ศาสตราจารย์ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อดีตแกนนำคนเดือนตุลาปี 2516 ถึง 2519 นักวิชาการอาวุโสชาวสุพรรณบุรี อดีตเลขาธิการศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย วัย 66 ปี ที่ปัจจุบันเป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ และเป็นนายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช คู่กับนายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ ได้ให้สัมภาษณ์กับวิทยุ 101 ถึงปัญหาเศรษฐกิจรากหญ้าในประเทศไทยเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมาว่า
เขาได้มาทำงานในพื้นที่ภาคใต้ตั้งแต่ปี 2559หลังทำงานเป็นอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า) ที่กทม.มา 2 สมัย 8 ปี เป็นประธานคณะกรรมการปฏิรูปการเมืองและยังตกเป็นผู้ต้องหากบฏกปปส.สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์เห็นว่าไทยยังมีปัญหาเศรษฐกิจรากหญ้าหลังรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 เกษตรกรในชนบทร้อยละ 30 ของประชากร 67 ล้าน ที่มี 20 ล้านคน เพราะผลผลิตเกษตรขายได้ราคาต่ำทั้งข้าวเจ้า ยางพารา ปาล์มน้ำมันข้าวโพด และมันสำปะหลัง
ที่ได้ราคาดีมีผลไม้ของชาวสวนที่ทำสัญญาขายกับล้งของนักธุรกิจจีนแล้วก็มีถั่วเหลือง มะพร้าว และกาแฟผลไม้ภาคใต้ได้ราคาไม่เท่าผลไม้ในภาคเหนือและภาคตะวันออก เพราะออกทีหลังภาพรวมเศรษฐกิจไทยหลังรัฐประหาร 2557 ถึงปีนี้ 2561 จะดีเฉพาะคนรวยและคนชั้นกลางแต่คนรากหญ้าเกษตรกรรายได้ยังไม่ฟื้นแม้ว่ารัฐบาลนี้จะอัดฉีดเงินให้คนจนปีละ 2 แสนล้านบาท แต่เห็นว่าน้อยเกินไปไม่เพียงพอกับความต้องการในชนบท
ตลาดการค้าในชนบทกำลังซื้อยังไม่ดีนักที่น่าเป็นห่วงคือคนในภาคใต้ 10 ล้านคน กลุ่มที่ทำงานประจำไม่เดือดร้อนแต่เกษตรกรกับชาวประมงยังแย่เนื่องจากยางราคาตกตลอดหลายปีโอกาสที่ยางจะมีราคาสูงเหมือน 10 ปีก่อนเป็นไปได้ยากเพราะยางกับน้ำมันเป็นผลผลิตคู่กัน ถ้าน้ำมันราคาบาร์เรลละ 55-65 เหรียญสหรัฐ โอกาสที่ยางจะได้ราคายังมองไม่เห็น
2 ประเทศยักษ์ใหญ่ที่ใช้ยางไปผลิตยางรถยนต์มากคือจีน กับอินเดีย เมื่อยางสังเคราะห์ราคาลดเพราะน้ำมันราคาตกปัจจุบันโอกาสที่จะเห็นน้ำมันบาร์เรลละ 80-90 เหรียญสหรัฐ ไม่มีทางเป็นไปได้แล้วเลิกฝันได้ยิ่งโลกหันมาใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าแทนน้ำมันเบนซิน หรือดีเซลราคาน้ำมันไม่สูงต้นทุนผลิตไฟฟ้าลดลงตามไปด้วยเอาถ่านหินมาใช้ไม่น่าจะคุ้ม
วิธีแก้ไขที่จะทำให้คนรากหญ้าคือเกษตรกรในภาคใต้และทุกภาคมีรายได้ลืมตาอ้าปากได้นั้นในฐานะที่เป็นสื่อมวลชนมาร่วม 50 ปี ประสบการณ์ผ่านมา ทั้งในและต่างประเทศก็คือภาครัฐต้องสร้างโครงการยักษ์แบบอีอีซีขึ้นในภาคใต้ด้วยการขุดคลองเชื่อม 2 มหาสมุทรทำภาคใต้เป็นแหล่งงานนำรายรับเข้าประเทศและกระเป๋าของประชาชนชาวใต้
รัฐบาลจะทำได้คือสร้างโครงการขุดคลองระยะทาง 135 กม. จากทะเลอันดามันผ่านมาอ่าวไทยพื้นที่ 5 จังหวัดกระบี่ ตรัง นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ใช้เวลา 4-5 ปี ไทยจะมีท่าเรือยักษ์ที่อำเภอระโนด นำรายได้มหาศาลเข้าประเทศ คนไทย 2 ล้านคน จะมีงานทำแม้จะใช้วงเงินลงทุนสูง 2 ล้านล้านบาท ก็จะคุ้มค่าโดยตั้งเป็นบรรษัทลงทุนนานาชาติไม่มีใครเป็นเจ้าของ
โครงการคลองไทยไม่ใช่เรื่องตลกหรือเพ้อฝันอย่างที่ปรามาสกัน มหาวิทยาลัยระดับโลกหลายๆ แห่งได้ศึกษาวิเคราะห์ความเป็นไปได้แล้วเป็นการสร้างงานปั้นเงินให้ประเทศและคนรากหญ้าอย่างแท้จริงรัฐบาลต้องนำไปพิจารณาด้วย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี