“คุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้น”

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) วิเคราะห์หุ้น บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ หรือ AEONTS คาดว่ากำไรใน 2Q68F จะอยู่ที่ 835 ล้านบาท (+8% QoQ, +2% YoY), +19% ในงวด 1H68F ประมาณการกำไรของเราสะท้อนถึง 1.) สินเชื่อที่หดตัว -1% QoQ และ -4% YoY เนื่องจากมีการชำระคืนเงินกู้สินเชื่อบัตรเครดิต 2.) กำไรจากการขาย NPL/NPA ประมาณ 150 ล้านบาทใน 2Q68 (จาก 170 ล้านบาทใน 2Q67) 3.) ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น +5% QoQ และ +2% YoY 4.) credit cost ลดลงเป็น  7.7% ใน 2Q68F (จาก 7.9% ใน 1Q68 และ 8.7% ใน 2Q67)

คุณภาพสินทรัพย์มีเสถียรภาพขึ้น

NPL มีแนวโน้มจะลดลงเล็กน้อยประมาณ -2% QoQ ใกล้เคียงกับแนวโน้มในช่วงสองไตรมาสที่ผ่านมา โดยสัดส่วน NPL ผ่านจุดสูงสุดไปแล้วที่ 5.8% ใน 2Q67 และ น่าจะลดลงเป็น 5% ใน 2Q68F (จาก 5.1% ใน 1Q68) ทั้งนี้ บริษัทบอกว่า NPL ที่ลดลงสะท้อนถึงการขยายสินเชื่ออย่างระมัดระวัง ซึ่งทำให้สินเชื่อหดตัวลง และ ยอดเก็บเงินสดจากลูกค้าเดิมดีขึ้น

คชจ.สำรองฯ (Credit cost) ยังคงลดลง

AEONTS ลด credit cost ลงเนื่องจาก NPL มีแนวโน้มลดลงใน 2Q67 ซึ่งบ่งชี้ว่า credit cost ผ่านช่วง peak ไปแล้ว เราใช้สมมติฐานว่า credit cost จะลดลงเป็น 7.7% ใน 2Q68 เพราะ credit cost ที่ 7.95% ใน 1Q68 สูงกว่า credit cost ปกติ และ การกำหนด credit cost ในจำนวนเท่านั้นทำให้สำรอง overlay และ NPL เพิ่มขึ้น

เราคิดว่าสินเชื่อที่ชะลอตัวจะทำให้บริษัทไม่จำเป็นต้องใช้ค่าใช้จ่ายด้านการตลาดทำให้เราปรับลดประมาณการค่าใช้จ่ายการตลาดลง 2% และ ปรับลดสัดส่วน C/I ลงเป็น 38% เนื่องจาก AEONTS  ยังคงมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าระดับล่าง เราจึงคาดว่านโยบายประชานิยมที่มุ่งอัดฉีดเงินให้กับกลุ่มเศรษฐกิจรากหญ้า และ นโยบาย “คนละครึ่ง” จะช่วยเพิ่มความสามารถในการชำระหนี้ และ ลดแรงกดดันในด้านของ credit cost ลง ซึ่ง ณ ระดับนี้ เรายังคงประเมินราคาหุ้นโดยอิงจาก PE ที่ 9.5x ทำให้ได้ราคาเป้าหมายปี 2568F ใหม่ที่ 121 บาท (เพิ่มขึ้นจาก 110 บาท) โดยยังคงคำแนะนำถือ

ปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า, NPLs เพิ่มขึ้น

ที่มา..บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)