บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) วิเคราะห์หุ้นบริษัทฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส์ หรือ HANAมีสัญญาณบางอย่างที่ช่วยยืนยันมุมมองของเราว่ากำลังมีการตุนสต๊อก (inventory restocking) จากการที่สินค้าบางกลุ่มมีแนวโน้มเป็นบวก ขณะที่ยังไม่เห็นสัญญาณการหดตัวของคำสั่งซื้อ แม้ว่าจะมีความเป็นห่วงในประเด็นนี้อยู่บ้างก็ตาม อุปสงค์จากธุรกิจ EMS ยังแข็งแกร่งจากกลุ่มยานยนต์ แม้จะเผชิญกับอุปสรรคจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม อุปสงค์ OSAT มีโอกาสอ่อนแอ/ ไม่โดดเด่น (แม้ว่าตามปกติแล้ว ไตรมาสที่สามจะเป็นช่วงpeak ตามฤดูกาล) จากความกังวลเกี่ยวกับอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน ทั้งนี้ จากยอดขายที่แผ่วในไตรมาสแรก และการที่เกิดการตุนสต๊อกในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เราจึงคาดว่ายอดขายครึ่งหลังน่าจะเพิ่มขึ้น HoH

เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะยังพอใช้ได้ เนื่องจาก i) เงินบาทอ่อนค่าลง โดยอัตราแลกเปลี่ยน QTD อยู่ที่34.70 บาท/ดอลลาร์ฯ (จาก 36.50 บาท/ดอลลาร์ฯ ใน 3Q65และ 34.60 บาท/ดอลลาร์ฯ ใน 2Q66) และ ii) productmix ดีขึ้นและอัตราการใช้กำลังการผลิตดีขึ้นตามยอดขายดังนั้น เราจึงคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นใน 2H66 จะดีขึ้นเมื่อเทียบกับ 1H66 ดังนั้น เราจึงคาดว่าผลประกอบการในครึ่งหลังน่าจะดีขึ้น HoH

บริษัทคาดว่าอุปสงค์ SiC จะแข็งแกร่ง แต่อย่างไรก็ตาม กำลังการผลิตในปัจจุบันยังคงเป็นข้อจำกัด HANA จึงมีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นอีกภายใน 4Q66 และ 1H67 เนื่องจาก lead time ของอุปกรณ์ใช้เวลานานขึ้น ทั้งนี้บริษัทได้ปรับประมาณการรายได้จากยอดขาย PMS ปีนี้เป็น20 ล้านดอลลาร์ฯ (จากเดิม 25-30 ล้านดอลลาร์ฯ) และปีหน้าเป็น 45-48 ล้านดอลลาร์ฯ (จากเดิม 60 ล้านดอลลาร์ฯ)

เรายังคงคำแนะนำ “ถือ” HANA และประเมินราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 ที่ 56.00 บาท ปัจจัยเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ, มีการปิดโรงงานนอกแผน, ลูกค้าเปลี่ยนไปสั่งสินค้าจาก supplier รายอื่น, ขาดแคลนวัตถุดิบ, เงินบาทแข็งค่าขึ้น (เราใช้สมมุติฐานอัตราแลกเปลี่ยนปี 2566-67Fที่ 33.80 บาท/ดอลลาร์ฯ

ที่มา : บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)