“ยอดเก็บเงินสดลดลง”

บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้นบริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์หรือBAMหลังจากที่ยอดเก็บเงินสดออกมาแข็งแกร่งใน 4Q67 บริษัทส่งสัญญาณว่ายอดเก็บเงินสดกลับมาชะลอตัวลงอีกครั้งใน 1Q68 และ น่าจะลดลงทั้ง QoQ และ YoY ยอดเก็บเงินสดที่ชะลอตัวลงน่าจะสะท้อนถึงการขาดโปรโมชันด้านราคา และ ขาดผู้ซื้อในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว เราประเมินคร่าวๆว่ายอดเก็บเงินสดจะอยู่ในช่วง 3.0-3.3 พันล้านบาท ต่ำกว่าเป้าของบริษัทที่ 3.8 พันล้านบาท  ณ จุดนี้ เราใช้สมมติฐานยอดเก็บเงินสดที่ 3.3 พันล้านบาท (-24% QoQ และ -8% YoY)

จากมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทย( ธปท.) และ ฝั่งผู้ซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพไม่ได้สนใจซื้อทรัพย์เข้ามา ทำให้ยอดขาย NPL จากธนาคาร1Q68อยู่ในระดับต่ำมาก นอกจากนี้ BAM และ ผู้ซื้อรายอื่นๆ ยังใช้กลยุทธ์เลือกซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ โดยเน้นเลือกซื้อสินเชื่อ SME และ สินเชื่อธุรกิจ แต่ไม่สนใจซื้อสินเชื่อที่อยู่อาศัย ราคาประมูลซื้อสินทรัพย์จึงต่ำมาก ซึ่งมาจากอุปสงค์ และ อุปทานของสินทรัพย์ด้อยคุณภาพชะลอตัวลงทั้งคู่

BAM เริ่มเปิดดำเนินการ JV AMC สองแห่งได้แก่ 1.) Ari AMC (JV ร่วมกับ GSB) และ 2.) Arun AMC (JV ร่วมกับ KBANK)  รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก Ari AMC 29 ล้านบาทใน 4Q67 และ จะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก Arun AMC ใน 1Q68F  เราคาดว่าส่วนแบ่งกำไรจาก Ari AMC จะลดลงใน 1Q68 และ จาก Arun AMC จะยังไม่มีนัยสำคัญ เพราะยังมีสินทรัพย์ใส่เข้ามาไม่มาก โดยมีลูกหนี้รวม <1,000 ราย  ณ จุดนี้ เราประเมินว่าส่วนแบ่งกำไรจะอยู่ที่ 25 ล้านบาทใน 1Q68F

เราคาดว่ากำไร1Q68 จะอยู่ที่ 403 ล้านบาท (-23% QoQ และ -5% YoY) กำไรที่ลดลงอย่างมาก QoQ และ ลดลงปานกลาง YoY สะท้อนถึงรายได้ที่ลดลงจากยอดเก็บหนี้ที่ลดลง  ประมาณการกำไร 1Q68F คิดเป็นประมาณ 25% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา

ภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงไม่เอื้อต่อการดำเนินงานของ BAM เพราะทำให้บริษัทเพิ่มยอดเก็บเงินสดได้ยาก และ บีบให้บริษัทต้องบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพื่อรักษาระดับกำไรสุทธิ เนื่องจากประมาณการกำไร1Q68F คิดเป็นประมาณ 25% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา  ดังนั้นจึงยังคงประมาณการกำไรปี 2568F ประเมินราคาเป้าหมายปี 2568F ที่ 7.5 บาท

ปัจจัยเสี่ยงจากยอดเก็บเงินสด และ margin ลดลง

ที่มา..บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)