บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) วิเคราะห์หุ้นบริษัทท่าอากาศยานไทย หรือ AOT จากผลประกอบการ 1Q63 (ตุลาคม-ธันวาคม 2562)ออกมาดีกว่าคาด โดยกำไรสุทธิของ AOT ใน 1Q63 อยู่ที่ 7.34 พันล้านบาท (+15.0% YoY, +43.2% QoQ) คิดเป็น 25.8% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเราที่ 2.85 หมื่นล้านบาท โดยสูงกว่าประมาณการของเรา 7.6% และสูงกว่า consensus 12.1% ทั้งนี้ ผลประกอบการที่เหนือกว่าคาดการณ์เกิดจากการบันทึกรายได้จากการกลับรายการสำรองคดีในอดีตที่ศาลฎีกามีคำตัดสินสิ้นสุดไปแล้วเป็นมูลค่ารวม 523 ล้านบาท เข้ามาในไตรมาสดังกล่าว
ส่วนผลประกอบการที่แข็งแกร่งใน 1Q62 มาจากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของนักท่องเที่ยวจากอินเดีย จีน และรัสเซีย อย่างไรก็ตาม อัตราการเติบโตของจำนวนผู้โดยสารในประเทศแผ่วลง YoY ตามการเพิ่มขึ้นของเที่ยวบินระหว่างประเทศ ดังนั้นAOT จึงได้อานิสงส์จากโครงสร้างรายได้ค่าบริการผู้โดยสาร (PSC)ที่เปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากค่าบริการผู้โดยสารระหว่างประเทศอยู่ที่ 700 บาท และค่าบริการผู้โดยสารในประเทศอยู่ที่ 100 บาท ทั้งนี้ รายได้ใน 1Q63 อยู่ที่ 1.61 หมื่นล้านบาท (+4.6% YoY, +6.3% QoQ) ขณะที่คาดว่า EBIT margin จะอยู่ที่ 51.9% จาก 51.0% ใน 1Q62 และ 41.8% ใน 4Q62 สำหรับในปี 2562รายได้ที่เกี่ยวกับการบินคิดเป็นสัดส่วน 56% ของรายได้รวม ในขณะที่รายได้ที่ไม่เกี่ยวกับการบินคิดเป็นสัดส่วน 44%
เบื้องต้น เราประเมินว่า หากการระบาดของ coronavirusทำให้จำนวนผู้โดยสารในปีนี้ลดลง 10% และเที่ยวบินลดลง 5% จะส่งผลกระทบกับประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ของ AOT 4.5% ทั้งนี้ จำนวนผู้โดยสารชาวจีนคิดเป็นสัดส่วน 25% ของจำนวนผู้โดยสารทั้งหมดของ AOT โดยก่อนหน้านี้ จีนได้สั่งห้ามคนจีนเดินทางออกจากอู่ฮั่นเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของ coronavirus ซึ่งถือว่าเป็นบวกในแง่การตอบสนองที่รวดเร็วจากประเทศที่มีจำนวนผู้เดินทางมากที่สุดในโลก
เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี FY63F เอาไว้ที่ 2.85 หมื่นล้านบาท (+13.8% YoY) โดยในภาพระยะยาว เราคาดว่า AOT จะมีกระแสรายได้ก้อนโตจากการที่ King Power ประกันรายได้ขั้นต่ำที่ปีละ 2.3548 หมื่นล้านบาท เป็นเวลา 10.5 ปีซึ่งจะเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 (ปีงบประมาณ FY64 ของ AOT) จากการที่ King Power ได้สัมปทานสามสัญญาในการบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ (ร้านค้าปลอดอากร และพื้นที่เช่า)
ที่สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินในต่างจังหวัด (ภูเก็ต เชียงใหม่หาดใหญ่) จะทำให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 4 หมื่นล้านบาทตั้งแต่ปี FY65F เป็นต้นไป
เรายังคงคำแนะนำซื้อ และให้ราคาเป้าหมายที่ 86.00 บาทโดยมีปัจจัยเสี่ยงจากปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองรอบใหม่ของไทย หรือเกิดเหตุก่อการร้ายครั้งใหญ่
ที่มา : บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี