1.เพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาความสงบเรียบร้อยและการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมในจังหวัด อำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน และในพื้นที่เขตเมืองและชุมชนโดย
1.1 สนับสนุนให้ปฏิรูปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งขณะนี้เป็นราชการบริหารส่วนกลาง ให้เป็นการบริหาร ทั้งราชการบริหารส่วนกลาง และเป็นราชการบริหารส่วนภูมิภาคในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้จังหวัดและกรมการจังหวัด มีอำนาจที่จะกำกับและควบคุมดูแล เร่งรัดการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจในจังหวัด ให้มีประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานและการประสานความร่วมมืออย่างเป็นเนื้อเดียวกันกับส่วนราชการต่างๆในจังหวัด ทั้งการปฏิบัติงานและพฤติกรรม การปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งจะทำให้เกิดคุณภาพในการทำหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์เพื่อประชาชนอย่างแท้จริง
1.2 ปฏิรูปหน้าที่ความรับผิดชอบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตำรวจภูธรจังหวัด ให้ดูแลรับผิดชอบ เน้นหนักในเรื่อง การป้องกันปราบปรามอาชญากรรมร้ายแรงที่กระทบต่อความมั่นคง ความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะบทบาทการบังคับใช้กฎหมายในฐานะผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ให้บริสุทธิ์ยุติธรรม โปร่งใส
ขณะเดียวกัน ให้มีการถ่ายโอนภารกิจหน้าที่ การปฏิบัติและการสืบสวนสอบสวนซึ่งไม่ส่งผลต่อการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมร้ายแรงหรือเรื่องที่เป็นการกระทำผิดอาญาที่ร้ายแรง หรือเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมและใช้อำนาจทางปกครอง แต่กฎหมายกำหนดให้มีโทษทางอาญา ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติรับผิดชอบปฏิบัติอยู่ในขณะนี้ ไปให้หน่วยราชการอื่นที่ดูแลและเกี่ยวข้องรับไปทำ เพื่อทำให้มีอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับมาปฏิบัติภารกิจหลักในการรักษาความสงบเรียบร้อย ป้องกันและปราบปรามผู้กระทำผิดและเป็นภยันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตามวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างแท้จริง
1.3 ปรับปรุงภารกิจด้านการสืบสวนและสอบสวนความผิดอาญาระหว่างพนักงานฝ่ายปกครองกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และพนักงานอัยการเสียใหม่ให้เหมาะสม ให้มีการตรวจสอบและถ่วงดุล และการร่วมมือกันรักษาความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน และการรักษาความสงบเรียบร้อย การรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมืองและการอำนวยความเป็นธรรมให้แก่ประชาชน ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรม เข้ามามีบทบาทในการตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจ ระหว่างพนักงานสอบสวนฝ่ายตำรวจและพนักงานอัยการ และให้มีการแบ่งอำนาจหน้าที่การสืบสวนสอบสวนคดีความผิดอาญาที่ไม่ร้ายแรง คดีความผิดกฎหมายเกี่ยวกับการปกครอง การเกษตร การสาธารณสุข การศึกษา การส่งเสริมอาชีพ การจัดความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง การควบคุมอาคาร การดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อมและสนับสนุนงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้พนักงานสอบสวนฝ่ายปกครอง หรือร่วมกับหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องนั้นๆ รับผิดชอบ พร้อมกับยกเลิกประกาศคณะรักษาความสงบ ฉบับที่ 115/2557 ที่แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 21 และมาตรา 145 ด้วย
1.4 เสนอนายกรัฐมนตรี มอบอำนาจให้ ผู้ว่าราชการจังหวัดกำกับดูแลข้าราชการสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติทุกตำแหน่งที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ เนื่องจาก กระทรวงมหาดไทยเป็นกระทรวงที่มีบทบาทสำคัญ ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขและแก้ปัญหา “คับแค้นทางจิตใจ ยากไร้ทางวัตถุ” ให้แก่ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และกระทรวงมหาดไทยมี ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดและศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ เป็นผู้มีบทบาทสำคัญ ในการบูรณาการและผสมผสานกันอย่างลงตัว ระหว่างหน่วยงานที่ทำหน้าที่รับผิดชอบ ด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน (ฝ่ายปกครองและส่วนราชการในพื้นที่) กับหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการปราบปรามและป้องกันโจรผู้ร้าย (เจ้าหน้าที่ตำรวจ) ที่ได้รับมอบหมายจากกระทรวงมหาดไทย ให้ทำหน้าที่สืบสวน สอบสวนคดีอาญา โดยทุกหน่วยงานทำงานร่วมกัน ประสานงานกันอย่างดี ตามนโยบายของรัฐบาล โดยมีหัวหน้าหน่วยงานในภูมิภาค (ผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการและนายอำเภอ) เป็นตัวแทน และรับนโยบายของรัฐบาลไปกำกับดูแลอำนวยความเป็นธรรมให้กับประชาชนและแทนรัฐบาลเป็นไปด้วยดี
1.5 ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงประสิทธิภาพของกำนัน ผู้ใหญ่บ้านและคณะกรรมการหมู่บ้านเพื่อประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ราชการและประเทศชาติ โดยให้ความสำคัญกับการรักษาความสงบเรียบร้อย การป้องกันอาชญากรรมและส่งเสริมคุณภาพชีวิตของราษฎรในหมู่บ้านตำบล เช่น การตั้งชุดปฏิบัติการรักษาความสงบเรียบร้อยประจำหมู่บ้าน ตำบล สมาคมนักปกครองเห็นว่า การให้ประชาชนเป็นผู้เลือกผู้ใหญ่บ้าน และให้ผู้ใหญ่บ้านคัดเลือกกันเองเป็นกำนัน โดยกำนันและผู้ใหญ่บ้าน อยู่ในตำแหน่งจนอายุครบ 60 ปี ดังเช่นปัจจุบันมีความเหมาะสมแล้ว และเป็นผลดีต่อประชาชน ราชการและประเทศชาติโดยรวม มากกว่าการให้ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน มีวาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปี และการให้ประชาชนในตำบลนั้นเลือกกำนันโดยตรง ทุก 5 ปี
พันโทกมล ประจวบเหมาะ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี