บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้นบริษัทโฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ หรือ HMPROเราคาดว่ากำไรสุทธิ 3Q66 จะอยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท (-0.3% YoY, -6% QoQ) จากอุปสงค์ที่อ่อนแอ จะทำให้กำไรสุทธิในงวด 9M66 อยู่ที่ 4.8 พันล้านบาท (+4%YoY) คิดเป็น 67% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา

ถึงแม้ว่า i) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะฟื้นตัวขึ้นหลังจากตั้งรัฐบาลใหม่ ii) จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องเป็น 2.5 ล้านคนในเดือนกรกฎาคม ซึ่งคิดเป็น 75% ของระดับก่อนCOVID ระบาด แต่เราคาดว่า same store sales ใน 3Q66 อาจจะอ่อนแอที่ -5% (จาก +17.8% ใน 3Q65 และ 4.9% ใน 2Q66)จะทำให้ same store sales เฉลี่ยในงวด 9M66 อยู่ที่ 2% ต่ำกว่าสมมุติฐานปี 2566 ของเราที่ 4% และต่ำกว่าช่วงเป้าหมายของบริษัทที่ 3-5% เราคาดว่ายอดขายใน 3Q66 จะอยู่ที่ 1.65 หมื่นล้านบาท (+4% YoY, -7% QoQ) จะทำให้ยอดขายในงวด 9M66 อยู่ที่ 5.15 หมื่นล้านบาท (+7% YoY) เราคาดว่าHMPRO จะเปิดสาขาร้านใหม่ 1ร้านใน 3Q66 ทำให้จำนวนสาขาร้านรวมเพิ่มเป็น 123 ร้าน (116 ร้านในประเทศไทย และ 7 ร้านในประเทศมาเลเซีย)

เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะอยู่ที่ 26.5% (-30bps YoY,+20bps QoQ) ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นในงวด 9M66 อยู่ที่ 26.3% (+10bps YoY) อัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลง YoY เป็นเพราะการขยายสาขาร้าน Mega Home ซึ่งปกติแล้วอัตรากำไรขั้นต้นของร้าน Mega Home จะต่ำกว่าสาขาร้าน Homepro ประมาณ 3-4ppts โดยจำนวนสาขาร้าน Mega Home เพิ่มเป็น 24 ร้านณ สิ้นงวด 3Q66 จากเพียง 16 ร้านเมื่อสิ้นงวด 3Q65 เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้น QoQ จากปัจจัยฤดูกาล และคาดว่าสัดส่วน SG&A ต่อยอดขายจะลดลงมาอยู่ที่ 19.4% ใน 3Q66 (จาก 19.7% ใน 3Q65 และ 19.5% ใน 2Q66) เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายก่อนเปิดสาขาใหม่ และต้นทุนสาธารณูปโภคลดลง

เราคาดว่ากำไรจะขึ้นไปถึงระดับสูงสุดในไตรมาสที่สี่เนื่องจาก i) คาดว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นจากการขยายสาขา (บริษัทคาดว่าจะเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 4 ร้านใน 4Q66) ii) คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้นจากปัจจัยฤดูกาล (rebase จาก supplier) และiii) คาดว่าต้นทุนสาธารณูปโภคจะลดลงหลังจากที่มีการลดค่า FT ลงแต่ยังมีปัจจัยที่ต้องติดตาม ซึ่งอาจจะกระทบกับอุปสงค์โดยรวม ได้แก่ i) นโยบายของรัฐบาล และ ii)กลุ่มอสังหาริมทรัพย์

เรายังคงคำแนะนำ“ซื้อ”HMPRO โดยประเมินราคาเป้าหมาย 1H67 ที่ 16.00 บาท

ปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจชะลอตัวลง, ขยายสาขาได้น้อยกว่าที่วางแผนเอาไว้, ราคาพืชผลอ่อนแอ, ภัยธรรมชาติ, สินค้าค้างสต๊อกเป็นจำนวนมาก

ที่มา : บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)