บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้นบริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส หรือ HANA อุปสงค์ที่อ่อนแอของ smartphone และ PC ทำให้ลูกค้า HANA ลดสต๊อกลง กดดันยอดขายใน 1Q66 (รายได้จากธุรกิจ IC ใน 1Q66 อยู่ที่ 75 ล้านดอลลาร์ (-4% YoY, -11%QoQ))บริษัทคาดว่าสต๊อกที่ระดับนี้น่าจะเข้าใกล้จุดต่ำสุดแล้ว และน่าจะเห็นการกลับมาเพิ่มสต๊อกในครึ่งปีหลัง ขณะเดียวกัน คำสั่งซื้อจากกลุ่มยานยนต์ยังคงแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม มีความกังวลอยู่บ้างจากการที่อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น อาจจะทำให้อุปสงค์ลดลงใน 2H66 นอกจากนี้ผู้บริหารยังคาดว่ารายได้จาก PMS (power master semiconductors) จะดีขึ้นใน 2H66 (ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ที่ 25-30 ล้านดอลลาร์) เนื่องจากจะมีอุปกรณ์ใหม่เพิ่มเข้ามา

อัตรากำไรยังเป็นประเด็นท้าทายเนื่องจากมีปัจจัยลบบางตัว ซึ่งได้แก่ i) อัตราแลกเปลี่ยน (เฉลี่ย QTD อยู่ที่ 34 บาท/ดอลลาร์ จาก 34.4 บาท/ดอลลาร์ ใน 2Q65และ 33.9 บาท/ดอลลาร์ ใน 1Q66)ii) ต้นทุนสาธารณูปโภคสูงขึ้น และ iii) อาจจะปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นอ่อนแอใน 1Q66 (อยู่ที่ 8.6%)เราจึงคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นไม่น่าจะเพิ่มขึ้นได้มากนัก เราจึงยังคงสมมุติฐานอัตรากำไรขั้นต้นในปี 2566 เอาไว้ที่ 12.1% (ลดลงจาก 13.5% ในปี 2565)

ถึงแม้เราจะคาดว่ายอดขาย และอัตรากำไรจะดีขึ้นบ้างเนื่องจากระดับสต๊อกน่าจะถึงจุดต่ำสุดแล้ว ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิตและอัตราแลกเปลี่ยนดีขึ้น แต่เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักของ HANA จะลดลง YoY เราคาดว่าจะเห็นการกลับมาเพิ่มสต๊อกในครึ่งหลังของปีนี้ ซึ่งจะทำให้กำไรเพิ่มขึ้น HoH แต่จะยังคงลดลง YoY

เราคงราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ที่ 35.00 บาท และคงคำแนะนำ“ขาย”

ปัจจัยเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ, มีการปิดโรงงานนอกแผน,ลูกค้าเปลี่ยนไปสั่งสินค้าจาก supplier รายอื่น,ขาดแคลนวัตถุดิบ, เงินบาทแข็งค่าขึ้น (เราใช้สมมุติฐานอัตราแลกเปลี่ยนปี 2566-2567 ที่ 33.80 บาท/ดอลลาร์)

ที่มา : บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)