วันนี้ขอนำพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงให้แก่พระเจ้าลูกเธอพระองค์เจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ซึ่งมีเนื้อความว่า “..ตัวเจ้าจะตกเป็นข้าแผ่นดินใดๆ เท่าใด ก็จงอุตสาหะตั้งใจทำราชการแผ่นดินให้ดี อย่ามีความเกียจคร้านแชเชือนแลเป็นอื่น บรรดาที่ไม่ควรทำ เจ้าอย่าทำ”
เป็นพระบรมราโชวาทที่สอนให้กระทำความดี และแสวงหาความดีในทางที่ชอบธรรมอยู่เสมอ สิ่งใดที่ถูกที่ควรต้องทำให้สำเร็จด้วยความตั้งใจอันแน่วแน่ มั่นคง ไม่หวั่นไหว และต้องไม่ทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ไม่ชอบธรรมด้วย
นำเรื่องนี้มาพูดในวันนี้ก็เพราะเห็นว่า ผู้มีอำนาจและกำลังใช้อำนาจที่มีอยู่ในมือ ไม่ค่อยจะนึกถึงเรื่อง “บรรดาที่ไม่ควรทำ เจ้าอย่าทำ” เพราะที่เห็นอยู่ขณะนี้ บรรดาที่ไม่ควรทำก็กลับทำ และบรรดาที่ควรทำกลับไม่ทำ อยู่ตลอดเวลา
บ้านเมืองและผู้คนในบ้านเมืองมีความต้องการให้หลายสิ่งหลายอย่าง ที่กำลังวิกฤติอยู่แทบทุกมิติขณะนี้ มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขให้ดีขึ้นจากผลแห่งการทำงานของคนมีอำนาจที่ผ่านๆมา ซึ่งสร้างความเสียหายไว้แก่ส่วนรวมอย่างมากมาย จากความทะยานอยากเพื่อประโยชน์ตนและพวกพ้อง แม้กระทั่งความสามัคคีของผู้คนในบ้านเมืองที่มีแต่ความแตกแยก แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ให้หมดไปนั้น แต่ในขณะที่ความต้องการดังกล่าวของผู้คนในบ้านเมืองยังไม่เห็นอะไรที่จะพลิกฟื้นคืนกลับ
มิหนำซ้ำบางสิ่งบางอย่างดูจะทรุดลงด้วยซ้ำ
เพราะที่ผู้คนในบ้านเมืองเห็นอยู่ในขณะนี้ มีแต่เรื่องของความเอะอะมะเทิ่งในการใช้อำนาจ หรือความทะยานอยากในการต่อท่ออำนาจให้ยืดยาวออกไป ทุกคนต้องเชื่อและทำตาม ไม่คำนึงถึงเรื่อง “บรรดาที่ไม่ควรทำ เจ้าอย่าทำ” นั่นเอง
ผู้บริหารหรือนักปกครองทุกระดับต้องเข้าใจคำสอนนี้
ยิ่งในระดับชาติด้วยแล้วยิ่งต้องใส่ใจให้มากยิ่งขึ้นในคำสอนบทนี้ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ดังกล่าว เพราะทุกสิ่งทุกอย่างจะดีหรือเลว หรือไร้ผลนั้น ก็อยู่ที่เรื่อง “บรรดาที่ไม่ควรทำ เจ้าอย่าทำ” ทั้งสิ้น
ไปไหนมาไหนเวลานี้จะพบแต่คนที่ผิดหวังในอนาคตของบ้านเมือง ว่าจะเดินไปในทิศทางที่ดีขึ้นหรือไม่จากการแก้ไขจัดการของคนมีอำนาจหน้าที่ โดยเฉพาะในเรื่องสำคัญๆดังต่อไปนี้
1.ไม่รู้ว่าจะไปหาเงินมาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องตนและครอบครัวได้ที่ไหน เพราะไม่มีงานทำ สถานที่ทำงานต้องปิดตัวเองเพราะขาดทุนไม่อาจทำต่อได้ จะไปตั้งหาบเร่ขายของที่ไหนก็ลำบากเพราะถูกห้ามโน่นห้ามนี่ตลอดเวลา
2.เบื่อหน่ายในการถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพในบางสิ่งบางอย่างที่เคยมี เพราะถูกจำกัดด้วยเหตุผลของผู้มีอำนาจ ต้องฟังจากคนมีอำนาจ แม้กระทั่งข้าราชการตามกระทรวงทบวงกรมต่างๆ ก็ต้องปฏิบัติงานไปตามคำสั่งของผู้ใช้อำนาจที่อยู่สูงกว่า ใครไม่เชื่อฟังโดนเล่นงาน
3.เห็นแต่เรื่องไม่เป็นเรื่องอยู่บ่อยครั้งในฤทธิ์เดชของการใช้อำนาจ โดยเฉพาะอำนาจพิเศษ ม.44 ทั้งๆที่กฎหมายธรรมดาที่เกี่ยวข้องก็มีไว้ให้ใช้ เพราะไม่ทันใจในสิ่งที่ตนต้องการให้เป็นไป
4.เกิดความเบื่อหน่ายหรือไม่ชอบใจในสิ่งที่ต้องพบ ต้องเห็นอยู่อย่างจำเจ โดยเฉพาะในเรื่อง “ว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเอง” เช่น เรื่องความไม่โปร่งใสในทางพฤติกรรมเกี่ยวกับความทุจริตคดโกง ที่ตนมีอำนาจก็ดี คนรอบข้างตนมีอำนาจก็ดี ซึ่งผู้คนในบ้านเมืองได้รับฟัง หรือได้ยินคำแก้ตัวแบบน้ำขุ่นๆอยู่เรื่อยๆ ไร้ความน่าเชื่อถืออยู่ในขณะนี้หลายเรื่องราว
ทั้ง 4 ประการดังกล่าว กำลังเกิดขึ้นในบ้านเมืองของเราขณะนี้ ที่ผู้คนทั้งหลายกำลังประสบอยู่
ภายใต้สถานการณ์บ้านเมืองที่กำลังเป็นอยู่ในขณะนี้ยากที่จะปฏิเสธว่า ทุกสิ่งทุกอย่างยังไม่มีอะไรดีขึ้นตามความต้องการของประชาชน ยังตกต่ำต่อไปในทุกๆเรื่อง ยังโงหัวไม่ขึ้น โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจสังคม ที่ผู้คนในระดับล่างมีพอกินพอใช้ และการที่ผู้คนในบ้านเมืองยังเป็นอย่างนี้ ก็เพราะไม่เป็นไปอย่าง “บรรดาที่ไม่ควรทำ เจ้าอย่าทำ” นั่นเอง
สถานการณ์บ้านเมืองของเราขณะนี้ คนที่มีอำนาจในการบริหารบ้านเมือง ต้องไม่เป็น “ผู้นำแบบอัตตาธิปไตย” ซึ่งมีคุณสมบัติต่อไปนี้
1.เป็นผู้กำหนดนโยบายต่างๆขึ้นเองให้ทุกฝ่ายนำไปใช้ นำไปปฏิบัติ
2.เป็นผู้คอยแต่สั่งงานให้ต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ และคอยกำกับผู้ปฏิบัติงานให้ทำงานอย่างที่ว่า
3.แต่งตั้งและโยกย้ายคนทำงานตามใจชอบ โดยไม่ค่อยจะคำนึงถึงหลักการอะไรนอกจาก “หลักกู”
ทั้ง 3 อย่าง คือ ลักษณะของ “ผู้นำแบบอัตตาธิปไตย ซึ่งเป็นผู้นำที่ไม่เป็นไปตามคำสอนที่ว่า “บรรดาที่ไม่ควรทำ เจ้าอย่าทำ”
บ้านเมืองขณะนี้ ต้องการผู้นำที่ให้ความสำคัญกับการไม่เน้นการใช้อำนาจหน้าที่ หรือก่อให้เกิดความเกรงกลัวในตัวผู้บังคับบัญชา แต่จะเน้นในเรื่องการเปิดโอกาสให้ทุกคนแสดงความคิดเห็น และการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย ซึ่งเป็นผู้นำแบบประชาธิปไตย
เพราะผู้นำแบบประชาธิปไตย จะเป็นผู้นำที่มีการทำงานและประพฤติปฏิบัติตน ในแบบอย่างของ “บรรดาที่ไม่ควรทำ เจ้าอย่าทำ” นั่นเอง
โดยเฉพาะเป็นคนมีท่าทางไม่แทงตา และวาจาไม่แยงหู นั่นเอง ใครพบใครเห็นก็รักใคร่
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี