วันพุธ ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์โลกธุรกิจ / หมุนตามทุน
หมุนตามทุน

หมุนตามทุน

วันพุธ ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2567, 02.00 น.
เร่งยกระดับSMEไทย...ผ่านกองทุนฯ2หมื่นล้าน

ดูทั้งหมด

  •  

nn อย่างที่ทราบกันว่ากลุ่มผู้ประกอบการSME นั้นมีสัดส่วนมากว่า 90% ของวิสาหกิจของไทยทั้งระบบ จึงถือว่าเป็นฐานรากที่สำคัญของระบบเศรษฐกิจไทย แต่ในขณะเดียวกันกลุ่มผู้ประกอบการ SME ของไทยกับอ่อนแอและเปราะบาง เพราะต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเข้าถึงแหล่งทุนในระบบ ความสามารถในการแข่งขันที่ลดลง ถูกสินค้านำเข้าจากจีนเข้ามาตีตลาด ขาดประสิทธิภาพในการผลิต ฯลฯ แต่ถึงกระนั้นก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ดูเหมือนว่าในเวลานี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมคนใหม่ กำลังหยิบเอาเรื่องของผู้ประกอบการSME ขึ้นมาเป็นวาระงานในลำดับต้นๆ

ล่าสุด นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการสั่งการให้เร่งช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี (SMEs) ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของเศรษฐกิจไทย ที่กระทรวงต้องการส่งเสริมสร้างโอกาส ให้ความสะดวก เติมทุนหนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ยกระดับธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคง ทั้งนี้จากสภาวะเศรษฐกิจไทยที่กำลังเผชิญความท้าทายรอบด้าน ส่งผลให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ปรับลดการคาดการณ์ GDP ปี 2567 เหลือเพียง 2-3% โดยภาคการท่องเที่ยวเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก ขณะที่ภาคอุตสาหกรรม ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่จึงได้สั่งการดังกล่าว


ขณะที่ นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า กองทุนฯ ได้ออกสินเชื่อ 2 โครงการเพื่อให้สอดรับกับนโยบายของ รมว.อุตสาหกรรม ที่ต้องการให้เอสเอ็มอีเข้าถึงสินเชื่อได้มากขึ้นประกอบด้วย 1.โครงการสินเชื่อเพื่อเพิ่มขีดความสามารถธุรกิจ (เสือติดปีก) เพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอีในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะด้านการพัฒนานวัตกรรม การปรับปรุงเทคโนโลยีและการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับเศรษฐกิจไทย

โดยมีกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ 1.เอสเอ็มอีที่ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมดีเด่น หรือผ่านการคัดเลือกรอบที่ 1 ของการประกวดรางวัลอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมดีเด่นจากกระทรวงอุตสาหกรรม ในระยะเวลา 3 ปีย้อนหลัง นับถึงวันที่ยื่นขอเข้าร่วมโครงการ 2.เอสเอ็มอีที่ได้รับการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพจากหน่วยงานของรัฐในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยหน่วยร่วมดำเนินการ หรือสถาบันเครือข่ายภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรม 3.เอสเอ็มอีที่ไม่ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมดีเด่น หรือการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพ แต่มีความประสงค์เข้ารับการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพตามที่กองทุนกำหนด

ทั้งนี้คุณสมบัติของผู้กู้ ประกอบด้วย เป็นเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพ และมีขนาดของกิจการตามที่กำหนด เป็นนิติบุคคลสัญชาติไทย ดำเนินกิจการมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี สามารถนับรวมประสบการณ์การบริหารธุรกิจของผู้บริหารได้ ไม่เป็น NPL หรือถูกดำเนินคดี ณ วันที่ยื่นขอเข้าร่วมโครงการมีประวัติการชำระหนี้ปกติ ณ วันที่ยื่นขอเข้าร่วมโครงการ ไม่ได้รับความช่วยเหลือด้านการเงินจากโครงการอื่นๆ ที่กำหนด สามารถยื่นความประสงค์ได้ทั้งลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่

“รูปแบบการให้สินเชื่อนั้น จะมีกรอบวงเงินรวม 1,200 ล้านบาท วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 15 ล้านบาทต่อราย และเป็นเงินกู้ระยะยาว อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3-5% ต่อปี
(ขึ้นอยู่กับหลักประกัน) ระยะเวลากู้สูงสุด 10 ปี ปลอดชำระคืนเงินต้นสูงสุด 12 เดือน มีหลักประกัน เช่น ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง เครื่องจักร หรือหลักประกันทางธุรกิจหรือมีบุคคลค้ำประกัน”

2.โครงการสินเชื่อเสริมสภาพคล่องธุรกิจ (คงกระพัน) เพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอีในการรักษาสภาพคล่องทางธุรกิจ และเสริมความแข็งแกร่งให้สามารถฟันฝ่าวิกฤตทางเศรษฐกิจได้ โดยกลุ่มเป้าหมายและคุณสมบัติของผู้กู้ มีลักษณะเดียวกันกับโครงการสินเชื่อเพื่อเพิ่มขีดความสามารถ (เสือติดปีก)ภายใต้กรอบวงเงินรวม 700 ล้านบาท วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาทต่อราย เป็นเงินกู้ระยะยาว อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5-7% ต่อปี(ขึ้นอยู่กับหลักประกัน) ระยะเวลากู้สูงสุด 3 ปีมีหลักประกัน เช่น ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง เครื่องจักรหรือหลักประกันทางธุรกิจ หรือบุคคลค้ำประกัน

“โครงการสินเชื่อเสือติดปีกเปรียบเสมือนการติดปีกให้กับเอสเอ็มอี พัฒนาให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันที่สูงขึ้น เป็นสินเชื่อที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจไทย ขณะที่โครงการสินเชื่อคงกระพันเปรียบเสมือนการเสริมเกราะป้องกันให้กับเอสเอ็มอี พัฒนาให้เข้มแข็งและสามารถผ่านพ้นวิกฤตได้ เป็นสินเชื่อที่ซ่อมแซมและฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย โดยสินเชื่อดังกล่าวของกระทรวงถือว่าเป็นที่แรก และที่เดียวที่เปิดโอกาสให้เอสเอ็มอีที่ได้รับรางวัลสามารถนำมาใช้ในการประกอบการพิจารณาขอเสนอชื่อได้ โดยมองว่ากลุ่มธุรกิจดังกล่าวมีความเก่ง และแนวโน้มของธุรกิจน่าจะไปได้ ซึ่งนำมาเป็นตัวอย่างให้กับเอสเอ็มอีรายอื่นในประเทศได้”นายณัฐพลกล่าว

นอกจากนี้ ทั้ง 2 โครงการยังมีการปรับปรุงหลักเกณฑ์ คุณสมบัติและหลักประกันให้เอื้อกับเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพบางกลุ่มที่ยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งทุนจากสถาบันการเงินปกติ สามารถเข้ามาขอรับสินเชื่อกับกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐได้ง่ายขึ้น รวมทั้งมีกลไกของหน่วยงานของรัฐ และสถาบันเครือข่ายภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรม ที่คอยรับรองและสนับสนุนตลอดการขอรับสินเชื่อเพื่อสร้างความมั่นใจในการเติบโตและก้าวไปข้างหน้าของเอสเอ็มอี

นายณัฐพล กล่าวว่า กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีฯ มีเงินหมุนเวียนอยู่ประมาณ20,000 ล้านบาท โดยตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบันมีการปล่อยสินเชื่อแล้ว 25,400 ล้านบาทซึ่งสามารถช่วยเอสเอ็มอีได้ 13,670 ราย สร้างมูลค่าเศรษฐกิจ 36,000 ล้านบาทโดยมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอล (NPL) ประมาณ 15.8%

กระบองเพชร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
22:13 น. ‘สธ.’ส่งยาเวชภัณฑ์ ชุดยาสามัญประจำบ้าน 15,000 ชุด ช่วยเหลือประชาชนพื้นที่น้ำท่วม
22:01 น. ‘ชัยภูมิ’รวมใจ! พอ.สว.ลำดับ46 ออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่‘พระพันปีหลวง’
21:46 น. ‘สืบปัว’รวบคากุฏิ-จับสึกพระเสพยาบ้า
21:37 น. สมเด็จเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ทรงเปิดงาน 'Kraam International Symposium 2025'
21:31 น. ‘ททท.ระยอง’เร่งเครื่องลุย 5 โครงการ ดันยอดนักท่องเที่ยว 6.5 ล้านปลายปีนี้
ดูทั้งหมด
การทูตหยุดโลก 'อ.ธรณ์'ชี้ความสำคัญ ในหลวงเสด็จเยือนจีน
ยูเนสโกประกาศยกย่อง 'ในหลวงรัชกาลที่ 9' และ 'สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ'
เบื้องหลังฉลองพระองค์ 'สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี'
แรงมากแม่! 'เพลง ชนม์ทิดา'โพสต์สตอรี่ปริศนาพูดถึงเวรกรรม
กลับถึงไทยแล้ว! นักศึกษาไทยป่วยโคม่าในเกาหลีใต้ หลังนางเอก'แดจังกึม'ยื่นมือเข้าช่วย
ดูทั้งหมด
การกลับมาของสภาพคล่องโลกหลัง Government Shutdown สหรัฐฯ - จะเป็นตัวเร่งรอบใหม่ของตลาดคริปโตหรือไม่?
ชะตาชีวิตของ‘ทักษิณ’
เทศกาลลอยกระทง...ขยะที่ลอยไม่ไปไหน กับปัญหาคอร์รัปชันที่ยังไม่จมหาย
3 หลี่ กงกง
1.76 หมื่นล้านบาท ทำไมทักษิณต้องจ่ายภาษีขายหุ้นชินฯ
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

สมเด็จเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ทรงเปิดงาน 'Kraam International Symposium 2025'

ชาวเน็ตแซะ'ไม่อายเหรอ' ดส.บุกค้นบาร์โฮสรัชดา 18 ยึดของกลางแค่เหล้า 1 ขวด

'วุ้นเส้น'มาเอง!! ยันไม่ใช่ดาราตัวแม่เบี้ยวหนี้แก๊งเพื่อน 400 ล้าน

‘อุทยานแห่งชาติภูเวียง-12 หน่วยงาน’คว้ารางวัล‘สุดยอดส้วมสาธารณะแห่งปี 2568 ระดับประเทศ’

จิตอาสา ปตท.สผ. ร่วมเปลี่ยนขยะให้มีคุณค่า สร้างประโยชน์แก่ชุมชน

ผีกระสือเขมร! พบดวงไฟปริศนาคล้ายใบหน้าคน ลอยเหนือ'ผามะนาว'สุรินทร์

  • Breaking News
  • ‘สธ.’ส่งยาเวชภัณฑ์ ชุดยาสามัญประจำบ้าน 15,000 ชุด ช่วยเหลือประชาชนพื้นที่น้ำท่วม ‘สธ.’ส่งยาเวชภัณฑ์ ชุดยาสามัญประจำบ้าน 15,000 ชุด ช่วยเหลือประชาชนพื้นที่น้ำท่วม
  • ‘ชัยภูมิ’รวมใจ! พอ.สว.ลำดับ46 ออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่‘พระพันปีหลวง’ ‘ชัยภูมิ’รวมใจ! พอ.สว.ลำดับ46 ออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่‘พระพันปีหลวง’
  • ‘สืบปัว’รวบคากุฏิ-จับสึกพระเสพยาบ้า ‘สืบปัว’รวบคากุฏิ-จับสึกพระเสพยาบ้า
  • สมเด็จเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ทรงเปิดงาน \'Kraam International Symposium 2025\' สมเด็จเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ทรงเปิดงาน 'Kraam International Symposium 2025'
  • ‘ททท.ระยอง’เร่งเครื่องลุย 5 โครงการ ดันยอดนักท่องเที่ยว 6.5 ล้านปลายปีนี้ ‘ททท.ระยอง’เร่งเครื่องลุย 5 โครงการ ดันยอดนักท่องเที่ยว 6.5 ล้านปลายปีนี้
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

หมุนตามทุน : ภาคเอกชน..สุดทนปัญหาคอรัปชั่น ผนึกกำลังหลายภาคส่วนตั้งทีมปราบโกง

หมุนตามทุน : ภาคเอกชน..สุดทนปัญหาคอรัปชั่น ผนึกกำลังหลายภาคส่วนตั้งทีมปราบโกง

19 พ.ย. 2568

หมุนตามทุน : วัสดุก่อนสร้าง-ค่าแรงพุ่ง ดันดัชนีราคาก่อสร้างQ3เพิ่มขึ้น

หมุนตามทุน : วัสดุก่อนสร้าง-ค่าแรงพุ่ง ดันดัชนีราคาก่อสร้างQ3เพิ่มขึ้น

12 พ.ย. 2568

หมุนตามทุน : สมาคมการค้าเหล็กทรงยาวมาตรฐาน…วอนรัฐคุมเข้มมาตรฐาน มอก

หมุนตามทุน : สมาคมการค้าเหล็กทรงยาวมาตรฐาน…วอนรัฐคุมเข้มมาตรฐาน มอก

5 พ.ย. 2568

หมุนตามทุน : อะไรที่ไทยควรทำกับเรื่อง “เหมือง Rare Earths”

หมุนตามทุน : อะไรที่ไทยควรทำกับเรื่อง “เหมือง Rare Earths”

29 ต.ค. 2568

หมุนตามทุน : ราคาทองคำยังไปต่อ...แต่นักลงทุนต้องระวังจังหวะย่อตัว

หมุนตามทุน : ราคาทองคำยังไปต่อ...แต่นักลงทุนต้องระวังจังหวะย่อตัว

22 ต.ค. 2568

หมุนตามทุน : ภาษีเหล็ก 50% ของสหรัฐฯ...กระทบไทยหนัก

หมุนตามทุน : ภาษีเหล็ก 50% ของสหรัฐฯ...กระทบไทยหนัก

15 ต.ค. 2568

หมุนตามทุน : ยังพอลงทุนได้อีกหรือเปล่า???

หมุนตามทุน : ยังพอลงทุนได้อีกหรือเปล่า???

8 ต.ค. 2568

หมุนตามทุน : จับตา...อนาคตอุตสาหกรรมไทย

หมุนตามทุน : จับตา...อนาคตอุตสาหกรรมไทย

1 ต.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved