วันอาทิตย์ ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
บริษัทหลักทรัพย์(บล.) เคจีไอ(ประเทสไทย) วิเคราะห์หุ้น บริษัทกรุงเทพดุสิตเวชกา รหรือ BDMS
เราคาดว่ากำไรสุทธิ1Q68F จะอยู่ที่ 4.38 พันล้านบาท (+7.6% YoY, +1.1% QoQ) เมื่ออิงตามประมาณการของเรา กำไรสุทธิ1Q68F จะคิดเป็น 25.4% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเราที่ 1.72 หมื่นล้านบาท (+7.9% YoY) ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งจะมาจาก i) จำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น ทั้งไทยและต่างชาติ (จากตะวันออกกลาง, ยุโรป และ CLMV) ii) จำนวนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ที่เพิ่มขึ้นในเดือนมกราคม และ iii) สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากการประหยัดพลังงานซึ่งได้รับจากสิทธิประโยชน์ BOI ทำให้อัตราภาษีเหลือ 17% (จาก 20% ใน 1Q67) ในกรณีของ BDMS ผลกระทบจากการที่ผู้ป่วยชาวคูเวตหายไปจะน้อยมากเพราะฐานผู้ป่วยกระจายตัวดี โดยผู้ป่วยชาวคูเวตคิดเป็นเพียง 0.7% ของรายได้รวม สำหรับผลการดำเนินงาน 1Q68 เราคาดว่าจะได้รับผลกระทบบ้างจากเทศกาลรอมฎอนระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 30 มีนาคม แต่โดยสรุปคาดว่าสัดส่วนผู้ป่วยจะเป็นชาวไทย 69% และต่างชาติ 31% (จาก 70:30 ใน 1Q67 และ 4Q67) เราคาดว่ารายได้จะอยู่ที่ 2.71 หมื่นล้านบาท (+6.0% YoY, +2.1% QoQ) อัตรากำไรขั้นต้นจะอยู่ที่ 34.8% (จาก 34.4% ใน 1Q67 และ 35.3% ใน 4Q67) โดย margin ที่เพิ่มขึ้น YoY จะเป็นเพราะจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น (รวมถึงผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่) ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลง QoQ จะเป็นเพราะ intensity ของผู้ป่วยลดลงใน 1Q68
เราคาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้น 7% YoY ในอีกสองสามปีข้างหน้าจากการเติบโตของผู้ป่วยต่างชาติและ platform ที่แข็งแกร่งในการรักษาโรคที่มี intensity สูงที่ศูนย์การแพทย์แห่งความเป็นเลิศ (Center of Excellence หรือ CoE) ของ BDMS ทั้งนี้ รายได้และ EBITDA จาก CoE คิดเป็น 57% และ 60% ของรายได้ และ EBITDA รวมในปี 2567 ส่วนกรณีประกันแบบ Co-payment เราคาดว่าการเริ่มใช้นโยบายนี้ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคมจะส่งผลกระทบกับ BDMS ไม่มากนัก เพราะผู้ป่วยกลุ่มนี้คิดเป็นเพียง 1% ของรายได้รวม เราคาดว่ากำไรสุทธิในปี 2568F จะอยู่ที่ 1.72 หมื่นล้านบาท (+7.9% YoY) และในปี 2569F จะอยู่ที่ 1.96 หมื่นล้านบาท (+13.5% YoY)
เราชอบ BDMS เพราะ i) กำไรมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องหลังจากที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ในปี 2567 ii) อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล >3% ต่อปี iii) สถานะทางการเงินแข็งแกร่ง โดยเกือบจะมีสถานะเงินสดสุทธิ iv) คาดว่า ROE อยู่ที่ 16.8% ในปี 2568F และ 18.2% ในปี 2569F ดังนั้น เราจึงยังคงเลือก BDMS เป็นหนึ่งในหุ้นเด่นของเรา และยังคงคำแนะนำซื้อ โดยประเมินราคาเป้าหมาย DCF ปี 2568F ที่ 39.0 0บาท
ปัจจัยเสี่ยงจากการเกิดโรคระบาด, ปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองไทยรอบใหม่, และ เกิดเหตุก่อการร้ายครั้งใหญ่
ที่มา..บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)

'สกลธี'ถามแทนใจคนกรุงฯ เมื่อไหร่ค่าโดยสารรถไฟฟ้าจะ 25-30 บาท!?
‘โรม’แบไต๋ซักฟอกอาจไม่ต้องรอลุ้นถึงม.ค.69 บี้ถาม ‘พท.’ จี้จุดเยื่อใย ‘ธรรมนัส’
'พล.ม.2 รอ.'ลงพื้นที่เร่งช่วยเหลือปชช. หลังสถานการณ์น้ำท่วมอยุธยาคลี่คลาย
เดินตามรอยพระบาท 'ถ้ำพระยานคร' สืบสานพระราชปณิธานสีเขียวของสมเด็จพระพันปีหลวง
ทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง! ‘อ.ไชยันต์’หนุนรัฐสางปม ใครคือคนสั่งทหารยิงคนในวัดปทุมฯ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี