nn ต่อเนื่องจากครั้งก่อนที่ “โลกการค้า” นำเสนอเรื่อง...คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (OTCC)...กำลังดำเนินการออกประกาศคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เรื่อง แนวทางพิจารณาการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมระหว่างผู้ประกอบการธุรกิจในบริการรับและส่งอาหารผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์กับผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหาร...และ OTCC ได้เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น ต่อร่างประกาศดังกล่าว จากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน...
ครั้งนี้มาต่อกันด้วยประเด็นของข้อปฏิบัติทางการค้าที่ระบุว่าไม่เป็นธรรม...ซึ่งในร่างประกาศฉบับนี้ระบุว่าการปฏิบัติทางการค้าระหว่างผู้ประกอบธุรกิจให้บริการรับและส่งอาหารผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์กับผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารที่ไม่เป็นธรรมนั้น เช่น การเรียกเก็บค่าส่วนแบ่งรายได้ (Commission Fee หรือ Gross Profit (GP) สูงเกินสมควรหรือแตกต่างกันระหว่างผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร การเรียกเก็บค่าส่วนแบ่งรายได้เพิ่มเติมจากที่ระบุไว้ในสัญญาหรือตามที่ตกลงกันไว้...ซึ่งมีการแสดงความคิดเห็นจากตัวแทน บ.ไลน์แมน ประเทศไทย ว่า การเรียกเก็บค่าส่วนแบ่งรายได้ในอัตราที่สูงเกินสมควรหรือแตกต่างกันระหว่างผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารโดยพิจารณาจากปัจจัยสำคัญนั้น ต้องการความชัดเจนตรงที่บอกว่า “ปัจจัยสำคัญ” เนื่องจากส่วนนี้มีความไม่ละเอียด และการเรียกเก็บค่าส่วนแบ่งรายได้เพิ่มเติม อยากได้ความชัดเจนในส่วนของ “โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร” ไม่ทราบว่ามีหลักเกณฑ์ในการพิจารณาอย่างไร ขณะที่ตัวแทนจาก แกร็บ ประเทศไทย ระบุว่า การเรียกเก็บค่า GP ที่แตกต่างกันเป็นกลไกทางการค้าโดยปกติเกิดขึ้นจากการพิจารณาความสามารถในการสร้างรายได้ของร้านอาหารให้แก่แพลตฟอร์ม เช่นจำนวนสาขาของร้าน ยอดและมูลค่าการสั่งแต่ละออเดอร์ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นข้อพิจารณาทางการค้าที่สำคัญ ที่ทำให้มีการกำหนดราคาที่แตกต่างกัน จึงต้องการความชัดเจนว่าเหตุใดการกำหนดราคาที่แตกต่างกัน จึงถือว่าเป็นการเรียกรับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่ไม่เป็นธรรม
ในประเด็นนี้คณะอนุกรรมการชี้แจงว่า ในส่วนนี้ยังไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว เนื่องจากต้นทุน หรือ demand-supply ของแต่ละธุรกิจไม่เท่ากันอย่างไรก็ตาม ก็มีการพิสูจน์ทางเทคนิค คือหากราคาสูงจนผู้ใช้บริการต้องลดปริมาณการใช้อย่างมีนัยสำคัญ ก็จะกระทบระบบเศรษฐกิจโดยรวม เช่นเมื่อค่า GP สูงจนร้านค้าต้องไปขึ้นราคาอาหารให้แพงขึ้น จนทำให้มีคนสั่งน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ และสามารถพิสูจน์ได้ ก็จะเป็นลำดับที่เราจะพิจารณาว่าสูงเกินไป ในส่วนของการเลือกปฏิบัติด้านราคา อาจจะมีการปรับให้ชัดเจนมากขึ้นแต่ยืนยันว่าไม่ได้หมายความว่า GP ของทุกบริษัทต้องเท่ากัน และในส่วนนี้ สิ่งที่พึงต้องพิจารณาคือส่วนที่เรากล่าวถึงการพิจารณาตาม “ประสิทธิภาพของระบบเศรษฐกิจ” หมายถึง หากราคาแพงกว่าต้นทุนมาก ก็ทำให้ผู้ใช้บริการหรือผู้บริโภคใช้น้อยลงเสียจนหลายๆ คนเสียโอกาสในการใช้บริการ เลยมีความจำเป็นที่จะต้องพิสูจน์ตามแต่ละกรณี แต่คณะกรรมการไม่มีเจตนาจะก้าวล่วงเข้าไปแทรกแซงการกำหนดราคา แต่หากมีการขยับราคา หรือค่า GP โดยไม่มีเหตุผลท่านก็อาจจะต้องมาชี้แจง
โลกการค้า...อยากจะสรุปแบบนี้ว่า นอกจาก ประเด็นของค่า GP แล้ว ยังมีประเด็น ของค่าส่งเสริมการขายในโอกาสพิเศษทางการตลาด (Promotion) ที่เป็นการเรียกเก็บโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร...การเรียกเก็บอัตราค่าธรรมเนียมการโฆษณา (Advertising Fee) ที่เป็นการเรียกเก็บโดยปราศจากความชัดเจนและไม่มีเหตุผลอันสมควร...ซึ่งจากการเปิดเวทีประชาพิจารณ์ข้อสรุปที่ได้จากทั้งผู้ให้บริการรับและส่งอาการ นักกฎหมาย นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์...ชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่า ร่างประกาศฯฉบับนี้นั้น ไม่ได้พิจารณาในประเด็นที่ว่าปัจจุบันนี้ ธุรกิจ food deliveryการแข่งขันที่สูงมาก มีผู้เล่นรายใหม่เข้ามาได้ตลอดเวลา นั่นเท่ากับว่ากลไกทางการตลาดมันทำงานของมันอยู่แล้ว
นอกจากนี้ ในหลายๆ คำนิยามที่กำหนดไว้ในประกาศเช่นคำว่า “อัตราที่สูงเกินสมควร” นั้นค่อนข้างคลุมเครือ ทั้งยังพิจารณาแต่จากฝั่งของร้านอาหารและผู้ประกอบการ แต่ไม่ได้หมายรวมถึงลูกค้าและผู้ขับขี่รับส่งอาหาร ซึ่งจริงแล้วในธุรกิจรับส่งอาหารนั้น คนทั้งสี่กลุ่มมีส่วนที่เกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกันทั้งหมด รวมถึงในแง่ต้นทุนและสวัสดิการ และความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับขาใดขาหนึ่งก็จะกระทบไปยังส่วนอื่นๆ ในสี่กลุ่มนี้ด้วย และการที่ OTCC บอกว่าประกาศฉบับนี้นั้นมีเป้าหมายที่จะคุมการแข่งขัน ก็เท่ากับว่า จะทำให้กลไกทางการแข่งขันไม่เกินขึ้น
Food Delivery เป็นเหมือน channel strategy ของผู้ขาย ทำให้ผู้ขายมีทางเลือกว่าจะเปิดหน้าร้านเอง หรือไม่เปิดก็ได้ การพยายามเข้ามากำกับดูแล ทำให้ดูเหมือนว่าคณะกรรมการไม่ได้กำลังมองภาพใหญ่ ว่า total cost ของผู้ประกอบการร้านค้านั้นเป็นอย่างไร และไม่ว่าจะเป็นการกำกับดูแลเรื่องค่า GP หรือค่า advertisingไม่ให้สูงเกินไป แต่ว่าแต่ละเจ้าก็มี business model ที่ไม่เหมือนกัน ระเบียบปฏิบัติเหล่านี้ควรจะครอบคลุมกว้างขวางกว่านี้ได้หรือไม่ และมีความยืดหยุ่นให้กับ business model ของแต่ละเจ้า เพื่อให้ผู้ประกอบการเองก็มีทางเลือกว่าเราอยากจะทำธุรกิจแบบไหน และควรใช้แพลตฟอร์มใด
กระบองเพชร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี