“4Q68F: จะเป็นอีกไตรมาสที่กำไรแผ่ว”
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) วิเคราะห์หุ้น บริษัท ท่าอากาศยานไทย หรือ AOT เราคาดว่ากำไรสุทธิ 4Q68F จะอยู่ที่ 3.66 พันล้านบาท (-14.4% YoY, -5.4% QoQ) ทำให้กำไรสุทธิปี FY68F อยู่ที่ 1.79 หมื่นล้านบาท (-6.6% YoY) เมื่ออิงจากประมาณการกำไรใน 4Q68F เราคาดว่ากำไรสุทธิปี FY68F จะต่ำกว่าประมาณการกำไรเต็มปีของเรา 5.9% โดยใน 4Q68F เราคาดว่าจำนวนผู้โดยสารทั้งหมดจะอยู่ที่ 28.75 ล้านคน (-1.4% YoY, -0.3% QoQ) ขณะที่คาดว่าจำนวนเที่ยวบินทั้งหมดจะอยู่ที่ 185,833 เที่ยว (+0.9% YoY, -1.1% QoQ) เราคาดว่ารายได้จะอยู่ที่เกือบๆ 1.54 หมื่นล้านบาท (-8.0% YoY, +0.6% QoQ) ส่วน EBIT margin น่าจะยังต่ำโดยอยู่ที่ 31.0% จาก 35.5% ใน 4Q67 และ 30.6% ใน 3Q68 สรุปแล้ว เราคาดว่าผลการดำเนินงาน 4Q68F จะดูไม่น่าตื่นเต้นเนื่องจากเป็นช่วงที่การท่องเที่ยวไทยชะลอตัวตามฤดูกาล ซึ่งจะกดดันรายได้จากทั้งธุรกิจการบินและ ไม่ใช่การบินใน 4Q68F
ปัจจัยที่จะส่งผลต่อประมาณการกำไรระยะยาว
(+/0) ข้อสรุปของสัญญา King Power AOT เพิ่งได้รับผลการศึกษาเกี่ยวกับการปรับสัญญา KP ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเดือนตุลาคม ซึ่งอาจจะออกมาดีกว่าที่เราคาดไว้ (จากส่วนแบ่งรายได้ 20% ในปี FY69F)
(+) การขึ้นค่า PSC เราคิดว่ากำไรของ AOT จะถูกขับเคลื่อนโดยการปรับขึ้นค่าบริการผู้โดยสาร (PSC) เพราะสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) น่าจะอนุญาตให้ AOT ปรับขึ้น PSC ทั้งในเส้นทางระหว่างประเทศและในประเทศได้ในระยะยาว เพื่อสะท้อนถึงการลงทุนในสนามบินที่อยู่ภายใต้การบริหารของ AOT ให้ได้ตามมาตรฐานโลก ทั้งนี้ AOT ได้ยื่นเรื่องให้ CAAT พิจารณาแล้ว โดยเราคาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนตุลาคมหรือพฤศจิกายน นอกจากนี้เราคาดว่าน่าจะเห็นผลบวกต่อประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายจากปี FY69F เป็นต้นไป
เราคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยใน 4Q68 จะเร่งตัวขึ้น QoQ เพราะเป็นฤดูท่องเที่ยวของไทยเมื่อพิจารณาจากสถิติของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จำนวนนักท่องเที่ยวจีนช่วงวันที่ 29 กันยายน-5 ตุลาคมสูงถึง 132,021 คน เพิ่มขึ้น 67.0% WoW จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 79,047 คนขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ YTD อยู่ที่ 24.57 ล้านคน (-7.5% YoY) เรายังคงประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้ไว้ที่ 34.1 ล้านคน (-3.9% YoY) และปี 2569F ที่ 35.5 ล้านคน (+4.1% YoY)
เรายังคงประมาณการกำไรปี FY68F และ FY69F เอาไว้เท่าเดิม โดยมองว่ายังมี upside จากการปรับขึ้นค่า PSC ดังนั้น เราจึงยังคงคำแนะนำถือ และประเมินราคาเป้าหมาย DCF ปี FY69F ที่ 34.00 บาท
ปัจจัยเสี่ยงจากสภาพคล่องของ King Power, เกิดโรคระบาด, เศรษฐกิจถดถอย และ ความไม่สงบทางการเมืองของไทย
ที่มา..บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี