nn รถยนต์ไฟฟ้า (EV Car)...กำลังถูกพัฒนาอย่างเข้มข้นในหลายประเทศที่พัฒนาแล้ว สำหรับประเทศไทยนั้นว่ากันตามจริงรัฐบาลก็พยายามจะส่งเสริมให้เกิดการลงทุนรถยนต์ไฟฟ้ามา 4-5 ปีแล้ว...แต่ก็ต้องยอมรับว่าจนถึงวันนี้ยังไม่เห็นอะไรที่เป็นรูปธรรมมากนัก เนื่องจากมีเงื่อนไขต่างที่เป็นข้อจำกัดหลายเรื่อง ทั้งเรื่องนวัตกรรม เรื่องของโครงสร้างอุตสาหกรรมรถยนต์ของไทยในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ด้วยกระแสของโลกและตอนนี้มีเรื่องของ ฝุ่นพิษ PM 2.5 ในประเทศที่กำลังรุนแรงขึ้นทุกขณะ และรถยนต์สันดาป (ICE) ก็เป็นหนึ่งในตัวการสำคัญที่ปล่อยPM2.5 น่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเร่งที่ทำให้เกิดการปลุกกระแส รถยนต์ไฟฟ้าในไทยอย่างจริงจังขึ้นอีกครั้ง
ปัจจุบันทั่วโลกมีสัดส่วนรถยนต์ไฟฟ้าไม่ถึง 2% ของรถยนต์ทั่วโลก ซึ่งนั้นก็แปลว่าตลาดยังเหลืออัตราการเติบโตที่สูงมาก มีการคาดการณ์กันว่าภายในอีก 20 ปีข้างหน้า สัดส่วนจะเพิ่มเป็น 30% เมื่อเจาะลึกลงไปในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ก็จะมี Supply chain สำคัญ
อยู่ 5 กลุ่มหลัก
1.Raw Materials - วัตถุดิบที่สำคัญในการอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า คือ แร่ลิเธียมซึ่งเป็นหัวใจหลักของแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า แม้ว่าจะเป็นแร่ราคาแพงแต่ด้วยเหตุที่แร่ลิเธียมยังมีอยู่จำนวนมาก จึงทำให้ราคาเพิ่มขึ้นได้ไม่มากนัก2.Battery Lithium – ปัจจุบันราคาลดลงจาก250 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง ลดลงมาเหลือ 170 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง และ มีแนวโน้มลดลงอีกในอนาคตจากการที่เทคโนโลยีในการผลิตที่ดีขึ้นและราคาแร่ลิเธียมลดลง และความต้องการใช้แบตเตอรี่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างมาก จึงเป็นจุดที่ได้เปรียบในตลาด ทำให้ขนาดของตลาดมีขนาดเติบโตขึ้น อีกทั้งผู้ผลิตมีสิทธิบัตรทรัพย์สินทางปัญญาซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะ ทำให้ธุรกิจนี้มีโอกาสเติบโตได้สูงในอนาคต
3. EV Car Manufacturers - การผลิตรถยนต์ไฟฟ้านั้นมีนำชิ้นส่วนหรืออะไหล่จากโรงงานผลิตรถยนต์แบบเดิมมาใช้ได้เพียง 23% เท่านั้น เพราะการขับเคลื่อนด้วยน้ำมันและไฟฟ้านั้นต่างกันสิ้นเชิง จึงมีโอกาสที่จะเห็นการเข้ามาแข่งขันของผู้ผลิตรายใหม่ เพราะไม่จำเป็นต้องใช้ Know how เดิม แต่ผู้ผลิตเดิมก็ยังได้เปรียบในเรื่องของ Brands และช่องทางการขายและบริการ ที่สั่งสมมานานและเป็นที่ไว้วางใจของลูกค้า
4.EV Charging Station - สำหรับรถไฟฟ้านั้นสามารถเติมพลังงานได้ทั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะหรือในบ้านและที่ทำงาน ซึ่งทำให้ผู้ใช้รถสะดวกมากขึ้น อย่างไรก็ตามขณะนี้สถานีชาร์จไฟฟ้ายังไม่ใช่สถานีแบบ Fast Charge ทำให้ส่วนใหญ่ใช้เวลาในการชาร์จนานถึง 5 ชั่วโมง ซึ่งอาจจะยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการของรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว 5.Battery Recycling - สำหรับแบตเตอรี่ที่ใช้แล้วนั้นยังคงมีกำลังไฟมากถึง70% ซึ่งเราสามารถนำไปรีไซเคิลใช้ได้อีกครั้ง เช่น ในประเทศญี่ปุ่น Toyota จะนำแบตเตอรี่ ของ Prius Hybrid ที่หมดอายุแล้วมาใช้เก็บพลังงานไฟฟ้าจากแผงโซลาร์ของร้าน 7-11 เป็นต้น และปัจจุบันประเทศจีนสามารถครองตลาดการรีไซเคิลแบตเตอรี่มาใช้ใหม่มากที่สุดในโลก
ถึงตรงนี้ภาครัฐโดยเฉพาะกระทรวงอุตสาหกรรม คงจะพอมองเห็นโจทย์สำคัญของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าแล้วว่าอยู่ตรงไหนบ้าง และมองเห็นแล้ว่าอะไรคือความท้าทาย อะไรคือโอกาสของภาคเอกชนที่จะเข้ามาเล่นในอุตสาหกรรมนี้ ถ้าภาครัฐต้องการจะส่งเสริมเกิดอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยอย่างจริงจัง ก็ต้องตีโจทย์ให้แตก แล้วออกมาตรการสนับสนุนให้ตรงจุด ด้วยพื้นฐานอุตสาหกรรมรถยนต์ของไทยในปัจจุบันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่ไทยจะ Move on จากอุตสาหกรรมรถยนต์เครื่องยนต์สันดาป (ICE) และรถยนต์ไฮบริด (Hybrid หรือ HEV/PHEV)ไปสู่อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (EV หรือ BEV)
ขอบคุณข้อมูลจาก...SCB CIO
กระบองเพชร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี