“กำไรหลักมีแนวโน้มแข็งแกร่งขึ้น”
บริษัทหลักทรัพย์(ล.)เคจีไอ(ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้นบริษัทออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ หรือ ORIปัจจุบันมีพอร์ตสินทรัพย์1.17 หมื่นล้านบาทประกอบด้วยโรงแรม 10 แห่ง คลังสินค้า 12 แห่งมูลค่า 9.8 พันล้านบาทภายใต้โครงการร่วมทุน (JV) กับ SCGJWD Logistics (SJWD) ใน 3Q68F บริษัทขายโรงแรม Intercontinental Sukhumvit มูลค่า 800 ล้านบาทจะรับรู้กำไรหลังหักภาษี230 ล้านบาทส่วน4Q68F กำลังพิจารณาขายโรงแรม Staybridge Suites Thonglor และ 1 คลังสินค้าที่เป็น JV กับ SJWD มูลค่า700 ล้านบาทมองไปปี 2569F มีแผนจะขายโรงแรม Staybridge Sukhumvit 24 มูลค่า 700 ล้านบาทใน 1Q69F และคลังสินค้าที่ JV กับ SJWD อีก 3 แห่งรวม 500 ล้านบาท ดอกเบี้ยขาลงน่าจะช่วยเพิ่มราคาสินทรัพย์มีโอกาสได้กำไรมากขึ้น
ยอดขายรอโอน( backlog) ณ สิ้น 2Q68 สูงสุดในบรรดาบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำอยู่ที่ 4.3 หมื่นล้านบาท โครงการคอนโดฯใหม่ 4 แห่งรวม 3.4 พันล้านบาท โครงการคอนโด ฯ ร่วมทุนใหม่ 4 แห่งมูลค่า 6 พันล้านบาทด้วย backlog ราว 7.3 พันล้านบาทที่รอโอนและรับรู้เป็นรายได้ใน 2H68F และอีก 1.2 หมื่นล้านบาทจาก 5 โครงการคอนโด ฯ ใหม่ของORIมูลค่า 7.8 พันล้านบาทอีก 7 โครงการภายใต้ JV มูลค่า 8.9 พันล้านบาทสำหรับการโอนในปี 2569F เพื่อขยายฐานลูกค้าORIกำลังมุ่งเน้นที่ผู้ซื้อต่างชาติที่มี backlog ราว 6.4 พันล้านบาท, การขายแบบเหมารวม 2 พันล้านบาทและคอนโดที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้ 25 โครงการ นอกจากนี้วางแผนที่จะรักษาสัดส่วนโครงการที่อยู่อาศัยในจังหวัดอื่นๆนอกกรุงเทพฯและปริมณฑลไว้ที่ +/-20%บริษัทฯมีบ้านคงค้างมูลค่าสูงถึง 7.5 หมื่นล้านบาทการเปิดโครงการใหม่ต่อปีจึงน่าจะลดเหลือ+/-1.5 หมื่นล้านบาทจากค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปีอยู่ที่ 3.5 หมื่นล้านบาท
เราประเมินรายได้จากการขายบ้านปี 2568F ที่ 7.3 พันล้านบาทปี 2569F ราว 8 พันล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากยอดโอนคอนโด ฯ อัตรากำไรขั้นต้นแข็งแกร่งขึ้นโดยเกิน 30% ส่วนรายได้ที่ไม่ใช่จากการขายบ้านคาดทรงตัวราว 2.8-3.0 พันล้านบาทต่อปีช่วงปี 2568F-2569F (เทียบกับเฉลี่ยราว 3.8 พันล้านบาทช่วงปี 2565-2567) จากการลดลงของค่าธรรมเนียมบริหารโครงการตามการร่วมทุนใหม่ที่มีน้อยลง เราคาดกำไรจากการขายสินทรัพย์ปี2568F ที่ 400 ล้านบาทมาจากการขายสินทรัพย์ 1.5 พันล้านบาท และที่ 300 ล้านบาท ปี 2569 จากการขายสินทรัพย์ 1.2 พันล้านบาท กำไรสุทธิเราคาดราว 1 พันล้านบาทต่อปีช่วงปี 2568F-2569F กำไรปกติปี 2568F อาจชะลอตัวแต่กำไรปี 2569F น่าจะโต 16% YoY ดอกเบี้ยขาลงน่าจะเป็นประโยชน์เพราะมีหนี้สินต่อทุนปี 2568F สูงถึง 1.7x
เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ORI ราคาเป้าหมาย 3.30 บาท
ปัจจัยเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอ โอกาสมีนโยบายกระตุ้นจากภาครัฐ การให้สินเชื่อมีความเข้มงวดมากขึ้นท่ามกลางภาวะหนี้สิ้นภาคครัวเรือนสูงยืดเยื้อรวมทั้งการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ
ที่มา..บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี