nn บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้า กลุ่ม ปตท. สตาร์ทโครงสร้างองค์กรใหม่ 1 เมษายนนี้ชูศักยภาพจากการบูรณาการระบบปฏิบัติการ หลังแผนงานการควบรวม บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) หรือ GLOW เสร็จเรียบร้อยสมบูรณ์ 100% ซึ่งผลที่ได้คือ ความเข้มแข็งธุรกิจด้วยทีมงาน จากสององค์กร ทั้งความเชี่ยวชาญของบุคลากร หน่วยผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น การเงินแข็งแกร่ง และเตรียมก้าวสู่ผู้นำนวัตกรรมไฟฟ้า พัฒนาระบบ ESS กักเก็บพลังงานหมุนเวียน เพื่อพลังงานที่ยั่งยืน พร้อมรองรับอุตสาหกรรมเติบโตใน EEC
ทั้งนี้ คุณชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC เปิดเผยว่า วันที่ 1 เมษายนนี้ GPSC จะก้าวสู่การบริหารองค์กรใหม่ ภายหลังการเข้าซื้อ บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) หรือ GLOW ซึ่งได้เข้ามาเป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัท GPSC (GPSC Group) ภายใต้การบริหารงานที่เป็นหนึ่งเดียวกัน โดยปัจจุบัน GPSC ถือหุ้น GLOW จำนวน 99.83% และได้ทำการเพิกถอนหลักทรัพย์ของ GLOW ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว
ปัจจุบัน GPSC มีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้น 5,026 MW ซึ่งเป็นโครงการที่ดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว 4,708 MW และโครงการที่เหลือจะทยอยจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ ในปี 2563 – 2566 นอกจากนี้ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ส่งผลให้ GPSC มีการเติบโตทางธุรกิจและสร้างผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นในอนาคต
ขณะเดียวกันยังมีความพร้อมของบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ ที่จะร่วมกันขับเคลื่อนธุรกิจ เพื่อบริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ควบคู่กับการสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน โดยเฉพาะกระแสเงินสด (Cash Flow) ที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะมีส่วนสำคัญทำให้ GPSC มีขีดความสามารถในการแสวงหาโอกาสทางธุรกิจทั้งการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมด้านพลังงานไฟฟ้า รวมถึงการมองหาโอกาสการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ทำให้เกิดการเติบโตมากขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะในธุรกิจพลังงานหมุนเวียน และระบบกักเก็บพลังงาน (ESS)
“GPSC ให้ความสำคัญในการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าและสาธารณูปโภค เพื่อรองรับการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) สามารถรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายที่จะเข้ามาขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในระยะยาว” นายชวลิตกล่าว
นอกจากนี้ GPSC ได้มีการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการและการให้บริการ รวมถึงสร้างความมั่นคงในระบบการจ่ายไฟฟ้าและสาธารณูปโภคไปยังลูกค้าได้ตามสัญญา โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าในพื้นที่มาบตาพุดที่สามารถเชื่อมโยงโครงข่ายระบบส่งไฟฟ้าและระบบท่อส่งไอน้ำเข้าด้วยกัน สามารถสร้างSynergy จากการควบรวม GLOW ทำให้บริษัท มีการบริหารจัดการโดยภาพรวมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
นายชวลิตย้ำอีกว่า GPSC ในฐานะองค์กรแกนนำ (Flagship) ด้านไฟฟ้าของกลุ่ม ปตท. ยังคงมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนองค์กรไปสู่แผนเพิ่มสัดส่วนกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนเป็น 30% ของกำลังการผลิตทั้งหมด จากปัจจุบันที่มีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน 11% ของกำลังการผลิตทั้งหมด เป็นไปตามนโยบายของบริษัท และกลุ่ม ปตท. ที่มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและความ
รับผิดชอบต่อสังคม ตลอดจนการยกระดับเศรษฐกิจชุมชนและการส่งเสริมการศึกษาอย่างต่อเนื่อง โดยยึดหลักธรรมาภิบาลที่พร้อมก้าวสู่การเป็นบริษัทในกลุ่มดัชนีความยั่งยืนของดาวโจนส์ Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) ในปี 2565
สำหรับภาพรวมของธุรกิจในปี 2563 GPSC ประเมินว่าผลการดำเนินงานจะเติบโตได้ต่อเนื่องจากปีก่อน เนื่องจาก ปีนี้บริษัทจะมีการจ่ายไฟฟ้าจากโครงการผลิตไฟฟ้านวนคร ส่วนขยาย (NNEGExpansion) กำลังการผลิต 18 เมกะวัตต์ เข้าสู่ระบบ รวมถึงจะมีการรับรู้ผลผลการดำเนินของบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) หรือ GLOW เข้ามาแบบเต็มปีด้วยเช่นกัน ขณะเดียวกันยังเดินหน้าก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้า Rayong Waste to Energy กำลังการผลิตราว 10 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ และพร้อมจ่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบในปี 2564
ส่วนแผนธุรกิจ 5 ปี (พ.ศ.2562-2566) ตั้งเป้าหมายผลิตไฟฟ้าให้ได้ 5,400 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันมีอยู่ 4,986 เมกะวัตต์ โดยกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นใหม่จะมาจากการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน และจากพลังงานฟอสซิล เช่น โครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ รวมทั้งยังมีโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) ที่ต้องสร้างทดแทน
ทั้งนี้มีอีก 3 โครงการ ที่จะทยอย COD ในปี 2563, 2564 และปี 2566 ได้แก่ โครงการส่วนต่อขยายโรงไฟฟ้า นวนคร (NNEG Expansion) เพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าอีก 18 เมกะวัตต์, โครงการโรงไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงขยะ (RDF) 10 เมกะวัตต์ และหน่วยผลิตไฟฟ้า ERU 250 เมกะวัตต์
กระบองเพชร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี