หากมองว่า กรณีวัตถุดิบ (น้ำมันปาล์ม ฯลฯ) ของบริษัทในตลาดหุ้นที่หายไปจากคลังสินค้า หรือไม่ได้รับของมาตั้งแต่ต้น (แต่จ่ายเงินค่าวัตถุดิบไปแล้ว) มูลค่ากว่า 2,100 ล้านบาท... ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ
กรณีข้าวสารในโครงการจำนำข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์หายไปจากคลังสินค้า หรือไม่ได้รับของมาตั้งแต่ต้น (แต่จ่ายเงินค่าข้าวไปแล้ว) มูลค่า 200,000 ล้านบาท (อ่านว่า สองแสนล้านบาท)... ย่อมเป็นยิ่งกว่าการปล้นชาติ!
1. ล่าสุด ทราบว่า กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะคณะทำงานระบายข้าวสารสต๊อกรัฐบาล ได้รายงานให้คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) รับทราบ ปริมาณข้าวสารสต๊อกรัฐบาลที่ยังติดค้างกับทางองค์การคลังสินค้า (อคส.) องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) และไม่สามารถนำออกมาระบายได้
เนื่องจากข้าวสารส่วนนี้หายไปจากบัญชีการตรวจนับ 940,000 ตัน
เกือบๆ ล้านตันข้าวสาร
โอ้วววววว....
พูดง่ายๆ ว่า มีการบันทึกไว้ในบัญชีที่เอาเงินหลวงไปซื้อมาสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ แต่เมื่อ คสช.เข้ามา แล้วไปดำเนินการตรวจนับจริงตามโกดังต่างๆ ทั่วประเทศ ปรากฏว่า มันไม่มีอยู่จริง!
โดยรัฐบาล คสช. รับข้าวสารทางบัญชีมา 18.70 ล้านตัน
แต่เมื่อเร่งเข้าไปตรวจนับจริงได้แค่ 17.76 ล้านตัน
ขาดหายไป 9.4 แสนตัน
กรณีเช่นนี้ นบข.ได้สั่งการให้เร่งติดตามข้าวที่ขาดหายทางบัญชี เพื่อไม่ให้รัฐเกิดความเสียหาย
ล่าสุด กระทรวงพาณิชย์ได้ส่งเรื่องให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบ เพื่อตามหาปริมาณข้าวดังกล่าว ส่วน อคส.และอ.ต.ก. ก็ต้องดำเนินคดีพร้อมเรียกค่าเสียหายกับเจ้าของโกดัง บริษัทตรวจสอบคุณภาพข้าว (เซอร์เวเยอร์) รวมทั้งโรงสีข้าวที่เกี่ยวข้อง กับการทำข้าวขาดหายไปจากบัญชีด้วย
2.น่าคิดว่า ข้าวสารที่หายไป 9.4 แสนตันนั้น มีต้นทุนที่คำนวณจากโครงการจำนำข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ซึ่งเอาเงินแผ่นดินไปรับซื้อ สีแปรสภาพเก็บ ค่าดอกเบี้ย ค่าเช่าโกดังลม ฯลฯ เฉลี่ยตันละราวๆ 24,000 บาท
มูลค่ารวมจึงตกอยู่ที่ประมาณ 2 แสนล้านบาท!!!
หรือ 220,000,000,000 บาท (อ่านว่า สองแสนสองหมื่นล้านบาท)
3. เงินจำนวน 220,000 ล้านบาท ถ้ารัฐบาลไม่ถูกปล้น หรือไม่ละลายหายไปกับโครงการทุจริตเช่นนี้ จะสามารถนำไปใช้จ่ายลงทุน หรือช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้มากมายมหาศาลแค่ไหน?
พูดง่ายๆ ว่า สามารถนำไปลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-โคราช ได้เกือบตลอดสาย
หรือเอาไปใช้ลงทุนระบบชลประทานให้แก่พี่น้องเกษตรกรไทยได้ทั่วประเทศ
4. ในคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ คดีของยิ่งลักษณ์ องค์คณะผู้พิพากษาฯ ชี้ว่า การดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกทั้ง 5 ฤดูกาลผลิต พบความเสียหายหลายประการ เช่น การสวมสิทธิ์การรับจำนำ, การนำข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านมาสวมสิทธิ์, ข้าวสูญหาย, การออกใบประทวนให้ชาวนาอันเป็นเท็จ, การใช้เอกสารปลอม, การโกงความชื้นและน้ำหนัก เพื่อกดราคารับซื้อจากชาวนา, ข้าวสูญหายจากโกดัง, ข้าวเสื่อมสภาพ, ข้าวเน่าและข้าวไม่ตรงตามมาตรฐานกระทรวงพาณิชย์ ฯลฯ
การไต่สวนจากอนุกรรมการปิดบัญชี 3 รอบ พบด้วยว่ามีการถลุงเงินแผ่นดินไปมโหฬารขนาดไหน
รอบแรก วันที่ 31 พฤษภาคม 2555 มีการขาดทุน 3.23หมื่นล้านบาท เป็นการใช้เงินจำนำข้าวนาปี 2554/55 จำนวน 114,000 ล้านบาท มีหนี้คงค้าง 113,000 ล้านบาท
รอบที่ 2 วันที่ 31 มกราคม 2556 ขาดทุน 220,968ล้านบาท ใช้เงินจำนำข้าวปี 2554/55 และปี 2555/56 จำนวน 593,000 ล้านบาท มีหนี้คงค้าง 447,103 ล้านบาท
รอบที่ 3 วันที่ 31 พฤษภาคม 2556 ขาดทุน 332,372ล้านบาท ใช้เงินจำนำข้าวปี 2554/55 และปี 2555/56 จำนวน 565,068 ล้านบาท มีหนี้คงค้าง 474,265 ล้านบาท
รวม 5 ฤดูกาลผลิต ตามอนุกรรมการปิดบัญชีวันที่ 30 กันยายน 2557 มียอดรับจำนำข้าวสาร 878,000 ล้านบาทเศษ เห็นได้ว่า เป็นเงินเกินกว่ากรอบวงเงิน 5 แสนล้านบาท ที่รัฐบาลกำหนดไว้ และเกินกว่ากรอบวงเงินสินเชื่อที่เหมาะสม แสดงให้เห็นว่า แผนการบริหารในโครงการรับจำนำข้าวของยิ่งลักษณ์ ขาดประสิทธิภาพและประสิทธิผล เกินวงเงิน 5 แสนล้านบาท ที่กำหนดไว้ การดำเนินโครงการจึงเกิดปัญหาจากการขาดสภาพคล่อง
ยังมีกรณี อคส. ทำข้าวถุง อ้างว่าจะขายให้กับประชาชนในราคาถูก จำหน่ายในโครงการธงฟ้า ร้านถูกใจ ร้านสวัสดิการอคส. และเอกชนผู้แทนจำหน่ายอีก 3 แห่ง แต่พบว่า มีการคบคิดกันทุจริตข้าวถุงด้วย
5. ทั้งหมดนี้ จะให้ประชาชนเจ้าของประเทศ ไปทวงคืนข้าวสาร 9.4 แสนตัน เอาจากนักการเมืองหน้าไหน?
ส่วนที่เจ้าพนักงานบังคับคดี ดำเนินการยึดทรัพย์ไว้ ก็มีอยู่แค่หลักร้อยล้านบาท เช่น
กรณีนางสาวยิ่งลักษณ์ บัญชีเงินฝากรวม 16 บัญชี, อายัดเงินส่วนแบ่งทรัพย์สินในคดีล้มละลาย ของศาลล้มละลายกลาง, อายัดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง และห้องชุด ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และสมุทรปราการ จำนวน 37 รายการ โดยมีราคาประเมินรวมทั้งสิ้น 176,258,934 บาท เป็นต้น
นี่คือตัวอย่างของความวิบัติของประเทศชาติส่วนรวมที่ผู้อุจจาระทิ้งไว้เปิดตูด โกยแน่บไปแล้ว!
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี