สภาผู้แทนราษฎรจะครบวาระในวันที่ 23 มีนาคม 2566 แล้วซึ่งตามรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560มาตรา 102 กำหนดให้มีการเลือกตั้งภายใน 45 วันนับแต่วันที่สภาผู้แทนราษฎรสิ้นอายุ โดยเบื้องต้นสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต. กำหนดให้วันที่ 7 พฤษภาคม2566 เป็นวันเลือกตั้งทั่วไปในเขตพื้นที่ของผู้ใช้สิทธิ และวันที่ 30 เมษายน 2566 เป็นวันเลือกตั้งนอกเขตพื้นที่หรือการใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า
นโยบายหาเสียงที่เป็นประเด็นร้อนแรงของพรรคการเมืองที่ลงสมัครรับเลือกตั้งในคราวนี้คือ นโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน และเงินเดือนจบปริญญาตรี เริ่มต้นที่25,000 บาทขึ้นไป ภายในปี 2570นั้นหมายถึง พรรคการเมืองที่เสนอนโยบายนี้ หากได้รับเลือกเข้าไปดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแล้วมีโอกาสได้เป็นรัฐบาล ครบวาระแล้ว (ครบ 4 ปี) จะผลักดันให้เป็นไปตามนโยบายพรรคที่หาเสียงนี้
กกต. มีหน้าที่หลักเป็นผู้ควบคุมและดำเนินการจัดหรือจัดให้มีการเลือกตั้งหรือการสรรหาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น แล้วแต่กรณี รวมทั้งการออกเสียงประชามติ ให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม
หากพรรคการเมืองที่หาเสียงสามารถทำได้ตามนโยบายที่เสนอไว้ก็จะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน แต่หากไม่สามารถทำตามนโยบายที่หาเสียงได้ จะถือเป็นโฆษณาชวนเชื่อ ที่เกินความจริงไปหรือไม่ และพรรคการเมืองที่เสนอจะต้องรับผิดชอบกับผลจากการเสนอนโยบายเกินจริงอย่างไร เพราะนโยบายที่พรรคการเมืองใช้หาเสียงย่อมถือได้ว่าเป็นแผนกำหนดแนวทางพัฒนาประเทศ
ควรจะต้องมีกลไกตรวจสอบนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง เพื่อคุ้มครองสิทธิของประชาชนผู้ใช้สิทธิก่อนการเลือกตั้งว่า เกินจริงไปหรือไม่
นโยบายหาเสียงที่เกี่ยวกับการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำนั้น นับเป็นนโยบายยอดนิยมที่พรรคการเมืองไม่ว่าในประเทศไทยหรือต่างประเทศหยิบยกขึ้นมาเพื่อเรียกคะแนนความนิยมจากประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และมักจะมีอิทธิพลต่อความนิยมค่อนข้างสูงแต่การจะทำตามนโยบายนั้นก็ไม่ง่าย เพราะมีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง มีทั้งด้านการเงินการคลัง ด้านเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งวิถีการดำรงชีพของประชาชนในประเทศด้วย
เมื่อวันที่ 3 พ.ค.2565 ร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (สำหรับปี 2566-2570) ของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.)ชุดปัจจุบัน นำเสนอต่อ “รัฐสภา” เพื่อทราบและประกาศใช้ ในแผนนี้กำหนดตัวชี้วัดที่สำคัญที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้คือ การคาดการณ์รายได้ประชาชาติต่อหัวเท่ากับ 9,300 ดอลลาร์ หรือประมาณ 300,000 บาทต่อปี หรือ 25,000 บาท ต่อเดือน (ต่อจากเมื่อปี 2564 คาดการณ์รายได้ประชาชาติต่อหัวเท่ากับ 7,097 ดอลลาร์ หรือประมาณ 227,000 บาทต่อปี หรือ 18,917 บาทต่อเดือน)
แต่ปัจจุบันยังมีปัจจัยอย่างอื่นอีก ที่เป็นวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และยังคงมีผลต่อเนื่องถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งมีผลโดยตรงต่อความเป็นไปได้ของนโยบายหาเสียงขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำจะอยู่ที่ 600 บาทต่อวัน ในช่วงปี 2570 ด้วย
การหาเสียงเลือกตั้งที่กำหนดนโยบายโดนใจหรือตรงกับความต้องการของประชาชน จะมีผลทำให้ได้รับคะแนนเลือกตั้งมากขึ้น จนอาจทำให้พรรคการเมืองที่เสนอนโยบายสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้
แต่ความยากจะอยู่ที่ว่า พรรคการเมืองที่กำหนดนโยบายเช่นนั้น จะสามารถทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ได้หรือไม่ มิฉะนั้นแล้วจะเป็นเพียงแค่การขายฝัน ที่พอตื่นขึ้นมาพบกับความเป็นจริงที่ไม่สามารถทำได้ตามความฝัน
ประชาชนผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง ต้องตัดสินใจให้รอบคอบก่อนที่จะเลือกหรือหลงเชื่อนโยบายของพรรคการเมืองพรรคใดพรรคหนึ่งมิฉะนั้นอาจเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดและต้องยอมรับความยากลำบากที่เกิดขึ้น จากการตัดสินใจที่ผิดพลาดนั้น จนกว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่ และจัดตั้งรัฐบาลใหม่ครั้งหนึ่ง
การตัดสินใจที่ผิดพลาดในการเลือกตั้ง และต้องรับความลำบาก เป็นเสมือนการถูกลงโทษทางการเมืองอย่างหนึ่งที่ไม่ใช้ความระมัดระวังในการพิจารณาเลือกนโยบายของพรรคการเมือง
สิ่งนั้นคือ สีสันของประชาธิปไตย ที่บางครั้งอาจต้องแลกมาด้วยความสมหวัง และผิดหวัง จากการใช้สิทธิในการเลือกตั้ง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี