เมื่อ มาร์ค ซักเกอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ผู้ก่อตั้ง เฟซบุ๊ค (Facebook)ได้ประกาศเปิดตัวเงินสกุลดิจิทัลใหม่ ที่ชื่อ Libra อย่างเป็นทางการ ได้สร้างความสนใจ และกระแสตื่นตัวในแวดวงการเงินการธนาคารเป็นอย่างมาก แม้เงินสกุลดิจิทัลใหม่นี้ จะเริ่มใช้ในปี พ.ศ. 2563 ก็ตาม
เงินสกุลดิจิทัล Libra นี้ ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมาย ของแวดวงธุรกิจ เพราะบุคคลในวงการ ต่างคิดว่า วันหนึ่งในอนาคตอันใกล้ มาร์ค ซักเกอร์เบิร์ก ต้องจัดตั้งเงินสกุลดิจิทัลเป็นของตนเองอย่างแน่นอน ซึ่งเป็นไปตามกระแสโลกาภิวัตน์
คำว่า Libra มีความหมายถึง หน่วยวัดน้ำหนักโรมันโบราณ เครื่องหมายโหราศาสตร์ ที่เป็นรูปตาชั่ง มีความหมายถึงความสมดุล คำนี้ยังมีส่วนมาจากภาษาฝรั่งเศสคำว่า Libre หมายถึงอิสรภาพ
Libra จะจัดตั้งโดยหน่วยงานอิสระ เรียกว่า สมาคม Libra หรือ The Libra Association ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ไม่แสวงหากำไร มีผู้ร่วมก่อตั้งถึง 28 บริษัทหรือองค์กร เช่น เฟซบุ๊ค MasterCard PayPal Visa eBay Spotify Uber Lyft Vodafone Andreessen Horowitz เป็นต้น ซึ่งล้วนแต่เป็นชื่อที่คนรุ่นใหม่รู้จักและคุ้นเคยเป็นอย่างดี ต่อไปในอนาคตอันใกล้ การใช้งาน การซื้อสินค้า การให้บริการ การชำระเงินค่าตอบแทน ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทและองค์กรเหล่านี้ จะชำระกันด้วย Libra อย่างแน่นอน
เฟซบุ๊ค มีผู้ใช้งานในปัจจุบันอยู่ประมาณ 2.7 พันล้านรายทั่วโลก ซึ่งรวมไปถึงแอพพลิเคชั่นที่ใช้งานผ่านสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ที่มีชื่อเรียกว่า WhatsApp และ Messenger ที่เป็นฐานสำคัญของผู้ใช้งาน
เมื่อเริ่มใช้ Libra แล้ว ประมาณการได้ว่า ผู้ใช้งานเฟซบุ๊ค ในปัจจุบัน จะใช้เงินสกุลดิจิทัล Libra เพื่อชำระค่าสินค้าและบริการ โอนเงินให้แก่กัน เป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 1.8 พันล้านรายทั่วโลก โดยพิจารณาจากจำนวนบัญชีผู้ใช้งานที่ใช้เป็นประจำ ซึ่งจะเป็นฐานที่สำคัญของคนที่จะใช้เงินสกุลดิจิทัล Libra ทั่วโลก
ในระยะเริ่มแรก การใช้เงินสกุลดิจิทัล Libra จะดำเนินการโดยผ่าน WhatsApp และ Messenger หลังจากนั้นจะใช้ผ่านแอพพลิเคชั่นชื่อ Colibra ที่จะแยกตัวออกมาต่างหากจากเฟซบุ๊ค
เงินสกุลดิจิทัล Libra ย่อมเข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของคนไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะประชากรชาวไทยที่มีอยู่ประมาณ 65 ล้านคน โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศ มีผู้ที่ใช้งานบัญชีเฟซบุ๊ค ถึง 25 ล้านบัญชี นับว่าเป็นเมืองหลวงที่มีผู้ใช้งานเฟซบุ๊ค มากที่สุดในโลก นอกจากนี้ทั้งประเทศไทย มีผู้ใช้งานเฟซบุ๊คถึงประมาณ 50 ล้าน คน
นอกจากนี้แล้ว วิถีชีวิตของผู้คนอาจจะเปลี่ยนไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการโอนเงินระหว่างกัน ไม่ว่าจะเป็นทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาจมีการโอนเงินเพื่อชำระค่า สินค้าและบริการระหว่างประเทศในวงเงินที่ต่ำมากอย่างไม่เคยมีมาก่อน เช่น 1 บาท 5 บาท ด้วย Libra เพราะไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมโอน หากใช้บริการธนาคารในกรณีดังกล่าว ค่าธรรมเนียมโอนอาจสูงถึงหลักพันบาท
เงินสกุลดิจิทัล ไม่ว่าสกุลใด รวมทั้ง Libra ด้วย Blockchain มีบทบาทอยู่เบื้องหลัง เพราะเป็นระบบการแก้ไขเพิ่มเติมเอกสารอิเล็กทรอนิกส์โดยผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้อง แบบไม่รวมศูนย์ (Decentralization) ซึ่งผู้มีอำนาจสามารถแก้ไขเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ และมีความถูกต้องเชื่อถือใช้ร่วมกัน โดยไม่จำเป็นต้องให้ผู้มีอำนาจจากส่วนกลางแต่เพียงผู้เดียวเป็นผู้ดำเนินการแก้ไข
Libra มีความแตกต่างจากเงินสกุลดิจิทัลอื่นๆ ตรงที่ว่า Libra จะอ้างอิงกับทรัพย์สินที่เป็นเงินสกุลต่างๆ แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่า จะดำเนินการกันอย่างไร และเชื่อถือได้ขนาดไหน ในขณะที่เงินสกุลดิจิทัลอื่นๆ จะไม่มีสิ่งเหล่านี้
เมื่อเปรียบเทียบกับการออกเงินสกุลต่างๆ ที่ไม่ใช่เงินสกุลดิจิทัลการที่รัฐบาลของแต่ละประเทศจะออกเงินตราหรือพิมพ์ธนบัตร ต้องมีทรัพย์สินที่มีมูลค่าน่าเชื่อถือ เช่น ทองคำ เก็บไว้ในคลังของประเทศ เพื่อเป็นหลักประกันหรือหนุนหลัง ธนบัตรหรือเงินกระดาษที่รัฐบาลได้พิมพ์ออกไป
ในขณะที่เงินสกุลดิจิทัล ไม่มีสิ่งเหล่านี้เลย แต่ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ขึ้นอยู่กับความไว้วางใจ และเชื่อถือกัน หากหมดความไว้วางใจหรือเชื่อถือกัน อย่างกะทันหัน ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม จะไม่มีทรัพย์สินใดๆ ที่มีมูลค่า เป็นหลักประกันหรือหนุนหลังอยู่เลย
หากวิถีชีวิตของคนไทย จะเปลี่ยนไปโดยหันมาใช้ Libra ไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ตาม สิ่งสำคัญที่ควรระวังคือ ยังไม่ควรซื้อเก็บไว้เป็นจำนวนมากเพื่อเก็งกำไร เพราะไม่มีหลักประกัน ที่ไว้ใจได้ แต่หากจำเป็นต้องใช้เพื่อชำระค่าสินค้าและบริการ ในชีวิตประจำวันซึ่งเป็นจำนวนเงินที่ไม่มากจนเกินไป ยังนับว่า สามารถกระทำได้โดยไม่มีความเสี่ยงจนเกินเหตุ
เมื่อ Libra เป็นเงินสกุลดิจิทัลใหม่ จะเป็นหนึ่งในเงินสกุลดิจิทัล ที่มีอยู่แล้วในโลกประมาณ 1,300 สกุล
ไม่ว่า ต่อไป Libra จะเป็นอย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ Libra ควรระลึกเสมอว่า
ผู้ซื้อควรระวัง และผลตอบแทนยิ่งได้มาก ยิ่งต้องเสี่ยงมาก
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี