สุสานของฟาโรห์  หรือ สุสานของบรรดาญาติของฟาโรห์ และ ข้าราชบริพารชั้นสูงของฟาโรห์  มักจะถูกพวกโจรปล้นสมบัติ บุกเข้าไปขนเอาสมบัติมีค่าที่ฝังอยู่ในห้องเก็บศพออกไปตั้งแต่ยุคโบราณกาลแล้ว

หรือ  อาจจะเรียกได้ว่า  ถูกปล้นไปหลังจากฝังศพไปแทบจะทันที

(ที่เห็นคานเป็นรูปสามเหลี่ยมข้างบน  คือทางเข้าพีระมิดอย่างเป็นทางการ  แต่ตรงจุดที่ต่ำลงมา และมีผู้คนยืนอยู่มากๆนั้นก็คือ  ทางเข้าที่พวกโจรปล้นสมบัติเป็นคนขุดเข้าไปจนสามารถเข้าถึงห้องเก็บพระศพได้)

ใครที่เคยไปชมพีระมิดที่เมืองกีซ่ามาแล้ว  ก็คงจะเห็นว่า  มีประตูทางเข้าพีระมิด อยู่สองทางด้วยกัน  ประตูใหญ่ที่อยู่ข้างบนเป็นประตูที่สถาปนิกของฟาโรห์ คูฟู เป็นผู้สร้างเอาไว้ 

แต่อีกประตูซึ่งอยู่ต่ำลงมา  เป็นประตูที่เกิดขึ้นจากพวกปล้นสมบัติเป็นผู้ขุดขึ้น  และสามารถเข้าไปถึงสุสานของฟาโรห์ได้ในที่สุด

ปัจจุบัน  ทางการอียิปต์เลือกที่จะใช้ทางที่โจรขุดสำหรับเป็นทางเข้าของผู้ที่สนใจจะเข้าไปชมภายในพีระมิด   

หลังจากนั้น  ทรัพย์สมบัติที่ถูกฝังภายในสุสานก็ถูกนำออกมาขายให้แก่คนต่างชาติ  โดยเฉพาะชาวตะวันตกที่ซื้อไปเป็นจำนวนมาก   ตามที่ไปปรากฏตามพิพิธภัณฑ์ต่างๆในยุโรปนั่นแหละ    เพราะในสมัยก่อน  อียิปต์ยังไม่มีกฎหมายห้ามการซื้อขายวัตถุโบราณกัน 

ด้วยเหตุนี้  ตระกูลเก่าแก่ของอียิปต์หลายต่อหลายตระกูล   จึงมีปูมหลังที่ร่ำรวยมาจากการค้าขายวัตถุโบราณกัน 

(ลุงอิบราฮิม เพื่อนของผมในเมมฟิส)

เมื่อปีที่แล้ว  ผมได้พบกับ ลุงอิบราฮิม ซึ่งเปิดร้านขายของที่ระลึกในเมืองโบราณเมมฟิส  ไม่ทราบว่าแกเกิดชอบใจอะไรผม  อยู่ๆก็เอากระดาษหนังสือพิมพ์ห่อเล็กๆห่อหนึ่งมายัดใส่มือผม   แล้วบอกว่า   ให้ผมเป็นที่ระลึก 

เมื่อเปิดออกดู  เป็นเหรียญที่เหมือนเหรียญโบราณ  ประมาณว่าคงจะเป็นเหรียญแบบยุคโรมันกระมัง   ก็เลยถามแกว่า  ราคาเท่าไหร่  กะว่าจะให้เงินแก   แต่แกก็ไม่ยอมรับ

(เหรียญที่ลุงอิบราฮิม มอบให้ผมในตอนที่พบกันครั้งแรก)

แกบอกผมว่า  DOCTOR (แกเรียกผมว่า ด๊อกเตอร์)  YOU ARE GOOD MAN  

อาจจะเป็นไปได้ว่า  หลานชายของแกซึ่งเป็นไกด์ให้ผม  คงจะไปเล่าอะไรบางอย่างให้แกฟัง  แกจึงเรียกผมแบบนี้   

เมื่อแกไม่ยอมรับเงิน  ผมก็ก็เลยต้องเอาน้ำมัน แป๊ะฮวยอิ๊ว  ไปฝากแกในทริปถัดไป   เพราะชาวอียิปต์จะชอบน้ำมันยี่ห้อนี้มากทีเดียว   เพราะว่ากันว่า  ช่วยรักษาโรคได้หลายโรค  เช่น  ปวดกระดูก  กล้ามเนื้อ และ คัดจมูก

ผมจะต้องเดินทางไปอียิปต์อีกครั้งระหว่างวันที่ 1 – 10 พฤศจิกายน นี้   ก็จะต้องเอาน้ำมันนี้ไปฝากแกอีก    

ท่านที่สนใจจะเดินทางเจาะลึกอียิปต์กับผม ระหว่างวันที่ 1 – 10 พฤศจิกายน  หรือ ในครั้งต่อไป  ระหว่างวันที่ 6 – 15 ธันวาคม สอบถามรายละเอียดได้ที่ 02 651 6900 หรือ  088 578 6666 หรือ ID Line 14092498 ครับ

เพื่อนชาวอียิปต์ของผมบอกว่า  แม้ว่าลุงอิบราฮิมจะแต่งตัวปอนๆแบบนี้   แต่แกมีฐานะร่ำรวยมาก  เพราะตระกูลของแกก็คือ อัลฟาเอ็ด ตระกูลเดียวกับอดีตเจ้าของห้าง”แฮร์รอด” ในอังกฤษ  แต่ไม่มีความเกี่ยวพันกันในรุ่นปัจจุบันนี้  

ตระกูลของอิบราฮิม มีถิ่นที่อยู่อาศัยในบริเวณใกล้ๆกับพีระมิดแห่งกีซ่า  ซึ่งว่ากันว่า  พื้นที่แถบนี้มีทรัพย์สมบัติของยุคอียิปต์โบราณจำนวนมากฝั่งอยู่ใต้ดิน 

ขุมทรัพย์จำนวนมาก ยังถูกฝังอยู่ใต้บ้านเรือนจำนวนมากเพื่อรอการค้นพบ 

มีข่าวอยู่เสมอๆว่า   เจ้าของบ้านจำนวนมาก ที่ค้นพบขุมทรัพย์โบราณภายใต้พื้นบ้านของตัวเอง  และได้นำเอาสมบัติเหล่านั้นไปขายสร้างความร่ำรวยอย่างมหาศาล 

คนเหล่านี้ มักมีบั้นปลายที่ไม่ค่อยสวยงามนัก 

เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้  ฟังดูแล้วไม่รู้ว่าควรจะจัดเป็นประเภทคำสาปฟาโรห์  หรือ เรื่องสยองขวัญธรรมดา  หรือ  เรื่องแห่งกฎธรรมชาติดี

มีครอบครัวหนึ่งอาศัยอยู่ในเขตเมืองกีซ่า  วันดีคืนร้าย   ก็ได้รู้มาว่า  ลึกลงไปดินใต้บ้านของตัวเองมีทรัพย์สมบัติของอียิปต์โบราณฝังอยู่  

โดยปกติ  ชาวอียิปต์จะอาศัยอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวใหญ่  ทั้งพ่อแม่  ปู่ย่าตายาย  ลูกชาย ลูกสะใภ้  และ หลานๆ  จึงมักจะสร้างบ้านเป็นอาคารหลายชั้น  แล้วแบ่งพักกันคนละชั้น

พอสมาชิกในครอบครัวนี้รู้ว่า  มีสมบัติฝังอยู่ใต้ตัวบ้าน   ความโลภก็เริ่มทำงาน  บรรดาลูกๆที่อยู่ในวัยหนุ่มต้องการจะให้ขุด  แต่ผู้สูงอายุ  เช่น พ่อแม่  บอกว่า  อย่าไปยุ่งกับสมบัติเหล่านี้เลย   เพราะมีเจ้าของ   และเป็นของแผ่นดิน

ฝ่ายที่ต้องการจะให้ขุดจึงแอบขุด แอบฝันถึงอนาคตที่มั่งคั่งของตนเอง 

บ้านทั้งหลังพังลงมา  สมาชิกที่ขุดค้นสมบัติตายเรียบ  รวมทั้งสมาชิกคนอื่นๆที่อยู่ในบ้านด้วย

เรื่องนี้ก็แล้วแต่จะตีความ   บางคนบอกว่า  เนื่องจากขุดไปโดยไม่มีความรู้เรื่องโครงสร้างของบ้าน  จึงทำให้บ้านพัง  บางคนบอกว่า  เพราะคำสาปของเจ้าของสมบัติที่ยังหวงแหนสมบัติของตัวเอง

สัปดาห์หน้า  ผมจะถึงไคลแม็กซ์ เหรียญของอเล็กซานเดอร์มหาราช  และรูปสลักของเทพเจ้าที่ผมได้รับมาจากลุงอิบราฮิมครับ  

น่าตื่นเต้นดีครับ