ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ใช้โอกาสรัสเซียเฉลิมฉลองครบรอบ 80 ปี แห่งชัยชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 เตือนอเมริกาอย่าบิดเบือนความจริงผลชนะสงครามโลกครั้งที่ 2
ประธานาธิบดีสี ไม่ได้เอ่ยถึงประเทศใด แต่ในแถลงการณ์บ่งชี้ว่า เป็นสหรัฐอเมริกาที่จีนเตือนว่า อย่าบิดเบือนความจริง ผลชัยชนะของรัสเซียกับจีน และจีนเตือนด้วยว่า การละเมิดธรรมนูญสหประชาชาติการมุ่งหน้าสู่หายนะ
สำนักข่าวซินหัว สื่อทางการของจีน รายงานจากกรุงมอสโก วันที่ 8 พ.ค.ว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เรียกร้องให้ใช้ความพยายามร่วมกันปกป้อง ตำนานแห่งชัยชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 ในขณะที่ดูเหมือนว่าโลกกำลังหมุนเข้าสู่ภาวะแห่งความเลวร้าย ของการวางอำนาจบาตรใหญ่ และใช้อำนาจอิทธิพลการเมือง
ประธานาธิบดีสี เรียกร้องสิ่งเหล่านี้ในวันที่เดินทางถึงมอสโกการเยือนรัสเซียเป็นทางการ และร่วมการเฉลิมฉลอง 80 ปีแห่งชัยชนะสงครามรักชาติสหภาพโซเวียต
ในแถลงการณ์เผยแพร่ในสื่อทางการรัสเซีย วันไปถึงมอสโก ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวว่า จีนและรัสเซีย ทำงานร่วมกันอย่างแข็งขันในการปกป้องผลแห่งชัยชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 จีนกับรัสเซีย จะต่อต้านการวางอำนาจบาตรใหญ่และการใช้อำนาจอิทธิพลการเมือง อย่างเด็ดเดี่ยวกล้าหาญ
จีน และรัสเซียเป็นสองประเทศใหญ่ของโลก และเป็นสมาชิกถาวรสภาความมั่นคงสหประชาชาติ จะจับมือกันอย่างแข็งขันในการป้องกันผดุงไว้ให้ UN เป็นศูนย์กลางของระบบนานาชาติ และกำหนดระเบียบโลกด้วยกฎหมายสากล ปฏิบัติตามหลักการพหุภาคีนิยมอย่างจริงจัง และส่งเสริมสร้างความเท่าเทียมในระบบการปกครองธรรมาภิบาลมากขึ้น
ประธานาธิบดีสี เยือนรัสเซียเป็นทางการตามคำเชิญ ประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ซึ่งถือเป็นการเยือนรัสเซียครั้งที่ 11 ตั้งแต่ท่านสี เป็นประธานาธิบดีจีน
ระหว่างพำนักในรัสเซีย ประธานาธิบดีสี ได้มีการเจรจาทวิภาคีกับประธานาธิบดีปูติน อย่างกว้างขวาง ล้ำลึก และความร่วมมือ ประเด็นความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์และ ความขัดแย้งในภูมิภาคที่มีความกังวลร่วมกัน
รายงานของกระทรวงการต่างประเทศจีน ระบุว่า ประธานาธิบดีสี ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 80 ปีแห่งชัยชนะสงครามของสหภาพโซเวียตรักชาติอันยิ่งใหญ่ เป็นเป้าหมายสำคัญในการเยือน นี้เป็นครั้งที่สอง ที่ประธานาธิบดีสี ร่วมพิธีรำลึกชัยชนะวันที่ 9 พฤษภาคม ในฐานะประธานาธิบดีจีน
พิธีสวนสนามยิ่งใหญ่อลังการในจัตุรัสแดง กรุงมอสโกที่มีประธานาธิบดีสี เป็นแขกรับเชิญกิตติมศักดิ์ยืนเคียงข้างกับประธานธิบดีปูติน และแวดล้อมไปด้วยผู้นำนานาชาติทางโลกใต้
ทวีปแอฟริกา เอเชีย และชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ร่วมชมพิธีสวนสนามท่ามกลางธงแห่งชัยชนะพลิ้วไหวตามสายลมบนในกรุงมอสโก สองข้างถนนติดป้ายและการประดับประดา บอกถึงประวัติศาสตร์ชัยชนะของสงครามรักชาติสหภาพโซเวียต
ขบวนสวนสนามยิ่งใหญ่ที่รัสเซียแสดงแสนยานุภาพทางทหารอย่างอลังการโดยมีกองทหารเกียรติยศจากประเทศโลกใต้ แอฟริกา เอเชียกลาง และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) กองทหารเกียรติยศจากเวียดนาม ลาว กัมพูชา และพม่า ร่วมขบวนสวนสนามต่อหน้าผู้นำพวกเขา : ผู้เขียน
รายงานกระทรวงต่างประเทศจีน ระบุว่า คืนวันที่ 8 พ.ค. 1945 เยอรมันลงนามเอกสารยอมแพ้ในเมืองคาร์ลชอร์สต์ (Karlshort) กรุงเบอร์ลิน ถือเป็นการสิ้นสุดสงครามในยุโรป อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเวลาแตกต่างกัน มอสโกย่างเข้าวันที่ 9 พ.ค. 1945 และต่อมารัสเซียรำลึกเป็นวันแห่งชัยชนะ
ขณะที่ทวีปเอเชีย จีนยังคงระดมกำลังถล่มญี่ปุ่นเป็นครั้งสุดท้าย ในสมรภูมิรบภาคตะวันตกยูนนาน เป็นการรบตัดสินแพ้ชนะ ญี่ปุ่นลงนามยอมแพ้บนเรือรบ USS Mussiuri ในอ่าวโตเกียว วันที่ 2 ก.ย. 1945 นำมาสู่จุดจบสงครามโลกครั้งที่ 2
แถลงการณ์ลงนามโดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ตีพิมพ์ในสื่อทางการรัสเซีย วันเดินทางมาถึงมอสโก ประธานาธิบดีสี เรียกร้องให้ประชาคมนานาชาติยึดถือความถูกต้องของภาพรวม
สงครามโลกครั้งที่ 2 ว่า...“จีนกับรัสเซียเป็นตัวละครหลักในสงครามเอเชีย และยุโรปตามลำดับ”
ประธานาธิบดีสี เขียนในแถลงการณ์ว่า “สองประเทศนี้ทำหน้าที่หลักในการต่อสู้ลัทธิทหารญี่ปุ่น และ ลัทธินาซีเยอรมัน รัสเซียกับจีนเป็นแกนนำสำคัญทำให้โลกชัยชนะสงครามแอนตี้ฟาสซิสต์”
ความพยายามใดๆ ที่บิดเบือนความจริงประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2 ปฏิเสธผลแห่งชัยชนะหรือดูแคลนประวัติศาสตร์รัสเซีย และจีน การบิดเบือนนั้นนำไปสู่หายนะ”
ประธานาธิบดีสี ระบุในแถลงการณ์ด้วยว่า ปี 2025 ครบรอบ 80 ปีการก่อตั้งสหประชาชาติ องค์กรโลกที่เกิดขึ้นจากซากปรักหักพัง และเถ้าถ่านสงครามโลกครั้งที่ 2 ธรรมนูญสหประชาชาติ เริ่มต้นจากคำมั่นสัญญาอันศักดิ์สิทธิ์ “เพื่อปกป้องคนรุ่นหลังจากความหายนะของสงคราม”
ในขณะที่โลกกำลังเผชิญลมแรงจากลัทธิฝ่ายเดียว ใช้อำนาจบาตรใหญ่ ข่มเหงรังแก และการขู่กรรโชก และประธานาธิบดีสี เน้นความสำคัญของพหุภาคีนิยม “ความวุ่นวายและซับซ้อนมากขึ้นเท่าใดของสถานการณ์โลก ยิ่งจำเป็นต้องยึดมั่นและปกป้องอำนาจหน้าที่ของสหประชาชาติมากขึ้นเท่านั้น”
ประธานาธิบดีสี กล่าวในแถลงการณ์ด้วยว่า “การสร้างระเบียบโลกโดยให้สหประชาชาติเป็นแกนกลางไม่ใช่เรื่องง่าย และมันต้องผดุงรักษาไว้ด้วยประเทศสมาชิกทั้งมวลทั่วโลก” ประธานาธิบดีสี สรุปในแถลงการณ์
Ekaterina Zaklyazminskaya นักวิจัยระดับแนวหน้า สถาบันจีนและเอเชียยุคใหม่ศึกษากล่าวว่า “รัสเซียและจีนสนับสนุน “พหุภาคีนิยมแท้จริง” เป็นจังหวะเวลาสำคัญในปัจจุบันนี้” เขากล่าวเสริมว่า โลกกำลังเปลี่ยนไปเป็นอำนาจหลายขั้วอย่างไม่อาจย้อนกลับได้ โดยมีรัสเซียกับจีนเป็นตัวละครสำคัญในการเปลี่ยนผ่านครั้งนี้
Alexey Rodionov ศาสตราจารย์จีนศึกษาในมหาวิทยาลัยเซนต์ปีเตอร์ส เบิร์ก กล่าวว่า “จีนดำรงไว้ซึ่งสมดุลในประเด็นนานาชาติ และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมประเทศต่างๆ ถือว่าจีนเป็นกุญแจสำคัญในการอ้างอิงทางการทูตและนโยบายโลก” Rodionov กล่าว
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เตือนสหรัฐฯอย่าบิดเบือนผลแห่งชัยชนะของสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ประธานาธิบดีสี เชื่อมั่นว่ารัสเซียกับจีนเป็นตัวละครสำคัญ ในการทำสงความต่อต้านลัทธินาซีเยอรมันและลัทธิทหารนิยมญี่ปุ่น
คำประกาศต่อต้านการใช้อำนาจฝ่ายเดียวของสหรัฐฯ ท่ามกลางการชุมนุมของผู้นำประเทศโลกใต้ ที่ไปร่วมรำลึกครบรอบ 80 ปี ชัยชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 ของรัสเซีย เป็นการเตือนให้วอชิงตัน สำเหนียกว่า สหรัฐไม่ใช่ขั้วอำนาจฝ่ายเดียวอีกต่อไป พลวัตโลกได้เปลี่ยนไป จีนและรัสเซีย คือมหาอำนาจใหม่ในยุคโลกหลายขั้ว
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี