“ธุรกิจค้าปลีกน้ำมันมีแนวโน้มสดใส”
บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้นบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยีหรือ PTGเรามองบวกกับแนวโน้มธุรกิจค้าปลีกน้ำมันในประเทศไทย เนื่องจากคาดว่าค่าการตลาดน้ำมันดีเซลจะขยับเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทั้งนี้สถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนกลุ่มน้ำมันพลิกจากลบมาเป็นบวกได้ตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม โดย ณ วันที่ 14 กันยายน กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนกลุ่มน้ำมันมีสถานะเป็นบวกอยู่ 2.19 หมื่นล้านบาท ซึ่งผู้บริหาร PTG บอกว่าถ้าหากสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนกลุ่มน้ำมันเป็นบวกที่ระดับ 3-4 หมื่นล้านบาทเหมือนเมื่อปี 2562-2563 กระทรวงพลังงานอาจจะพิจารณาผ่อนคลายความเข้มงวดในการควบคุมค่าการตลาดน้ำมันดีเซลลง ซึ่งเมื่ออิงจากกระแสเงินสดที่ไหลเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนกลุ่มน้ำมันประมาณสัปดาห์ละ 1.0 พันล้านบาท เราประเมินว่ากองทุนจะมีสถานะเป็นบวกเกิน 3 หมื่นล้านบาทได้ภายในอีกสองเดือนข้างหน้า
เราคาดว่ากำไร PTG ใน 3Q68F จะเพิ่มขึ้น YoY เพราะคาดว่าค่าการตลาดน้ำมันจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.75 บาท/ลิตร ใน 3Q68F (+6% YoY) ซึ่งจะเป็นไปตามเป้าของผู้บริหารที่ 1.70-1.80 บาท/ลิตร แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบ QoQ เราคาดว่ากำไรจะลดลง QoQ เพราะคาดว่าปริมาณยอดขายน้ำมันจะลดลง 4%-6% QoQ ในช่วงหน้างฝน แม้ว่าค่าการตลาดน้ำมันของ PTG จะเพิ่มขึ้น 5% QoQ เป็น 1.75 บาท/ลิตร ใน 3Q68F ขณะเดียวกันเราคาดว่ากำไรจากธุรกิจที่ไม่ใช้น้ำมันจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย QoQ จากยอดขายกาแฟที่แข็งแกร่งขึ้นและการขยายสาขาร้านกาแฟพันธุ์ไทย ซึ่งมีการเปิดสาขาใหม่ 295 ร้านในงวด 1H68 (+22% HoH) และบริษัทมีแผนจะเปิดเพิ่มอีก 305 ร้านในงวด 2H68F (+19% HoH)
เราขยับไปใช้ราคาเป้าหมายใหม่ปี 2569F ที่ 10.30 บาท เพิ่มจากเดิมที่ 8.50 บาท เพื่อสะท้อนถึงแนวโน้มที่เป็นบวกของอุตสาหกรรมค้าปลีกน้ำมันในประเทศไทย หลังจากที่สถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนกลุ่มน้ำมันพลิกจากลบมาเป็นบวกได้ตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม 2568 นอกจากนี้ยังมองบวกมากขึ้นกับแนวโน้มธุรกิจค้าปลีกน้ำมันหลังจากที่มีการแต่งตั้งรมว.พลังงานคนใหม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ นักลงทุนบางส่วนเป็นห่วงเกี่ยวกับความไม่แน่นอนในประเด็นการกำกับดูแล เพราะรัฐมนตรีคนที่แล้วเตรียมร่างกฎหมายคุมราคาน้ำมันโดยไม่ได้ยึดหลักตลาดเสรีอย่างเต็มที่ ขณะที่เรายังคงประมาณกำไรสุทธิปี 2569F ไว้เท่าเดิมที่ 1.4 พันล้านบาท โตขึ้นเนื่องจากคาดค่าการตลาดน้ำมันดีขึ้นอยู่ที่ 1.73 บาท/ลิตร (+3% YoY)
ปัจจัยเสี่ยงจากความผันผวนของค่าการตลาดน้ำมัน, ปริมาณยอดขายน้ำมัน, ปริมาณยอดขาย LPG, ปริมาณยอดขายไบโอดีเซล และยอดขายร้านสะดวกซื้อ Max Mart
ที่มา..บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี