เมื่อสองสามวันที่ผ่านมานี้ ผู้เขียนได้อ่านพบข้อเสนอของท่านผู้รู้ทางศาสนาท่านหนึ่งได้เสนอแนะให้มีการรื้อฟื้นให้นักเรียนตั้งแต่ชั้นประถมตอนต้น ได้มีโอกาสเรียน “ภาษาบาลีและภาษาสันสกฤต” จากข้อเสนอที่มีคุณค่ายิ่งนี้ทำให้ผู้เขียนต้องย้อนไปศึกษาแผนการศึกษาฉบับแรกของประเทศสยาม พุทธศักราช ๒๔๗๕ ที่ประกาศใช้เพื่อรองรับหลัก ๖ ประการ ของคณะราษฎร ให้มีความครบถ้วนสมบูรณ์ ในเรื่องการศึกษา ดังนี้
ในคำแถลงของคณะราษฎรที่ประกาศในเช้ามืดในวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๔๗๕ ณ ลานพระราชวังดุสิต ข้อ ๖มีความว่า “จะต้องให้การศึกษาอย่างเต็มที่แก่ราษฎร”
ต่อมาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาประชาธิปก พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ประกาศใช้แผนการศึกษาชาติไว้เป็นบรรทัดฐาน โดยคำปรึกษาของสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ ๒๘ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๗๕ ที่มีหลักการสำคัญและสอดคล้องกับหลัก ๖ ประการ ในข้อ ๖ ดังนี้
“....ให้พลเมืองทุกคน ไม่เลือกเพศ ชาติ ศาสนา ได้รับการศึกษาพอเหมาะแก่อัตตภาพของตนๆ คือ พอสมควรแก่ภูมิปัญญาและทุนทรัพย์ เพื่อทุกคนจะได้เป็นประโยชน์แก่บ้านเมืองในอาชีพที่ตนเกิดมาสำหรับกระทำ....เพื่อความสมบูรณ์แห่งพสกนิกรสยาม ท่านให้จัดการศึกษาทั้งสามส่วนล้วนพอเหมาะกันคือ
(๑)จริยศึกษา อบรมให้มีศีลธรรมดีงาม
(๒)พุธิศึกษา ให้ปัญญาความรู้
(๓)พลศึกษา....ฝึกหัดให้เป็นผู้มีร่างกายสมบูรณ์
“รัฐย่อมทรงไว้ซึ่งสิทธิในการให้การศึกษาแก่พลเมือง รัฐจึงทรงไว้ซึ่งอำนาจควบคุมการอบรมสั่งสอนกุลบุตรกุลธิดาในโรงเรียนรัฐบาล โรงเรียนประชาบาล และโรงเรียนราษฏร์....ผู้ได้ศึกษาจบอุดมศึกษาหรือชั้นมหาวิทยาลัยแล้ว ท่านว่ามีอัตตภาพสมควรเป็นผู้เชี่ยวชาญเหมาะแก่หน้าที่รับผิดชอบชั้นสูงต่อไป....ท่านว่าผู้สำเร็จการศึกษาชั้นอุดมศึกษาต้องรู้ภาษาต่างประเทศอย่างน้อยสองภาษา ท่านได้กำหนดภาษาต่างประเทศไว้ให้เลือก ดังนี้
ภาษาปัจจุบัน คือ อังกฤษ จีน ฝรั่งเศส เยอรมัน
ภาษาโบราณ บาลี สันสฤต ....”
และ ผู้มีอัตตภาพเพียงเรียนจบชั้นวิสามัญแห่งมัธยมต้นท่านว่าควรเลือกเรียนภาษาจีน
การศึกษาของหญิง ท่านว่าหญิงต้องได้รับความเสมอภาคกับชายในการศึกษาแต่หญิงมีภาระพิเศษโดยธรรมชาติ ท่านให้วางหลักสูตรการศึกษาของหญิงให้มีวิชาผิดเพี้ยนกับของชายบ้างเป็นบางส่วน แต่จะไม่ผิดกันโดยปริมาณหรือโดยส่วนสูงต่ำนั้นเลย....
ดูภาพศึกษาพฤกษ์ ต้นไม้แสดงแผนการศึกษาชาติ
ภาพ “ศึกษาพฤกษ์-ต้นไม้แสดงแผนการศึกษาชาติ”ที่มีหลายกิ่งแสดงให้เห็นถึงความครบถ้วนสมบูรณ์ของแผนที่อยู่ในแผนการศึกษาของชาติในฉบับแรก และมี ๒ กิ่งในระดับอุดมศึกษาคือกิ่งหลักสูตร “ธรรมศาสตร์” และ “เศรษฐศาสตร์” อยู่ใน ๒ กิ่งนั้น ซึ่งต่อมาได้จัดเป็นหลักสูตรสำคัญไว้ในชั้นเตรียมปริญญาและหลักสูตร “ธรรมศาสตร์บัณฑิต” ที่จัดให้มีการศึกษาวิชากฎหมาย วิชาการเมือง วิชาเศรษฐการและบรรดาวิชาอื่นๆ อันเกี่ยวกับวิชาธรรมศาสตร์และวิชาการเมือง โดยมีหลัก ศาสนา จรรยา ประกอบการเล่าเรียนหรือฝึกฝน ที่มีหลักสูตรภาษาโบราณคือ
ภาษาบาลี คือภาษาอันรักษาไว้ซึ่งพุทธพจน์ ภาษาที่ใช้ทรงจำและจารึกรักษาพุทธพจน์แต่เดิมมา อันเป็นหลักในพระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาท ถือกันได้ว่าได้แก่ภาษามคธ
ภาษาสันสกฤต ชื่อภาษาโบราณของอินเดีย ใช้ในศาสนาพราหมณ์หรือฮินดู และพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน
จะสังเกตเห็นว่าต้นไม้แสดงแผนการศึกษาของชาติฉบับแรกมีลักษณะคล้ายต้นโพธิ์ หรือ โพธิพฤกษ์ อันเป็นต้นไม้ที่พระพุทธเจ้าได้ประทับ ณ ภายใต้ร่มเงาในคราวตรัสรู้ ณ ฝั่งแม่น้ำเนรัญชา ตำบลคยา ต้นโพธิ์จึงเป็นไม้มงคล คือ สิ่งที่ทำให้มีโชคดีตามหลักพระพุทธศาสนา หมายถึง “ธรรม”นำมาซึ่งความสุข ความเจริญ คือมงคล ๓๘ ประการ หรือเรียกเต็มว่า “อุดมมงคล” ๓๘ ประการ ที่ต่อมาได้นำเมล็ดมาปลูกเป็นต้นแรกในสมัยพุทธกาล และหลังพุทธกาลได้นำกิ่งด้านขวาของต้นมหาโพธิ์ที่คยามาปลูกไว้ ณ เมืองอนุราธปุระในลังกาทวีป
ในประเทศไทยในสมัยรัชกาลที่ ๒ ได้นำหน่อพระศรีมหาโพธิ์ที่เมืองอนุราธปุระมาปลูกไว้ที่เมืองนครศรีธรรมราช วัดมหาธาตุ วัดสุทัศน์ และวัดสระเกศ ในสมัยรัชกาลที่ ๕ นำพันธุ์ต้นมหาโพธิ์จากคยาโดยตรงครั้งแรก ได้มาปลูกไว้ ณ วัดเบญจมบพิตรแลวัดอัษฎางคนิมิตร
(โปรดดูพจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของ พระพรหมคุณาภรภรณ์พ.ศ.๒๕๕๓ ปัจจุบัน สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ. ปยุตฺโต หน้า ๑๘๑,๒๗๗ และ๔๓๑)
เพื่อความเป็นมงคลดังกล่าวนี้ ชาวธรรมศาสตร์จึงมีต้นโพธิ์ที่ลานโพธิ์อันเป็นต้นไม้ที่เก่าแก่ที่สุดของชาวธรรมศาสตร์ทุกคน ส่วนจะมีประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับแผนการศึกษาฉบับแรกของประเทศสยาม อย่างไรขอท่านผู้รู้ทั้งหลายได้กรุณาให้ข้อมูลต่อยอดบทความด้วย จะได้นำมาเขียนเพิ่มเติมให้ทราบในครั้งต่อไป ครับ
ศาสตราจารย์ พิเศษ ดร.ปรีชา สุวรรณทัต
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี