บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้นบริษัทซีพี ออลล์ หรือ CPALL จากมติคณะกรรมการ CPALL ในการเข้าลงทุน 40% ในดีลการซื้อกิจการ Tesco ทาง CPALL ต้องใช้เงินลงทุน 3 พันล้านเหรียญ (ประมาณ 9.6 หมื่นล้านบาท) แต่จากข้อจำกัดของ bond covenant ที่ 2.0X ขณะที่บริษัทยังไม่ได้ข้อสรุปเรื่องแหล่งเงินที่จะใช้ในการเข้าลงทุน เราจึงศึกษาแนวทางการเพิ่มทุนเพื่อนำเงินทุนมาใช้ในการซื้อ Tesco
ประเด็นแรกสุดที่เราให้ความสนใจคือ bond covenant ที่ 2.0X (ระดับเมื่อสิ้นงวด 2Q63 อยู่ที่ 1.2X) หมายความว่า บริษัทสามารถใช้เงินกู้ได้ถึง 90% ของมูลค่าการลงทุนใน Tesco ถึงจะทำให้สัดส่วนหนี้สินต่อทุนชนเพดาน bond covenant ประเด็นที่สอง เราให้ความสนใจกับเงินสด และการลงทุนระยะสั้นเมื่อสิ้นงวด 2Q63 ที่สูงถึง 2.97 หมื่นล้านบาท ซึ่งเมื่อพิจารณาจากส่วนนี้เราคิดว่าการใช้เงินกู้เพียง 70% สำหรับการลงทุนใน Tesco จะเป็นระดับที่เหมาะสม (optimal level)
นอกจากนี้เรายังได้ทดลองคำนวณเงินเพิ่มทุน และผลจาก dilution ในกรณีที่บริษัทใช้เงินกู้เพียง 30% และ 60% สำหรับดีล Tesco โดยพบว่าการใช้เงินกู้ 30% จะทำให้บริษัทต้องเพิ่มทุนอีก 3.75 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทำให้หุ้น CPALL เกิด dilution 7% ขณะที่การใช้เงินกู้ 60% ต้องเพิ่มทุนอีก 8.70 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทำให้หุ้น CPALL เกิด dilution ประมาณ 2%
สรุปแล้ว หากพิจารณาจากสัดส่วนหนี้ในปัจจุบัน และเงินสดในมือกับมูลค่าการลงทุนระยะสั้น เราคาดว่า CPALL ไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุน แต่หากจะพิจารณาเพิ่มทุนคาดว่าบริษัทน่าจะเลือกใช้เงินกู้ 60% สำหรับการลงทุนใน Tesco ซึ่งจะทำให้เกิด dilution เพียงแค่ 2.0%
CPF ยิ่งมีโอกาสเพิ่มทุนน้อยกว่าอีก
CPF มีเงินสด และสินทรัพย์ที่ใกล้เคียงเงินสดสูงถึง 9.1 หมื่นล้านบาท เมื่อสิ้นงวด 2Q63 คิดเป็นสัดส่วนหนี้สินสุทธิ/ทุนที่ 1.3x ซึ่งยังต่ำกว่า debt covenant ที่ 2.0x อยู่พอสมควร สถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งทำให้ CPF ยังมีโอกาสที่จะก่อหนี้เพิ่มได้อีกมาก (อาจจะกู้เพิ่มได้อีกมากถึง 1.50 แสนล้านบาท) ก่อนที่บริษัทจะต้องเพิ่มทุนใหม่ ทั้งนี้ จากความสามารถในการก่อหนี้เพิ่มทำให้นักวิเคราะห์กลุ่มอาหารของเราเชื่อว่าเงินสดในมือของ CPF ที่มีจำนวนมากจะทำให้มีเงินทุนมากพอสำหรับดีลซื้อ Tesco (1.5 พันล้านเหรียญ) โครงการซื้อหุ้นคืน (มูลค่ารวมไม่เกิน 1 หมื่นล้านบาท) งบลงทุน (CAPEX) ที่ตั้งไว้ประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาทและ เงินทุนที่อาจจะต้องใช้เพื่อเข้าลงทุนเพิ่มใน CPALL
เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” CPALL โดยให้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2564 ที่ 80.00 บาท โดยมี
ปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจชะลอตัวลง ขยายสาขาได้ช้ากว่าที่คาดไว้ เกิด disruption ทางเทคโนโลยี ถูกยกเลิกสัญญาให้ใช้เครื่องหมายการค้า 7-Eleven และความเสี่ยงด้านการขนส่งสินค้า
ที่มา : บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี