วันศุกร์ ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์ออนไลน์ / ไม้หน้าสาม
ไม้หน้าสาม

ไม้หน้าสาม

โดย...วรพจน์ แสนประเสริฐ
วันเสาร์ ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2560, 02.00 น.
ชำแหละกำพืดอั้งยี่ “ชินวัตร” เชื้อ “อัปรีย์” ไม่เคยตาย!!

ดูทั้งหมด

  •  

                    ผายลมสะบัดก้นหนีไปยังมิทางหายเหม็น!!

                    โคตรเหง้าเหล่ากอชาติชั่วที่โกงชาติโกงแผ่นดินก็เออกลายทวิตข้อความผ่านทวิตเตอร์ขายชาติชี้โพรงให้กระรอกต่างชาติได้ย่ำยีประเทศไทยระลอกใหม่ทันที


                    ผมเริ่มเข้าใจอย่างถ่องแท้ในสิ่งที่ “คุณสมชัย กตัญญุตานนท์ หรือ ชัย ราชวัตร” การ์ตูนนิสต์การเมืองชื่อดังในนาม”ผู้ใหญ่มากับทุ่งหมาเมิน”โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คด้วยประโยดนี้ไว้เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2556 “โปรดเข้าใจ กะหรี่ แค่หญิงเร่ขายตัว แต่หญิงคนชั่วเร่ขายชาติ” ภายหลังจากที่ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”เดินทางกลับจากการไปแสดงปาฐกถาอัปยศที่มองโกเลียพูดช่วยเหลือพี่ชายที่เป็นผู้ต้องหาเป็นโจรที่ทุจริตต่อหน้าที่ว่าเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมืองเพื่อหวังว่าจะเป็นข้ออ้างสากลที่จะให้พี่ชายหลบหนีลี้ภัยอยู่ในต่างประเทศได้อย่างสบายและไม่ต้องโดนจับกุมส่งตัวมาดำเนินคดีในประเทศไทยเฉกเช่นเดียวกับที่โจรหน้าเหลี่ยม “ทักษิณ” ที่ชักนำและบงการให้ญาติพี่น้องและพรรคพวกโกงชาติบ้านเมืองสร้างความเสียหายแก่เศรษฐกิจของประเทศชาติอกมาแผ้วถางทางให้น้องสาวหน้าโง่”ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”ได้มีที่ยืนบนโลกนี้ด้วยการโยนบาปให้กระบวนการยุติธรรมไทยสมคบกับ”เผด็จการผู้มีอำนาจในการควบคุมดูแลบริหารประเทศ โดยยกคำกล่าวของ “มงแต็สกีเยอ เคยกล่าวไว้ว่า ไม่มีความเลวร้ายใด ที่จะยิ่งไปกว่าความเลวร้ายที่ได้กระทำโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายหรือในนามของกระบวนการยุติธรรม” เพื่อให้ชาวโลกได้ประณามกระบวนการยุติธรรมไทยว่าไม่มีความเป็นกลางไม่มีความศักดิ์สิทธิ์ ให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ถูกกล่าวหาตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ทั้งที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริง

                    ข้อเท็จจริงของการนำอีโง่”ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เกิดขึ้นภายหลังจากที่พรรคการเมืองฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นำข้อเท็จจริงของการดำเนินนโยบายจำนำข้าวของรัฐบาลนั้นเกิดการทุจริตอย่างมโหฬารจนทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศ และมีการนำเรื่องนี้เข้าให้คณะกรรมการปราบปรามการประพฤติมิชอบในวงราชการ(ป.ป.ช.)ได้พิจารณากลั่นกรองนำตัวคนผิดมาลงโทษ ก่อนที่ประชุมป.ป.ช.มีมติเป็นเอกฉันท์ชี้มูลความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ฐานปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว พร้อมส่งเรื่องให้สมาชิกวุฒิสภาถอดถอนออกจากตำแหน่ง เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 9 พ.ค.2557

                    หลังจากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็ประกาศพิสูจน์ความจริง ประกาศชัดเจนว่าจะไม่หนีข้อกล่าวหานี้ และพิสูจน์ความจริงว่า โครงการรับจำนำข้าวนั้นไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหานแก่รัฐ แถมยังคุโณปการทำให้เกษตรกรไทยมีรายได้เพิ่มมากขึ้นกินดีอยู่ดี เป็นการยกฐานะของเกษตรอย่างที่ไม่เคยมีรัฐบาลไหนดำเนินการมาก่อน

                    “ยิ่งลักษณ์”ประกาศว่า “จะไม่ทิ้งพี่น้องประชาชนคนไทย และพร้อมจะต่อสู้คดีในชั้นศาล”

                    ที่สำคัญการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายนั้นเกิดขึ้นในช่วงสุญญากาศทางการเมือง เมื่อมีประชาชนคนไทยที่ตาสว่างและรับรู้ถึงหายนะของประเทศชาติหากปล่อยให้ “ยิ่งลักษณ์”และพรรคเพื่อไทยบริหารประเทศต่อไปจำนวนหลายล้านคนภายใต้การนำของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และกลุ่มการเมืองที่เรียกตัวเองว่า กปปส.ออกมาชุมนุมตามท้องถนนขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ให้ลาออกจากตำแหน่ง หลังจากพรรคเพื่อไทยที่กุมเสียงข้างมากในสภา ดำเนินการ”ลักหลับประชาชน”ด้วยการผ่านกฎหมายนิรโทษกรรมเหมาเข่ง และการต่อต้านขยายวงมากขึ้นจนนำไปสู่การรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2558

                    แน่นอนการดำเนินการทุกอย่างเกิดขึ้นก่อนการยึดอำนาจของคณะทหารคสช. และหากจะมีผู้มีอำนาจคณะใดคณะหนึ่งสั่งการให้ ป.ป.ช.ลงมติดำเนินคดี “ยิ่งลักษณ์”ก็เป็นรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยที่มีอำนาจสูงสุดเบ็ดเสร็จในขณะนั้น แม้กระทั่งการออกกฎหมายนิรโทษกรรมเหมาเข่งในเวลา 3 นาฬิกายามวิกาลที่ไม่ใช่เวลาทำงานปกติ

                    ขณะเดียวกันนายวิชา มหาคุณ 1 ในกรรมการป.ป.ช.ก็ออกมายืนยันว่า การเข้ามาปกครองประเทศของคณะคสช.ที่มี พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.พร้อมผู้นำเหล่าทัพและคณะก็ไม่ได้เข้ามาสั่งการหรือดำเนินการให้ป.ป.ช.ดำเนินการกับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตรด้วย

                    ตลอดระยะเวลา 3 ปีของการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย “ยิ่งลักษณ์”เข้าสู่ระบบสู่ขั้นตอนในระบบไต่สวนอย่างเต็มที่ มีการโต้แย้งข้อกล่าวหามีการสืบพยานโจทก์และจำเลยจนแล้วเสร็จจนมีการแถลงปิดคดีทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลยจนหมดจนสิ้น รอเพียงคำวินิจฉัยองค์คณะผู้พิพากษาเท่านั้นว่าจะพิพากษาอย่างไร

                    ไม่มีใครทราบว่าองค์คณะผู้พิพากษาทั้ง 9 คน มีความเห็นส่วนตนและความเห็นโดยรวมอย่างไร ยิ่งลักษณ์ จะผิดตามข้อกล่าวหามีการพิจารณาโทษ หรือไม่มีความผิดยกฟ้อง ยุติการดำเนินคดี

                    แน่นอนครับ!! ไม่มีใครรู้ เพราะ ยิ่งลักษณ์ชิงเอาตัวรอดด้วยการหนีซมซานออกนอกประเทศไปเสียก่อน และศาลก็นัดอ่านคำพิพากษาคดีใหม่ในวันที่ 27 กันยายน 2560ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าฝ่ายความมั่นคงรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีความสามารถในการนำตัวจำเลยมาฟังคำพิพากษาหรือไม่

                    ทว่าล่าสุดมีข่าวจากคนสนิทของ”ยิ่งลักษณ์”ว่าที่ต้องหนีเพราะระแคะระคายว่าศาลจะพิพากษาลงโทษหนัก นั่นหมายความว่าเป็นซีกของยิ่งลักษณ์ ชินวัตรเองที่สามารถแทรกแซงจนสามารถล่วงรู้ถึงคำพิพากษาโทษของตนเองได้ อย่างนี้เล่าจะบอกว่าฝ่ายเผด็จการใช้อำนาจแทรกแซงให้เอาผิด”ยิ่งลักษณ์”จะถูกหรือ

                    พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ ทรงพระราชทานพระบรมราโชวาทเกี่ยวกับเรื่องการทุจริตคอรัปชั่นแก่บัณฑิตที่จบการศึกษาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ ๑๒ กรกฏาคม 2522ความตอนหนึ่งว่า “...คนที่ไม่มีความสุจริต คนที่ไม่มีความ มั่นคง ชอบแต่มักง่ายไม่มีวันจะสร้างสรรค์ประโยชน์ส่วนรวมที่สำคัญอันใดได้ ผู้ที่มีความสุจริตและความมุ่งมั่นเท่านั้น จึงจะทำงานสำคัญยิ่งใหญ่ที่เป็นคุณ เป็นประโยชน์แท้จริงได้สำเร็จ..."

                    สังคมไทยก็ไม่ควรลืมคำกล่าวของเซอร์ วิลเลี่ยม ดรัมมอนด์ ผู้ว่าการนิคมของอังกฤษ ที่ว่า “คนไม่ยอมใช้เหตุผลเป็นคนดังทุรัง คนไม่สามารถใช้เหตุผลเป็นคนโง่ และคนไม่กล้าใช้เหตุผลเป็นทาส”

                    ผมเคยเขียนถึงสาแหรกของโจรหน้าเหลี่ยม”ทักษิณ ชินวัตร”ในคอลัมน์ไม้หน้าสาม หนังสือพิมพ์แนวหน้าและในคอลัมน์ไม้หน้าสามในคอลัมน์ออนไลน์เวปไซด์นสพ.แนวหน้า “WWW.naewna.com เมื่อราวปลายปี 2557

                    วันนี้จะตอกย้ำให้ทราบอีกครั้ง เพื่อให้ทราบว่า ทำไมพี่น้องสองศรี “ทักษิณและยิ่งลักษณ์” ถึงจงใจประณามและไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมประเทศไทย

                    ต้นตระกูล “ชินวัตร" นั้นเริ่มต้นจาก “นายเส็ง แซ่คู" ที่เหมือนคนจีนทั่วไปในสมัยนั้น ที่ทิ้งถิ่นฐานเดิมอพยพจากสาธารณรัฐประชาชนมาอยู่ใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารบนแผ่นดินไทยเมื่อประมาณปี พ.ศ.2403 โดยมาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่จังหวัด จันทบุรี ทำหน้าที่เป็น “นายอากรบ่อนเบี้ย”สร้างฐานะให้ครอบครัว ซึ่งบ่อนเบี้ยก็คือ การเล่นกำตัด กำถั่วหรือกำถั่วโปและไพ่งา เป็นต้น

                    ต่อมา ง่วนเส็ง แซ่คู   เป็นบุตรนายเช้าหรือ (ชาวจีน) ที่เป็น “หัวหน้าอั้งยี่ “คณะงี่เฮ็ง”บ้านบางกะจะ อำเภอพลอยแหวน เมืองจันทบุรี”ในยุคที่ถูกฝรั่งยึดครองเป็นหลักประกันให้สยามจ่ายค่าตอบแทนกรณี รศ.112 ต่อมาถูกทางการจับกุมขังคุกที่จังหวัดตราด โดยผู้พิพากษาคดีนี้คือ "หลวงวิพิธพจนาการ(แจ่ม สูตะบุตร์)"

                    กระทั่งนายง่วนเส็ง พ้นโทษและย้ายกลับมาอยู่ที่ จว.จันทบุรี เมื่อทราบว่าหลวงวิพิธฯ อดีตผู้พิพากษาที่ทำตัดสินให้ตนเองติดคุกมาประจำตำแหน่งที่จันทบุรี จึงได้ส่งคนไปลอบทำร้ายหลวงวิพิธฯเพื่อเป็นการแก้แค้น ซึ่งต่อมานายง่วนเส็งฯก็ถูกจับกุมอีกครั้ง และถูกพิพากษาตัดสินให้จำคุกอีกครั้ง โดยคราวนี้ส่งตัวเข้ามาคุมขังใน กรุงเทพมหานคร

                    เรื่องราวทั้งหมดนี้ได้ปรากฏหลักฐานใน “จดหมายเหตุความทรงจำสมัยฝรั่งเศสยึดจันทบุรี ตั้งแต่พ.ศ.2436-2447” เขียนโดย หลวงสาครคชเขต (ประทวน สาคริกานนท์)”ว่า
“นายง่วนเส็ง" เป็นพ่อ "นายชุนเชียง" ซึ่งอพยพมาจาก จว.จันทบุรี แล้วไปตั้งถิ่นฐานที่ จว.เชียงใหม่ แล้วเปลี่ยนชื่อ-นามสกุลเป็น "นายบุญเลิศ ชินวัตร" ซึ่งนายบุญเลิศก็คือพ่อของ “ทักษิณ ชินวัต” คิดเองก็แล้วกัน ตระกูลนี้ทำอะไรให้แผ่นดินไทยบ้าง

                    เชื้อไม่ทิ้งแถว แนวไม่ทิ้งตระกูล

                    หรือจะเรียกง่ายๆว่า “เชื้อชั่วไม่เคยตาย”

เรื่องนี้ยังไม่ตลกไม่น่าสนใจเท่ากับเรื่องที่ว่า หลวงวิพิธพจนการ (แจ่ม สูตะบุตร) ผู้เป็นคุณตาของ พ.ญ.สดใส เวชชาชีวะ (สกุลเดิม สูตะบุตร) มารดาของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นั่นเอง

                    หลวงสาครคชเขต เขียนไว้ว่า เมื่อฝรั่งเศสเข้าไปตั้งอยู่ที่จังหวัดจันทบุรีระหว่างพ.ศ.2438-2439 (ร.ศ.114-115) ก็เกิดมี “สมาคมอั้งยี่”ขึ้น 2 คณะ คณะหนึ่งใช้สมนามสมญาว่า “งี่ฮก” สำนักตั้งอยู่ที่ตำบลวัดใหม่ อำเภอเมืองจันทบุรีแห่งหนึ่งมี “นายอำภณ วิเศษประสิทธิ์” บุตรพระประสิทธิ์พลรักษ์ กรมการพิเศษเป็นหัวหน้า (หลวงสาครฯคงจะใส่นามสกุลที่เกิดขึ้นภายหลังเข้าในบันทึกไปเลยไม่ได้ใช้เฉพาะชื่อตนตามยุคสมัย อีกทั้งชื่อจังหวัดก็เรียกแบบยุคหลังไม่ได้เรียกว่าเมืองจันทบุรีอันเป็นเชื่อก่อนตั้งมณฑลเทศาภิบาล—บัณรส) อีกคณะหนึ่งมีนามสมญาว่า “งี่เฮ็ง” สำนักงานตั้งอยู่ที่ตำบลบางกะจะ อำเภอพลอยแหวน จังหวัดจันทบุรีแห่งหนึ่ง มีนายง่วนเส็ง บุตรนายเช้า (ชาติจีน) เป็นหัวหน้าสมาคมอั้งยี่

                    ทั้งสองคณะนี้ไม่มีความสามัคคีปรองดองกัน ต่างหมู่ต่างคณะได้ถืออำนาจในพวกเหล่าของตนคุมสมัครพรรคพวกทำร้ายซึ่งกันและกันอยู่เป็นเนื่องนิตย์บรรดาประชาชนคนใดไม่เข้าในคณะใดพวกอั้งยี่ก็เที่ยวกรรโชกขู่เข็ญทำร้ายประชาชนพลเมืองโดยพลการอยู่เนืองๆ บางครั้งคุมสมัครพรรคพวกเที่ยวปล้นแย่งชิงทรัพย์สินพลเมืองก็มี นอกจากนี้ความยังปรากฏว่าบรรดาพวกพ่อค้าแม่ค้าที่อยู่ในท้องที่อำเภอพลอยแหวนซึ่งเคยน้ำสินค้ามาจำหน่ายขายให้แก่พลเมืองทางท้องที่อำเภอเมืองแล้ว พวกคณะอั้งยี่ทางฝ่ายคณะงี่เฮ็งก็ประกาศห้ามปราม

                    และความเดือดร้อนทั้งนี้ไม่ได้มีแต่พลเมืองฝ่ายเดียวเลยพลอยทำให้กองทหารฝรั่งเศสก็มีส่วนได้รับความเดือดร้อนด้วยเหมือนกัน กล่าวคือกองทหารฝรั่งเศสก็ต้องอาศัยสินค้าจากพ่อค้าแม่ค้าทางเขตอำเภอพลอยแหวนเหมือนกันเมื่อความเดือดร้อนของพลเมืองตลอดจนกองทหารฝรั่งเศสไม่ได้รับความสะดวกเช่นนี้แล้ว

                    ก็มาขอร้องให้ทางบ้านเมืองจัดการปราบปรามแต่เวลานั้นทางฝ่ายบ้านเมืองก็ไม่มีกำลังพาหนะ ตำรวจหรือพลตระเวนอย่างใดที่จะทำการระงับปราบปรามอั้งยี่ให้เป็นที่เรียบร้อยได้ จึงนับว่ายุคนั้นที่จันทบุรีแม้แต่ตามถนนตลาดประชาชนพลเมืองก็มีความหวาดเกรงภัยของคณะอั้งยี่อยู่ถ้วนหน้า

                    ทางฝ่ายบ้านเมืองจึงได้ปรึกษาทำความตกลงกับกองทหารฝรั่งเศสผลที่สุดฝ่ายกองทหารฝรั่งเศสจัดกำลังทหารฝรั่งเศสมอบให้แก่ทางบ้านเมืองทำการปราบปรามจับกุมอั้งยี่ทั้งสองคณะนี้โดยความร่วมมือกับพนักงานฝ่ายบ้านเมืองออกเที่ยวสืบจับตามตำบลต่างๆ มีตำบลบางกะจะ ตำบลวัดใหม่และที่แห่งอื่นๆ เป็นต้น เจ้าพนักงานฝ่ายไทยที่ควบคุมทหารฝรั่งเศสและพลเมืองออกไปสืบจับพวกอั้งยี่นั้นคือท่านพระยาเดชานุชิตเป็นหัวหน้า หลวงพรหมเสนากับหลวงศรีรองเมืองเป็นผู้ช่วยทำการจับกุมอั้งยี่ทั้งสองคณะได้พรรคพวกและหัวหน้าสำคัญหลายคนมีนายอำภณและนายง่วนเส็งเป็นต้น แล้วจัดการนำตัวส่งไปกรุงเทพฯ ต่อมาปรากฏว่าหัวหน้ากับพรรคพวกถูกรับพระราชอาญาจองจำกักขังไว้หลายๆ ปี ตั้งแต่นั้นมาสมาคมอั้งยี่ก็แตกหมู่แตกคณะควบคุมกันไม่ติดและไม่มีสมาคมใดที่คิดตั้งคณะอั้งยี่ขึ้นมาอีก นับว่าเหตุการณ์เรื่องอั้งยี่เป็นปกติเรียบร้อยมาจนบัดนี้

                    นอกจากความเรื่องอั้งยี่ที่กล่าวไปแล้วบันทึกจดหมายเหตุของหลวงสาครคชเขต หน้า 203 ยังได้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่จีน ง่วนเส็ง ไปทำร้ายร่างกายผู้พิพากษาบาดเจ็บ โดยเหตุการณ์ตอนนี้เป็นช่วงที่ฝรั่งเศสมอบเมืองจันทบุรีคืนแก่สยามในพ.ศ.2447 หลังจากยึดไว้นานถึง 11 ปีแต่ก็ยังไม่ไปไหนกำลังทหารที่ถอนจากจันทบุรีก็ไปยึดเมืองตราดไว้ต่อ ฝรั่งเศสยึดเมืองตราดนาน 3 ปีจนที่สุดสยามต้องแลกตราดและเกาะกูด กลับคืนมาโดยตัดเฉือนที่ฝั่งขวาแม่น้ำโขงด้านตรงข้ามหลวงพระบางอันเป็นแขวงไชยะบุรีในปัจจุบันรวมทั้งเสียมราฐ ศรีโสภณ พระตะบองในเขมรให้ไป
      
                    เหตุการณ์ตอนที่ฝรั่งย้ายไปยึดเมืองตราดจึงมีข้าราชการไทยที่โยกย้ายกลับมา บ้างก็สมัครใจอยู่ที่เดิมหลวงสาครคชเขตได้กล่าวถึงผู้พิพากษาท่านหนึ่งที่เกี่ยวข้องเป็นคู่กรณีกับจีนง่วนเส็ง ความว่า

                    “มีข้าราชการบางคนสมัครคงอยู่ในจังหวัดตราดก็มีบ้างดังเช่น “หลวงวิพิธพจนการ” ผู้พิพากษาศาลคนหนึ่งเป็นผู้มีเคหสถานบ้านเรือนแลเรือกสวนไร่นาอยู่มากจะละทิ้งฐานเดิมไปก็รู้สึกเสียดายจึงคงอยู่ที่จังหวัดตราดต่อไปชั่วคราวต่อมาภายหลังหลวงวิพิธพจนการเห็นว่าการอยู่กับฝรั่งเศสจะไม่เป็นผลดีต่อไปแล้วจึงได้อพยพย้ายครอบครัวมาตั้งอยู่ที่บ้านตลาดขวาง จังหวัดจันทบุรี กอปรกับเวลานั้นอำเภอขลุงได้ยกขึ้นเป็นจังหวัดแลขาดตัวผู้พิพากษาอยู่ “พระยานครไภยพิเฉท” ซึ่งเป็นอธิบดีผู้พิพากษาเห็นเป็นโอกาสดีจึงได้ขออนุญาตกระทรวงยุติธรรมให้หลวงวิพิธฯเป็นผู้พิพากษาศาลเมืองขลุงบุรีตั้งแต่นั้นมา

                    ระหว่างที่หลวงวิพิธฯ พักอยู่ที่จังหวัดจันทบุรีก่อนยังไม่ได้รับตำแหน่งผู้พิพากษาศาลเมืองขลุงนั้น ได้ถูกนายง่วนเส็ง (เชิงอรรถของหลวงสาครระบุว่า คือคนๆเดียวกันกับที่ปรากฏเรื่องอั้งยี่) หัวหน้าอั้งยี่คณะงี่เฮ็ง ให้พรรคพวกทำร้ายร่างกายบาดเจ็บ ทั้งนี้ปรากฏว่านายง่วนเส็งมีความเจ็บแค้นหลวงวิพิธฯ ตั้งแต่ครั้งเป็นผู้พิพากษาศาลจังหวัดตราดก่อนสมัยฝรั่งเศสปกครองได้ตัดสินคดีความจำคุกพวกอั้งยี่คณะของเขา การที่หลวงวิพิธฯ ถูกพรรคพวกนายง่วนเส็งทำร้ายครั้งนั้นผลที่สุดการสืบสวนจับกุมค้นร้ายไม่ได้ทั้งไม่มีหลักฐานอะไรด้วย ตกลงว่าหลวงวิพิธฯถูกทำร้ายเปล่า

                    เหตุเพราะลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น

                    จึงไม่แปลกที่จะเกิดเหตุนารีหนีคุก

วรพจน์ แสนประเสริฐ

 

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
15:16 น. 'อมรินทร์ทีวี'สร้างปรากฏการณ์ใหม่กับคอนเสิร์ตรวมแฟนด้อม'PRIDE FLOWER MUSIC'
15:13 น. 'ภูมิธรรม'ไม่รู้เรือดำน้ำไทย เตรียมยกให้กัมพูชา หากยกเลิก รับ'ทูตจีน'จี้ขอคำตอบหลายรอบ
15:12 น. ‘กระทรวง อว.-สอวช.’เปิดโครงการ TNA ฉบับที่ 2 ดันเทคโนโลยีสู้วิกฤตภูมิอากาศ
15:07 น. ‘พ.ต.อ.(พิเศษ) ชัยรัตน์ สายอุบล’นรต.14 ถึงแก่กรรม บำเพ็ญกุศลวัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน
15:06 น. โลกปั่นป่วน! 'พายุสุริยะ'ถล่มหนักสุดในรอบปี
ดูทั้งหมด
'El Clásico2025' เมื่อเก้าอี้ดนตรีเริ่มบรรเลง
เช็คผลที่นี่!!! 'เลือกตั้งเทศบาล'ส่วนใหญ่แชมป์เก่าคว้าชัย
เช็คผลเลือกตั้งเทศบาลบุรีรัมย์ ‘บิ๊กเนม’พาเหรดยึดเก้าอี้นายกเทศมนตรี
นายกสมาคมทนาย ชี้'ทักษิณ'รักษาตัวชั้น 14 เจ้าตัวถูกจำคุกตามหมายศาลเเล้ว
ล้มช้าง! เปิดผลเลือกตั้งเทศบาล‘อุดรธานี’แชมป์เก่าร่วงระนาว จิตอาสาซิวชัยที่‘บ้านดุง’
ดูทั้งหมด
การตรวจหาคราบแคลเซียมในหลอดเลือดหัวใจและความหมายของ calcium score
คุกรออยู่ถ้า‘สมศักดิ์ เทพสุทิน’วีโต้
อดีต รมต.คลังแนะว่าอย่าก้มหัวให้สหรัฐหากรัฐบาลอยู่ถึงวันเจรจา
‘สวนกระแสลิซ่าสู่ต้นธารแห่งบรรพชน’
ขยายฐาน....ภาษีมูลค่าเพิ่ม
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เหี้ยมเกิน! ‘ไอ้บิน’รับเพิ่มฆ่าหนุ่มสติไม่ดีศพ4ฝังดิน เผยอดีตเคยฆ่ามาแล้ว4ศพ

'ภูมิธรรม'ไม่รู้เรือดำน้ำไทย เตรียมยกให้กัมพูชา หากยกเลิก รับ'ทูตจีน'จี้ขอคำตอบหลายรอบ

'ชูศักดิ์'ย้ำ ประชุมครม.อังคารหน้ารู้ใครคุม'ดีเอสไอ'แทน'ทวี'

โลกปั่นป่วน! 'พายุสุริยะ'ถล่มหนักสุดในรอบปี

ทอ.พร้อมป้องน่านฟ้าไทย ชี้ K-8 เมียนมาเข้าใกล้เขตแดนไทย ไม่มีพฤติกรรมรุกราน

ยก 7 เหตุผล'ทักษิณ' ต้องกลับไปรับโทษก่อน 1 ปี และรอการรับอภัยโทษครั้งใหม่

  • Breaking News
  • \'อมรินทร์ทีวี\'สร้างปรากฏการณ์ใหม่กับคอนเสิร์ตรวมแฟนด้อม\'PRIDE FLOWER MUSIC\' 'อมรินทร์ทีวี'สร้างปรากฏการณ์ใหม่กับคอนเสิร์ตรวมแฟนด้อม'PRIDE FLOWER MUSIC'
  • \'ภูมิธรรม\'ไม่รู้เรือดำน้ำไทย เตรียมยกให้กัมพูชา หากยกเลิก รับ\'ทูตจีน\'จี้ขอคำตอบหลายรอบ 'ภูมิธรรม'ไม่รู้เรือดำน้ำไทย เตรียมยกให้กัมพูชา หากยกเลิก รับ'ทูตจีน'จี้ขอคำตอบหลายรอบ
  • ‘กระทรวง อว.-สอวช.’เปิดโครงการ TNA ฉบับที่ 2 ดันเทคโนโลยีสู้วิกฤตภูมิอากาศ ‘กระทรวง อว.-สอวช.’เปิดโครงการ TNA ฉบับที่ 2 ดันเทคโนโลยีสู้วิกฤตภูมิอากาศ
  • ‘พ.ต.อ.(พิเศษ) ชัยรัตน์ สายอุบล’นรต.14 ถึงแก่กรรม บำเพ็ญกุศลวัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน ‘พ.ต.อ.(พิเศษ) ชัยรัตน์ สายอุบล’นรต.14 ถึงแก่กรรม บำเพ็ญกุศลวัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน
  • โลกปั่นป่วน! \'พายุสุริยะ\'ถล่มหนักสุดในรอบปี โลกปั่นป่วน! 'พายุสุริยะ'ถล่มหนักสุดในรอบปี
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

จริยธรรมนักการเมือง

จริยธรรมนักการเมือง

27 ก.ย. 2562

จิตสำนึกให้เช่า

จิตสำนึกให้เช่า

11 ส.ค. 2562

มารยาทกับกาลเทศะ รู้จักไหมช่อ!!

มารยาทกับกาลเทศะ รู้จักไหมช่อ!!

5 ก.ค. 2562

มาร์คผู้อหังการ์ไม่พายเรือให้โจรนั่ง

มาร์คผู้อหังการ์ไม่พายเรือให้โจรนั่ง

6 มิ.ย. 2562

Animal Farm=เดรัจฉานการเมือง

Animal Farm=เดรัจฉานการเมือง

31 พ.ค. 2562

พฤษภาทมิฬตายเจ็บเป็นเบือสุดท้ายวันนี้มายืนที่จุดเดิม

พฤษภาทมิฬตายเจ็บเป็นเบือสุดท้ายวันนี้มายืนที่จุดเดิม

17 พ.ค. 2562

ขอดเกล็ดไพร่หมื่นล้าน “ธนาทร อบาเนล”

ขอดเกล็ดไพร่หมื่นล้าน “ธนาทร อบาเนล”

12 เม.ย. 2562

ถ่มน้ำลายรดฟ้า#ตลกอ่ะ #แบบนี้ก็ได้เหรอ

ถ่มน้ำลายรดฟ้า#ตลกอ่ะ #แบบนี้ก็ได้เหรอ

29 มี.ค. 2562

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved