“ภาวะการจับจ่ายยังคงเปราะบาง”
บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้นบริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ หรือHMPROภาวะอุปสงค์โดยรวมแย่ลงในเดือนเมษายน 2568 โดย same-store-sales อยู่ที่ -10% (จาก -3.3% ใน 1Q68) เนื่องจาก i) ภาวะเศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวย ii) ผลกระทบจากปัจจัยฤดูกาล เพราะสภาพอากาศที่ร้อนกว่าปีที่แล้ว (ทำให้อุปสงค์เครื่องใช้ไฟฟ้าได้แก่เครื่องปรับอากาศเร่งตัวขึ้น) ถึงแม้คาดว่าจะมีอุปสงค์จากการซ่อมแซมอาคาร (หลังแผ่นดินไหว) แต่รูปแบบของอุปสงค์ส่วนนี้อาจกระจายตัวออกไปในช่วง 3-6 เดือน เพราะกระบวนการเรียกร้องสินไหมจากบริษัทประกัน และ ปัญหาขาดแคลนช่างซ่อม การเสนอบริการเพิ่มเติม และ หมวดหมู่สินค้าใหม่ (ผ่านโครงการ trade-in) เป็นตัวอย่างของกลยุทธ์ที่บริษัทใช้ในการปรับปรุงระบบนิเวศของบริษัท และ กระตุ้นอุปสงค์ คาดว่าบริษัทจะยังคงมุ่งลดต้นทุนเพื่อช่วยชดเชยอุปสงค์ที่อ่อนแอ
เราคาดว่าผลประกอบการจะแผ่วใน 2Q68-3Q68ก่อนฟื้นตัวใน4Q68 เพราะปัจจัยฤดูกาล เนื่องจากการจับจ่ายใช้สอยอ่อนแอ และเป็นช่วงที่ผลการดำเนินงานแผ่วตามฤดูกาลอยู่แล้วในไตรมาสที่สองและสาม เราจึงคาดว่ากำไร 2Q68-3Q68 จะลดลง QoQ โดยอุปสงค์จากการซ่อมแซมอาคารหลังแผ่นดินไหวอาจจะช่วยหนุนผลการดำเนินงานไตรมาสสามได้บางส่วน แต่มองว่าการที่จะพลิกกำไรใน 3Q68 ให้ฟื้นตัวได้ YoY ยังเป็นเรื่องท้าทาย
เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวย เราจึงทบทวนสมมติฐานใหม่ดังนี้ i) ปรับลด SSSG ปี 2558 เป็น -4.0% (จาก 0.5%) และ เป็น 0% ในปี 2569 (สะท้อนการจับจ่ายใช้สอยที่น่าจะยังอ่อนแอ) ii) ปรับลดอัตรากำไรขั้นต้นปี 2568-2569 ลงประมาณ 10-20bps เพื่อสะท้อนถึงแนวโน้มการจัดแคมเปญส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงที่สถานการณ์ไม่เอื้อ iii) ปรับลดสัดส่วน SG&A ต่อยอดขายลง 4-5% เพื่อสะท้อนถึงการคุมต้นทุน เราจึงปรับลดประมาณการกำไรปี 2568-2569 ลง 7-9% ทำให้กำไรทรงตัวในปี 2568 และ เพิ่มขึ้น 6% YoY ในปี 2569 เนื่องจากผลประกอบการมีแนวโน้มจะไม่น่าสนใจไปอีกสองสามไตรมาส และ คาดว่ากำไรจะทรงตัวในปี 2568 เราจึง de-rate PER จาก 18.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีตของหุ้นกลุ่มนี้ในตลาดโลก) เป็น 16.5x (ค่าเฉลี่ยในอดีตของหุ้นกลุ่มนี้ในตลาดโลก -0.5 S.D.)
เราปรับลดราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 จาก 9.60 บาทเป็น 8.20 บาท เนื่องจาก i) ผลประกอบการจะไม่น่าสนใจใน 2Q68-3Q68 ซึ่งปกติจะเป็นช่วงที่แผ่วตามฤดูกาลอยู่แล้ว และ ii) เหลือ upside จากราคาปิดล่าสุดเพียง 3% เราจึงปรับลดคำแนะนำจาก “ซื้อ” เป็น “ถือ”
ปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจชะลอตัวลง, ขยายสาขาได้ต่ำกว่าเป้า, ราคาพืชผลอ่อนแอ, ภัยธรรมชาติ, สินค้าค้างสต็อกเป็นจำนวนมาก
ที่มา..บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี