่วางอยู่บนพานที่ตั้งที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเท่านั้น
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี