วันพฤหัสบดี ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์โลกธุรกิจ / หมุนตามทุน
หมุนตามทุน

หมุนตามทุน

วันพุธ ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2567, 06.00 น.
ส่งออกไทยไปต่อไม่ไหว...ถ้าไม่ปรับโครงสร้าง

ดูทั้งหมด

  •  

KKP Research โดยกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ระบุว่าภาคส่งออกที่พัฒนามาค่อนข้างมากและเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยมากว่า 30 ปีกำลังมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ ข้อมูลสินค้าส่งออกสำคัญของไทยเริ่มแสดงถึงปัญหาของภาคส่งออกที่กำลังอ่อนแรงใน 3 ประเด็น คือ 1.ไทยเป็นฐานการผลิตของสินค้าโลกเก่า กล่าวคือ สินค้าที่ไทยมีความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้นเป็นสินค้าที่โลกมีความต้องการลดลงเรื่อยๆ จากการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีและความต้องการของตลาด ในขณะที่ไทยยังไม่สามารถดึงดูดและพัฒนาเทคโนโลยีของสินค้าที่เข้ามาทดแทนได้ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์สันดาปและชิ้นส่วนยานยนต์ ที่กำลังถูกตีตลาดจากรถยนต์ไฟฟ้า, Hard Disk Drive (HDD) ที่กำลังถูกแทนที่ด้วย Solid State Drive (SSD) รวมถึงผลิตภัณฑ์พลาสติกที่ความต้องการตลาดโลกลดลงตามกระแสเศรษฐกิจสีเขียว เป็นต้น

ส่วนประเด็นที่ 2.ไทยไม่มีสินค้าดาวรุ่งในโลกใหม่ สินค้าที่กำลังเติบโตได้ดีและเป็นที่ต้องการเพิ่มขึ้นในตลาดโลกตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป ได้แก่ Smart phone, semiconductor, และ SSD ไทยกลับมีส่วนแบ่งตลาดลดลงในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา และ 3.สินค้าที่ยังพอมีโอกาสเป็นกลุ่มสินค้าซับซ้อนต่ำ สินค้าที่ไทยมีส่วนแบ่งตลาดมากขึ้น คือ กลุ่มสินค้าเกษตรและสินค้าที่ไม่มีความซับซ้อนในการผลิต และมีมูลค่าเพิ่มไม่มากนัก เช่น ผลไม้สด เนื้อสัตว์แปรรูปยางรถยนต์ ซึ่งอาจยังเป็นสินค้าสำคัญของภาคส่งออกไทยต่อไปได้ (ยกเว้นยางพาราและข้าวที่มีไทยมีส่วนแบ่งตลาดลดลงอย่างเห็นได้ชัด) อย่างไรก็ดี ความต้องการสินค้ากลุ่มนี้ในตลาดโลกไม่ได้มีสัดส่วนเปลี่ยนไป และขนาดมูลค่าการส่งออกทั่วโลกของสินค้ากลุ่มนี้ไม่ได้สูงมากนัก โดยสินค้าเกษตรสำคัญของไทยคือ ข้าวมีแนวโน้มสูญเสียความสามารถในการแข่งขันให้กับคู่แข่งอย่างเวียดนามและอินเดียมากขึ้นเรื่อยๆ


KKP Research ระบุอีกว่า ในขณะเดียวกัน เห็นได้ชัดว่าประเทศคู่แข่งเริ่มปรับเปลี่ยนโครงสร้างสินค้าส่งออก ไปเป็นสินค้าใหม่ๆ มากขึ้น เช่น เวียดนาม ได้กลายเป็นฐานการส่งออก Smartphone แผงวงจรไฟฟ้า และ Solar Cell ในตลาดโลกมากขึ้นหรือมาเลเซียที่หันมาส่งออกสินค้าโลกใหม่ เช่น SSD มากขึ้นในตลาดโลก และเริ่มลดการส่งออกสินค้าโลกเก่าอย่าง HDD ลงยิ่งไปกว่านั้น อีกด้านหนึ่งเศรษฐกิจไทยยังถูกตีตลาดจากจีนมากขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมที่ไทยพึ่งพาจีนในการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่การผลิตของโลก แต่ปัจจุบันสินค้าหลายชนิดจีนผลิตได้เองในต้นทุนที่ถูกกว่าและส่งออกสินค้าอุปโภค-บริโภคขั้นสุดท้ายมาที่ไทยโดยตรง

KKP Research มองว่าปรากฏการณ์นี้กระทบเศรษฐกิจไทยอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น1.ความสามารถในการแข่งขันที่ยิ่งลดลง จากการที่ภาคการผลิตของไทยแข่งยากขึ้นเมื่อเทียบกับสินค้าส่งออกของจีนที่ราคาถูกกว่าทั้งสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ เหล็ก รถยนต์โดยเฉพาะรถไฟฟ้า EV เฟอร์นิเจอร์ กระดาษ ยางรถยนต์2.มูลค่าเพิ่มของสินค้าส่งออกไทยลดลงเหตุจากความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่รุนแรงขึ้น ทำให้สหรัฐฯ ลดการนำเข้าสินค้าโดยตรงจากจีน ผู้ประกอบการจีนจึงโยกย้ายการลงทุนไปยังประเทศอื่นเพื่อใช้เป็นช่องทางในการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ (Re-routing)รวมถึงไทย เช่น การส่งออกแผงโซลาร์เซลล์ (Solar PV) ของไทยที่เติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา ในภาพรวมเป็นเพียงแค่ทางผ่านของแผงโซลาเซลล์จากจีนไปยังตลาดสหรัฐฯและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจไทยน้อยมาก ดังนั้น หากแนวโน้ม Re-routing ขยายวงกว้างขึ้นไปยังสินค้าอื่นๆ จะทำให้มูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจในประเทศ ไม่เพิ่มขึ้นแม้การส่งออกจะยังเติบโตได้ก็ตาม และ 3.จีนเข้ามาทำธุรกิจในไทยโดยตรงมากขึ้น เพื่อแสวงหาโอกาสใหม่ทางธุรกิจและเข้ามาเจาะตลาดในไทยโดยตรงจากภาวะเศรษฐกิจจีนที่ซบเซาต่อเนื่อง ทั้งในกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิต ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจในภาคบริการอื่นๆ โดยในปัจจุบันการลงทุนโดยตรง (FDI) จากจีนเร่งตัวขึ้นจนเป็นอันดับหนึ่งตั้งแต่ปี 2022 แซงหน้าญี่ปุ่นที่เคยเป็นแหล่งเงินลงทุนโดยตรงรายใหญ่ในไทย ในแง่หนึ่งการลงทุนที่เพิ่มขึ้นนี้อาจเป็นผลดีต่อการกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจไทย แต่ก็จะทำให้ธุรกิจไทยเองต้องเร่งปรับตัวรับการแข่งขันในตลาดในประเทศที่จะดุเดือดขึ้น

ความท้าทายนี้ ส่งผลกระทบต่อเนื่องต่อเศรษฐกิจไทยใน 3 มิติ คือ 1.ศักยภาพการเติบโตของเศรษฐกิจมีแนวโน้มลดลงจากความสามารถในการแข่งขันที่ลดลง และจะทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง เพราะ 2 ทศวรรษที่ผ่านมาแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจกว่าครึ่งหนึ่งมาจากภาคการส่งออกสินค้า 2.แรงงานในภาคอุตสาหกรรมมีความเสี่ยงตกงานหรือรายได้ไม่โต (3) ดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยอาจไม่กลับไปสูงเหมือนในอดีต สร้างแรงกดดันต่อค่าเงินบาทในระยะยาว

ทั้งนี้ สำหรับแนวทางออก KKPResearch แนะนำว่าผลกระทบด้านลบทั้งหมดนี้ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น หากแต่ต้องหานโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจเชิงโครงสร้าง (Supply-side structural reform policy) โดยดึงดูดการลงทุนใหม่ๆ ทั้งจากภายในและภายนอกประเทศที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับระดับการพัฒนาและจุดแข็งของเศรษฐกิจไทย เร่งเพิ่มศักยภาพของแรงงานให้มีความสามารถในการรองรับการผลิตที่ต้องใช้เทคโนโลยีมากขึ้น รวมไปถึงดึงดูดแรงงานที่มีทักษะจากต่างประเทศ เพื่อเพิ่มการจ้างงานและกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศอีกทั้งควรลดข้อจำกัดและกฎระเบียบในการทำธุรกิจ เพื่อเสริมให้ศักยภาพที่อ่อนแรงลงของเศรษฐกิจไทยให้ฟื้นกลับมาเติบโตได้ดีขึ้นในระยะยาว นอกจากนี้ ควรมีการประเมินและหาแนวทางบรรเทาผลกระทบต่ออุตสาหกรรมภายในประเทศ จากการแข่งขันทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม

** KKP Research **

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
13:18 น. สะพัดเมืองคอน!‘ชินวรณ์’นัดคุย‘พิพัฒน์-นาที’ จ่อโยกซบ‘ภูมิใจไทย’
13:13 น. 'เจมีไนน์–โฟร์ท'เสิร์ฟความฟินคู่จิ้นแฟนๆกรี๊ดสนั่น!ใจละลาย
13:09 น. ภาพยนตร์'ฟู้ดทรัค ลัก(รัก) หมูเด้ง'จัดรอบพิเศษส่งต่อความสุขอบอุ่นใจสู่ผู้พิการทางการเห็น
13:08 น. 'อนุทิน'ลุยถกภาคธุรกิจ ลั่นใจกว้างเดินหน้าต่อหมดถ้านโยบายดี
13:06 น. ‘ทัพภาค 1’เดือด! ประณาม‘ผู้นำกัมพูชา’เลิกหลบหลังผู้หญิง ยกระดับเสริมกำลัง‘บ้านหนองหญ้าแก้ว’
ดูทั้งหมด
ออกครบแล้ว! ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 กันยายน 2568
'เพลง ชนม์ทิดา'ร่ายความในใจ หลังถูกจับตาความสัมพันธ์'เป๊ก เศรณี'
‘ในหลวง-พระราชินี’ เสด็จฯทอดพระเนตรการแสดงกายกรรมจากจีน
'มล.รจนาธร'โพสต์ขอบคุณ'ลิซ่า ลลิษา' สวมจิวเวลรีแบรนด์ไทยในลุค After party Emmy Awards
(คลิป) 'ฮุนเซน' ออกโรงแจงด่วนกลางดึก ยึดทรัพย์ 'ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์' ในเขมร
ดูทั้งหมด
อลัชชีหุ้มจีวร
‘หนู-1’รัฐบาลชั่วคราวไม่ค้างคืน
ไทยต้องปรับปรุงด่วน ถ้ายังอยากอยู่ในสายตานักลงทุนโลก
หนึ่งวันพันเหตุการณ์
แลนด์บริดจ์ ยุคนายกฯอนุทิน
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

สะพัดเมืองคอน!‘ชินวรณ์’นัดคุย‘พิพัฒน์-นาที’ จ่อโยกซบ‘ภูมิใจไทย’

'อนุทิน'ลุยถกภาคธุรกิจ ลั่นใจกว้างเดินหน้าต่อหมดถ้านโยบายดี

ปรีวิว-ฟันธง! สาลิกาศึกหนักรับมือบาร์ซ่า

‘มาลี’แถอีก!ประณามเหตุปะทะ‘บ้านหนองหญ้าแก้ว’ โยนบาปไทยรุกล้ำ ละเมิดหยุดยิง

‘ไอซ์-ภาณุวัฒน์’ อุทิศร่างเป็น ‘อาจารย์ใหญ่’ในวันคล้ายวันเกิด

‘ปชป’เคาะเฟ้นเลือก‘หัวหน้าพรรค-กก.บห’ชุดใหม่ 18 ต.ค.นี้ อุบชื่อแคนดิเดตชิงตำแหน่ง

  • Breaking News
  • สะพัดเมืองคอน!‘ชินวรณ์’นัดคุย‘พิพัฒน์-นาที’ จ่อโยกซบ‘ภูมิใจไทย’ สะพัดเมืองคอน!‘ชินวรณ์’นัดคุย‘พิพัฒน์-นาที’ จ่อโยกซบ‘ภูมิใจไทย’
  • \'เจมีไนน์–โฟร์ท\'เสิร์ฟความฟินคู่จิ้นแฟนๆกรี๊ดสนั่น!ใจละลาย 'เจมีไนน์–โฟร์ท'เสิร์ฟความฟินคู่จิ้นแฟนๆกรี๊ดสนั่น!ใจละลาย
  • ภาพยนตร์\'ฟู้ดทรัค ลัก(รัก) หมูเด้ง\'จัดรอบพิเศษส่งต่อความสุขอบอุ่นใจสู่ผู้พิการทางการเห็น ภาพยนตร์'ฟู้ดทรัค ลัก(รัก) หมูเด้ง'จัดรอบพิเศษส่งต่อความสุขอบอุ่นใจสู่ผู้พิการทางการเห็น
  • \'อนุทิน\'ลุยถกภาคธุรกิจ ลั่นใจกว้างเดินหน้าต่อหมดถ้านโยบายดี 'อนุทิน'ลุยถกภาคธุรกิจ ลั่นใจกว้างเดินหน้าต่อหมดถ้านโยบายดี
  • ‘ทัพภาค 1’เดือด! ประณาม‘ผู้นำกัมพูชา’เลิกหลบหลังผู้หญิง ยกระดับเสริมกำลัง‘บ้านหนองหญ้าแก้ว’ ‘ทัพภาค 1’เดือด! ประณาม‘ผู้นำกัมพูชา’เลิกหลบหลังผู้หญิง ยกระดับเสริมกำลัง‘บ้านหนองหญ้าแก้ว’
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

หมุนตามทุน : เครือซีพีผนึกกำลัง..สร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)

หมุนตามทุน : เครือซีพีผนึกกำลัง..สร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)

17 ก.ย. 2568

หมุนตามทุน : กลุ่มเหล็ก...เดินหน้าหนุนกระทรวงอุตสาหกรรม

หมุนตามทุน : กลุ่มเหล็ก...เดินหน้าหนุนกระทรวงอุตสาหกรรม

10 ก.ย. 2568

หมุนตามทุน : สาเหตุที่ทำให้เศรษฐกิจเวียดนามเติบโตแซงหน้าไทย

หมุนตามทุน : สาเหตุที่ทำให้เศรษฐกิจเวียดนามเติบโตแซงหน้าไทย

3 ก.ย. 2568

หมุนตามทุน : ​ม.ค.-ก.ค.ต่างชาติเข้ามาลงทุน1.5 แสนล้านบาท 30%เข้าไปในพื้นที่EEC-ญี่ปุ่นยังคงยืนหนึ่ง

หมุนตามทุน : ​ม.ค.-ก.ค.ต่างชาติเข้ามาลงทุน1.5 แสนล้านบาท 30%เข้าไปในพื้นที่EEC-ญี่ปุ่นยังคงยืนหนึ่ง

27 ส.ค. 2568

หมุนตามทุน :  นักลงทุนสิงคโปร์ยกทัพเยือนไทย ผนึกกำลังด้านเศรษฐกิจรับมือกระแสโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลง

หมุนตามทุน : นักลงทุนสิงคโปร์ยกทัพเยือนไทย ผนึกกำลังด้านเศรษฐกิจรับมือกระแสโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลง

20 ส.ค. 2568

หมุนตามทุน : กรมโรงงานฯดึงเทคโนโลยี-นวัตกรรมขับเคลื่อนอุตสาหกรรม 4.0

หมุนตามทุน : กรมโรงงานฯดึงเทคโนโลยี-นวัตกรรมขับเคลื่อนอุตสาหกรรม 4.0

13 ส.ค. 2568

หมุนตามทุน :   ‘trump-effect’...เศรษฐกิจไทยรับไปเต็มๆในปี2569

หมุนตามทุน : ‘trump-effect’...เศรษฐกิจไทยรับไปเต็มๆในปี2569

6 ส.ค. 2568

หมุนตามทุน : ครึ่งปีต่างชาติลงทุนในไทย1แสนล้านบาท อยู่ในพื้นที่EECกว่า30%-ญี่ปุ่นยังครองแชมป์

หมุนตามทุน : ครึ่งปีต่างชาติลงทุนในไทย1แสนล้านบาท อยู่ในพื้นที่EECกว่า30%-ญี่ปุ่นยังครองแชมป์

30 ก.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved