ไม่ว่า ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน จะต้องการครอบครองตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ หลังประกาศผลการเลือกตั้ง สส. ครั้งหน้า หรือไม่ก็ตาม แต่คอการเมืองไทยหลายฝ่ายวิเคราะห์ตรงกันว่า โอกาสทองของประยุทธ์บนเก้าอี้นายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้งอาจจะไม่ง่ายดายสะดวกโยธินมากนัก
ต่อให้รัฐบาลคสช. จะพยายามอย่างยิ่งยวดกับการหาพรรคการเมืองทั้งใหม่ เช่น พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมพลังประชาชาติไทย พรรคประชาชนปฏิรูป และพรรคแนวร่วมอื่นๆที่ประกาศสนับสนุนคสช. และพรรคการเมืองเก่า ในนามกลุ่มสามมิตร ให้ร่วมแรงร่วมใจสนับสนุนประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีให้จงได้ แต่ก็ต้องไม่ลืมความจริงข้อหนึ่งว่า พรรคการเมืองในซีกของทักษิณ ชินวัตร และพรรคพันธมิตรของกลุ่มทักษิณอาทิ พรรคเสรีรวมไทย พรรคอนาคตใหม่ และพรรคประชาชาติ จะไม่มีวันยอมให้ประยุทธ์ครอบครองตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งอย่างแน่นอน
แล้วถ้าหากพรรคประชาธิปัตย์ ที่ยังมีหัวหน้าพรรคชื่ออภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็คงจะไม่มีวันยกมือสนับสนุนให้ประยุทธ์นั่งในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ถ้าหากประยุทธ์ไม่มี สส. เสียงข้างมากอยู่ในกำมือ แต่ถ้าประยุทธ์มี สส. อยู่ในกำมือมากเป็นอันดับหนึ่ง ประชาธิปัตย์ก็คงจะยกมือสนับสนุนประยุทธ์โดยมิต้องสงสัย
ประเด็นปัญหาสำคัญทางการเมืองจึงอยู่ตรงที่ว่า พรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมพลังประชาชาติไทย พรรคประชาชนปฏิรูป และพรรคแนวร่วมอื่นๆ ที่ประกาศสนับสนุนให้ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี จะได้ สส. จากการเลือกตั้งครั้งหน้าจำนวนมากน้อยเท่าไร ถ้าได้มากเกินครึ่งก็คงจะเป็นโอกาสอันงาม แต่ถ้าหากได้เพียงแค่ร้อยเศษๆ ก็คงมีอนาคตที่มืดมน
แน่นอนว่า รัฐบาลคสช. อาจจะเชื่อมั่นว่าตนเองยังมีโอกาสได้ครอบครองอำนาจรัฐต่อไป เพราะยังมีเสียงสนับสนุนจาก สว. อีก 250 คน ซึ่งมาจากการสรรหาของ คสช.เพราะฉะนั้นต่อให้ได้เสียง สส. เพียง 126 เสียง ก็เพียงพอสำหรับการจัดตั้งรัฐบาลได้
แต่อย่างไรก็ตาม รัฐบาลคสช. จะต้องยอมรับความจริงข้อหนึ่งคือ ถ้าหากการเลือกตั้งครั้งหน้า ผลปรากฏว่า พรรคที่สนับสนุนรัฐบาลคสช. ได้ สส. น้อยกว่าพรรคที่ประกาศตัวเป็นฝ่ายต่อต้าน คสช. ก็หมายความว่า การทำงานของรัฐบาลที่มีสส. น้อย ถึงแม้จะมี สว. สนับสนุนเป็นจำนวนมาก ก็ย่อมไม่มีน้ำหนักในการบริหารบ้านเมืองเท่ากับฝ่ายที่มี สส. มากกว่า เพราะตามหลักการเลือกตั้งถือว่า สส. ย่อมมีความเป็นตัวแทนของประชาชนมากกว่า สว. ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง
แล้วถ้ายิ่งภาพของพรรคพลังประชารัฐมีความน่าเคลือบแคลงสงสัยอย่างมากในสายตาของประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะในกลุ่มประชาชนที่ไม่ปลื้มเปรมกับพฤติกรรมของคสช. ซึ่งมองว่าพรรคนี้เป็นร่างทรงคสช. ที่เข้ามาเป็นตัวการให้คสช. สืบทอดอำนาจรัฐต่อไป ก็จะยิ่งทำให้คะแนนนิยมของพรรคพลังประชารัฐลดน้อยถอยลง
ดังนั้น จึงต้องรอดูผลการเลือกตั้งครั้งหน้าว่า พรรคสนับสนุนประยุทธ์ กับพรรคต่อต้านประยุทธ์ พรรคใดจะได้สส.มากกว่ากัน เพราะจำนวนสส.จะเป็นตัวชี้ขาดอนาคตการเมืองของประยุทธ์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี