“กำไรชะลอตัวจากพรีเซลซบเซา”
บริษัทหลักทรัพย์(บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) วิเคราะห์หุ้น บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ หรือ LH เราประเมินพรีเซล 3Q68F ของ LH ว่าน่าจะอ่อนตัวลงที่ 3.3 พันล้านบาท (-27% QoQ และ -31% YoY) พรีเซลโครงการแนวราบน่าจะเหลือ 2.9 พันล้านบาท (-35% QoQ) จากไม่มีการเปิดโครงการใหม่และอุปสงค์ที่อยู่อาศัยระดับบนชะลอลง (66% ของโครงการที่ดำเนินการอยู่) สวนทางกับ พรีเซลคอนโดมิเนียมที่อาจฟื้นตัวแรงที่ 420 ล้านบาท จากจุดต่ำสุดที่ 58 ล้านบาท ใน 2Q68 พรีเซลสะสม 9M68F น่าจะอยู่ราว 1.15 หมื่นล้านบาท (-23% YoY) คิดเป็น 50% จาก guidance ทั้งปีของบริษัท
สมมติว่าไม่มีการขายที่ดินเปล่าเหมือนใน 2Q68 รายได้จากการขายบ้าน 3Q68F น่าจะชะลอตัวลงที่ 3 พันล้านบาท (-26% QoQ) ด้วยอัตรากำไรขั้นต้น (gross margin) คงที่ราว 25% อีกทั้งรายได้จากส่วนผู้ถือหุ้น (equity accounted income) อาจอ่อนตัวลงในช่วงโลว์ซีซั่น กรณีที่ไม่มีกำไรพิเศษ เราคาดว่ากำไร 3Q68F จะเป็นจุดต่ำสุดใหม่ที่ 635 ล้านบาท (-2% YoY และ -54% QoQ) ทำให้กำไร 9M68F น่าจะอยู่ราว 2.85 พันล้านบาท (-2% YoY) คิดเป็น 76% ของการคาดการณ์ทั้งปีของเรา
หากเป็นไปได้ที่จะมีการขายทรัพย์สินใน 4Q68F กำไรก็น่าจะดีขึ้น QoQ แต่ยังลดลงอย่างมีนัยยะ YoY เพราะได้กำไรจากการขายทรัพย์สินน้อยกว่า 4Q67 ขณะที่ยังได้วางแผนจะเปิดโครงการบ้านใหม่หนึ่งโครงการ คือ โครงการนันทวัน ราชพฤกษ์ มูลค่า 2.2 พันล้านบาท และโรงแรมแกรนด์ เซ็นเตอร์ พอยต์ เพรสทีจที่ 509 ห้อง ภายในสิ้นปี 2568 ส่วนปีหน้าเราคาดว่ายอดขายบ้านจะโตเล็กน้อย แต่รายได้จากโรงแรมและบริการน่าจะเร่งตัวเพิ่มขึ้นที่ 10% YoY แม้ว่ารายได้หลักจะโตเป็นตัวเลขหลักเดียว แต่กำไรอาจเพิ่มขึ้นราวสิบต้นๆ YoY เพราะมีโอกาสได้ margin สูงขึ้น เราสมมติว่ากำไรจากการขายทรัพย์สินปี 2568F-69F ทรงตัวราว 800 ล้านบาทต่อปี นอกจากนั้น อพาร์ตเมนต์สามแห่งในสหรัฐอเมริกาและโรงแรมหนึ่งแห่งในไทยของ LH มีกำหนดขายในปี 2568F และ 2568F ตามลำดับ
เราปรับลดกำไรปี 2568F-69F ลงราว 4% ในแต่ละปี โดยที่คาดกำไรปีหน้าจะฟื้นตัว 10% YoY ที่ 4.1 พันล้านบาท จากฐานกำไรปี 2568F ต่ำที่ 3.76 พันล้านบาท (-32% YoY) ขณะที่ราคาเป้าหมาย SOTP ใหม่ของเราลดลงเหลือ 4.10 บาท (จากธุรกิจหลัก 1.0 บาท และธุรกิจการลงทุนอีก 3.10 บาท) จากเดิม 4.30 บาท ทั้งนี้เรายังคงคำแนะนำ “ถือ” LH
ปัจจัยเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอ โอกาสมีนโยบายกระตุ้นจากภาครัฐ การให้สินเชื่อมีความเข้มงวดมากขึ้น ท่ามกลางภาวะหนี้สินภาคครัวเรือนสูงยืดเยื้อ รวมทั้งการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ
ที่มา..บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี