บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้นบริษัทที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ หรือ TACC หลังจากที่ผลประกอบการ 3Q63 ออกมาน่าพอใจ โดยมีกำไรสุทธิ 47 ล้านบาท (+13.0% YoY, -2.2% QoQ) คิดเป็น 25% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเราที่ 189 ล้านบาท ขณะที่กำไรงวด 9M63 คิดเป็น 72% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเรา ทั้งนี้คาดว่าผลประกอบการของ TACC จะยังคงดีต่อเนื่องใน 4Q63 โดยเบื้องต้นคาดว่ากำไรของ TACC ใน 4Q63 จะทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 52 ล้านบาทเนื่องจาก i) ธุรกิจมีแนวโน้มดีขึ้น และ ii) margin เพิ่มขึ้น (เช่นเดียวกับสามไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่ง TACC ทำอัตรากำไรขั้นต้นในช่วง 32.2-34.2%)
แนวโน้มธุรกิจ
แนวโน้มธุรกิจ B2C เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นจากจุดที่แย่ที่สุดใน 2Q-3Q63 หลังจากที่มีการผ่อนคลายมาตรการ lockdownโดยลูกค้าหลายรายกำลังพยายามกระตุ้นยอดขาย ทำให้ธุรกิจ B2C ของบริษัทมีแนวโน้มเป็นบวกมากขึ้น ทั้งนี้ รายได้จากธุรกิจ B2C คิดเป็นสัดส่วนแค่ 5% ของรายได้รวมใน 9M63 ลดลงจากก่อนหน้านี้ที่ 10-15% ซึ่งเป็นผลจากการระบาดของ COVID-19 สำหรับในระยะต่อไป เราคาดว่าการเติบโตของ TACC ในอนาคตจะมาจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจ B2B และ B2C นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนจะทำดีล M&A ในอนาคตด้วย ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาอีกระยะหนึ่งก่อนที่จะได้ข้อสรุปในปีหน้า โดยเกณฑ์ของบริษัทคือ จะต้องทำให้ยอดขายและกำไรเพิ่ม โดยไม่ทำให้ margin ลดลง ทั้งนี้ บริษัทจะใช้เม็ดเงินที่ระดมทุนได้จาก IPO ในห้าปีที่ผ่านมาสำหรับดีลดังกล่าว นอกจากนี้ TACC ยังตั้งเป้าจะเข้าจดทะเบียนใน SET ในอนาคตอันใกล้
คงประมาณการกำไรปี 2563-64
เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปีนี้เอาไว้ที่ 189 ล้านบาท(+16.8% YoY) และปี 2564F ไว้ที่ 222 ล้านบาท (+17.2% YoY) โดยคาดว่าจะได้แรงหนุนจาก i) การเพิ่มจำนวนจุดจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง ii) การขยายจุดจำหน่ายในร้าน 7-Eleven เป็น 12,400 ร้าน ในปี 2563 และ 13,100 ร้าน ในปี 2564iii) มีการวางจำหน่ายสินค้าใหม่ และ iv) การที่ margin เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ สถานะทางการเงินของบริษัทก็ยังแข็งแกร่งโดยมีสถานะเงินสดสุทธิ ขณะที่ อัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ก็มีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆ จาก 24.5% ในปี 2562 เป็น เฉลี่ย 26.3% ในอีกสองปีข้างหน้า
TACC ยังคงเป็นหุ้นที่เราชอบมากที่สุดตัวหนึ่ง จากแนวโน้มกำไรที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะโตถึง 17% อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี(CAGR) ในช่วงสองปีข้างหน้า ดังนั้น เราจึงยังคงคำแนะนำซื้อ และให้ราคาเป้าหมายปี 2564 ที่ 8.00 บาท
ปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจฟื้นตัวช้าเกินคาด และปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง
ที่มา : บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี