“ผลประกอบการ แข็งแกร่งเกินคาด”

บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้นบริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท หรือSHRจากการรายงานกำไรสุทธิ1Q68 ที่ 176 ล้านบาท (+57.3% YoY และ +19.2% QoQ) โดยกำไรปกติ 225 ล้านบาท โตก้าวกระโดด 76.0% YoY และ 53% QoQ  กำไรปกติใน 1Q68 ของบริษัทสูงกว่าประมาณการของเรา 36.4% ที่ 165 ล้านบาท ในช่วง 1Q68 กลุ่มบริษัทมีรายได้จากการขายและบริการที่ 2.62 พันล้านบาท ลดลง 4.4% YoY

ส่วนโรงแรมที่บริษัทบริหารจัดการเองในไทยมีผลงานโดดเด่นรายได้ต่อห้องต่อคืน (RevPar) เพิ่ม 12% YoY แตะสูงกว่า 11,000 บาท หลัก ๆ มาจากโรงแรมทราย ลากูน่า ภูเก็ตปรับปรุงใหม่แล้วเสร็จ ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์การเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์และเปิดให้บริการเดือนธันวาคม 2567 และได้รับการตอบรับจากลูกค้า ส่งผลให้อัตราค่าห้องพักเฉลี่ยรายวัน (ADR) เพิ่ม 31% YoY  โรงแรมสองแห่งในโครงการ CROSSROADS ยังมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย (occupancy rate) ที่ 90% และยังคงระดับ ADR เฉลี่ยที่ 15,000 บาท ขณะที่การปิดให้บริการชั่วคราวบางส่วนของโรงแรมในสหราชอาณาจักรเพื่อปรับปรุงในช่วงไตรมาสนี้ ทำให้ occupancy rate ลดลงจาก 58% อยู่ที่ 56% ภายหลังปรับแบรนด์ และวางตำแหน่งทางการตลาดของโรงแรมเหล่านี้ บริษัทคาดว่าอัตราการเข้าพักเฉลี่ย (OCC) และ ADR จะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

ผลประกอบการรวมของกลุ่มโรงแรมแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของกลยุทธ์การเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์ซึ่งช่วยดัน ADR ให้เพิ่มขึ้น 4% YoY อยู่ที่ 7,470 บาท และส่งผลให้ RevPar เพิ่ม 6% YoY อยู่ที่ 4,894 บาท นอกจากนี้ โรงแรม SO/ Maldives ยังแสดงให้เห็นถึงผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งขึ้น โดยมี occupancy rate เพิ่มขึ้นที่ 70% จาก 44% ใน 1Q67 และ ADR เพิ่มถึง 26% YoY เป็นนัยว่าน่าจะเติบโตโดดเด่นและมีทิศทางบวกตลอดปี 2568

สำหรับใน 2Q68 SHR น่าจะได้รับผลกระทบน้อยมากจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในไตรมาสแรก เพราะโรงแรมของ SHR ตั้งอยู่ในภาคใต้ของประเทศไทย ขณะที่สถานการณ์การท่องเที่ยวในสมุยและภูเก็ตในเดือนเมษายนยังดูแข็งแกร่ง ซึ่งน่าจะผลักดันให้ผลการดำเนินงานรวมของบริษัทดีขึ้นและพลิกกลับเป็นบวก YoY ขณะที่ เราคาดว่ากำไรปี 2568 ของบริษัทจะแข็งแกร่งขึ้นพร้อมกับมีกำไร

เรากำลังพิจารณาทบทวนประมาณการและราคาเป้าหมายใหม่สำหรับ SHR ดังนั้น เราให้ราคาเป้าหมายและคำแนะนำการลงทุนเป็น Under Review ในขณะนี้

ปัจจัยเสี่ยงจากกรณีที่เกิดสถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น

ที่มา..บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)