ภัตตาคารญี่ปุ่นกำลังอยู่ในยุคที่ได้รับความนิยมสูงสุด หอการค้าของญี่ปุ่นประเมินว่ามีร้านอาหารญี่ปุ่นใหญ่น้อยรวมทุกประเภท ประมาณ 5,000 แห่ง ในกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ร้านนั่งกินสบายๆ ราคาไม่แพง เอาใจวัยรุ่น จนถึงร้านและโรงแรมระดับ 6 ดาว เช่น ร้านราเมน ปิ้งย่าง เทมปุระ ซูชิ-ซาชิมิ บุฟเฟ่ต์ ร้านสไตล์ Izakaya และ Omakase ที่ได้รับความนิยมและเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ส่วนมากจะใช้วัตถุดิบนำเข้าสดๆ อาทิตย์ละมากกว่า 2 รอบ
“TORA SUSHI” (โทระ ซูชิ) เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นขนาดใหญ่ เมื่อเข้ามาภายในร้านจะสัมผัสได้กับบรรยากาศร้านที่โปร่งโล่งสบาย เพราะกรุกระจกใสบานใหญ่รอบร้าน ให้ความรู้สึกชวนนั่งกินอาหารแบบสบายๆ มีโต๊ะนั่งให้เลือกนั่งตามชอบใจหลายโซน อย่างโซนเคาน์เตอร์ซูชิบาร์ได้นั่งกินอาหารไปพร้อมกับความเพลิดเพลินที่ได้เห็นเชฟปรุงอาหารให้ได้ชมแบบใกล้ชิด หรือถ้าต้องการโต๊ะนั่งที่มีความเป็นส่วนตัวก็มีห้องวีไอพีบริการ 2 ห้อง
ซูชิ (ญี่ปุ่น: 寿司 sushi )
ซูชิ หมายถึง การรวมกันระหว่างปลากับข้าว ซูชิมีวิวัฒนาการมาตั้งแต่หลายร้อยปีมาแล้วเพื่อต้องการถนอมอาหารของคนญี่ปุ่น ในปัจจุบันเป็นอาหารญี่ปุ่นที่นิยมจนกลายเป็นอาหารสากล ดังนั้นซูชิมักจะหมายถึงข้าวปั้นที่มีหน้ามีส่วนประกอบของซูชิเมชิ (寿司飯 ข้าวผสมน้ำส้มสายชู) สำหรับกินคู่กับปลา เนื้อ หรือของคาวชนิดต่างๆ มีหน้าแบบต่างๆ ให้เลือก หน้าที่นิยมมักได้แก่ อาหารทะเล ผัก ไข่ เห็ด เนื้อ ที่นำมาใช้อาจจะเป็นเนื้อดิบหรือเนื้อที่ผ่านกระบวนการปรุงแล้ว สำหรับในนานาประเทศ ซูชิส่วนใหญ่มักป้ายวาซาบิบนข้าวเพิ่มความอร่อยมากยิ่งขึ้น
ปลาเงินทอดกับถั่วแระต้ม
เมื่อได้โต๊ะที่นั่ง ก่อนอื่นจะอภินันทนาการด้วยถั่วแระญี่ปุ่นและปลาเงินทอดกรอบคนละถ้วย สำหรับเรียกน้ำย่อย
สลัดปลาเงิน
สำหรับเมนูจานแรกที่สั่งกันทุกโต๊ะ สลัดปลาเงิน เป็นสลัดชามใหญ่ ใช้ผักไฮโดรโปนิกส์ปลอดสารพิษหลายชนิดที่มาจากฟาร์มผักของทางร้าน แม้จะปลอดสารพิษแล้วแต่ยังมีการล้างถึง 5 น้ำ น้ำสุดท้ายถึงเด็ดล้างเป็นใบๆ เพราะทางร้านให้ความสำคัญเรื่องความสะอาดเป็นอันดับแรกพอๆ กับรสชาติอาหารที่ต้องอร่อยที่สุด ทีเด็ดทีขาดมีปลาเงินคัดขนาดคลุกแป้งทอดกรอบ สดใหม่ ราดน้ำสลัดสูตรพิเศษของร้าน ให้เลือกได้ว่าชอบรสเปรี้ยวหรือรสหวาน พร้อมกับโรยหน้าด้วยไข่กุ้งและมายองเนส พนักงานจะช่วยคลุกเคล้าให้ทั่วชาม สลัดผักสดกรอบกินเข้ากัน กับปลาเงินทอด กลมกลืนกันดีกับรสกลมกล่อมจากน้ำสลัด ทำให้กินได้เพลิดเพลินปาก
Taraba Saikyo Miso Sauce
ปูทาราบะว่ายน้ำ
“ปูทาราบะ” คือ ปูอลาสก้าที่อาศัยอยู่ในน่านน้ำของญี่ปุ่น และจะถูกจับทางตอนเหนือของญี่ปุ่น บางคนเรียก “ปูยักษ์ฮอกไกโด” อาจจะเรียกได้ว่าเนื้อดีที่สุดในโลกมนุษย์หากเทียบกับปูจากแหล่งต่างๆ ทางร้านจะคัดขนาดน้ำหนักตัวละ 2.6 กิโลกรัมขึ้นไป ประการสำคัญปูที่นี่ส่งมาแบบว่ายน้ำตัวเป็นๆ โชว์ในตู้ปลาหน้าร้านจำนวนหลายตัว เพื่อบอกว่าไม่ได้เพียงแค่โชว์ แต่มีผู้ยอมควักกระเป๋าสั่งกิน ด้วยความติดใจในเนื้อปูทาราบะที่ก้ามใหญ่เป็นแท่งยาว เนื้อปูเป็นยวงเคี้ยวแล้วแทบไม่อยากจะกลืนเพราะความสาแก่ใจในรสชาติที่เชฟปรุงแบบย่างกับซอสมิโซะชนิดพิเศษ แล้วนำมานึ่งพร้อมกับน้ำซุปสูตรพิเศษ ใส่เห็ดหอม เห็ดชิเมจิ เห็ดเข็มทอง ต้นหอมญี่ปุ่น เสิร์ฟมาร้อนๆ ซึ่งปูจะแกะมาให้เรียบร้อยทำให้กินสะดวก กินปูเนื้อนุ่มแน่นสดหวาน จิ้มเพิ่มรสชาติด้วยน้ำจิ้มพอนสึญี่ปุ่นหอมๆ หรือเพิ่มรสชาติจัดจ้านด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซ่บ
อวดความสดของหัวแซลมอน
หัวปลาแซลมอนนึ่งซีอิ๊ว
แอบชะโงกข้ามเคาน์เตอร์เพื่อดูการแล่ปลาของเชฟ (หน้าเคาน์เตอร์มีเชฟประมาณ 10 คน หลังครัวแยกเป็นประเภทอาหารอีก 10 คน) เห็นความวาววับของหนังปลาและตาปลาที่ใส เนื้อปลาสีสวย ให้ความรู้สึกมั่นใจในความสดสะอาดของปลา อีกทั้งหัวปลาที่จะเอามาต้มซีอิ๊วนั้นก็เจตนาหั่นติดเนื้อพร้อมติดพุงปลามาทั้งยวงโดยไม่หวงเนื้อ ต้มกับซีอิ๊วญี่ปุ่นและหอมกลิ่นเหล้ามิริน เห็ดชิเมจิ หัวไชเท้าและแครอทหั่นแว่นเคี่ยวจนนุ่ม ฉ่ำรสชาติน้ำซีอิ๊วกำลังพอดี สำคัญที่สุดคือน้ำสต๊อกที่ทางร้านมีกระบวนการแยกปรุงด้วยสูตรพิเศษ เมื่อตักเนื้อปลากินพร้อมน้ำซุปซีอิ๊วยิ่งรู้สึกกลอมกล่อมไม่หวานจัดหรือเค็มจัดเหมือนที่ต้มกันทั่วไป
Sashimi Set C
Set ปลาดิบขนาดกลาง ในขบวน 5 Set แต่ความอลังการกับคุณภาพนั้นเหมือนจัดให้ซามูไรกิน ใช้สุดยอดของเนื้อปลาโอโทโร่ ชูโทโร่ มากูโระอาคามิ ชิมาอาจิ มาได ฮามาจิ คันปาจิ ฮิราเมะ หอยเชลล์โฮตาเตะ ปลาแซลมอน หอยปีกนก และกุ้งหวานตัวใหญ่ เพียงเข้าปากก็รับรู้ได้ถึงความละเมียดอันแตกต่างจากกุ้งอ่าวไทย ปลาแซลมอนนอร์เวย์ ให้ไข่ปลาแซลมอนใส่ถ้วยใบน้อยมาล้นถ้วย แถมมีสาหร่ายให้ห่อกินด้วย ทุกอย่างแล่มาแบบชิ้นใหญ่หนาแต่ละชิ้นต้องกิน 2 คำ จัดวางมาบนน้ำแข็งให้ความสดตลอดเวลา ได้ลิ้มรสชาติของซาซิมิที่ต้องยอมรับถึงความสมบูรณ์แบบ ขนาดที่ต้องเอาไปฝันถึง
หอยนางรมชุบแป้งทอด (Kaki Furai)
หอยนางรมตัวโตบวมเป่งบ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์จากแหล่งน้ำประเทศฝรั่งเศส ปรุงโดยการชุบแป้งขนมปังป่นทอดจนผิวกรอบ หากแต่ตัวหอยภายในยังสัมผัสได้ถึงความนุ่มละไมของเนื้อหอย ป้ายมัสตาร์ดฝรั่งเศสหน่อยหนึ่ง บีบน้ำมะนาวเลมอนบนตัวหอยเติมรสชาติกำซาบสะดุดต่อมรับรส
Unagi Spring Roll
ปลาไหลทะเลม้วนห่อข้าวสอดไส้ด้วยเนื้อปลาแซลมอนและอะโวคาโด เคียงด้วยหอมต้นใหญ่จากเชียงใหม่ซอยเป็นเส้นละเอียดทอดเป็นสีทองจำนวนมาก ทุกองค์ประกอบของจานนี้จึงขับรสกันอย่างคมคาย
Kobe steak
เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกว่าเนื้อวัวของชาวญี่ปุ่นเป็นเนื้อที่ยอดเยี่ยมที่สุด ชนิดที่ไม่มีชาติใดเทียม แม้กระทั่งเนื้อแองกัสของสก็อตแลนด์ เนื้อชาโรเลย์ของฝรั่งเศส นิวยอร์กคัทจากอเมริกา เนื้อฮินดูบราซิล ฯลฯ โดยนิสัยอันละเอียดและความพิถีพิถันของชาวญี่ปุ่น จึงได้เพียรคัดสรรผสมพันธุ์วัวจากที่ต่างๆ อีกทั้งการเลี้ยงดูอย่างทะนุถนอม เช่นให้กินเบียร์ นวดเฟ้นวัวทุกตัว จนได้เนื้อเกรดเยี่ยม ซึ่งยังแบ่งออกอีกหลายเกรด แม้กระทั่งความประณีตในการย่างให้สุกขนาดเข้าปากแทบละลาย อร่อยจนขายบ้านมากินยังไม่เสียดาย
Hotate Salmon Cheese Roll
ดูหน้าตาอาจจะคลับคล้ายคลับคลากับร้านญี่ปุ่นทั่วๆ ไป แต่ต่างกันด้วยคุณภาพเนื้อปลา กับหอยเชลล์ฮอกไกโดตัวโต ให้ความนุ่มอันสมดุลกับเนื้อปลา เข้าปากเน้นเต็มปากเต็มคำจนไม่อยากอ้าปากเสวนากับผู้ร่วมโต๊ะ
Omakase Course A
ก่อนอื่นใดให้เริ่มด้วยช็อตแรก เป็นส่วนผสมที่ลงตัวของเส้นอินานิวะ ไข่ออนเซ็น ไข่ปลาแซลมอน และไข่หอยเม่น ปรุงด้วยซอสสูตรพิเศษของทางร้าน นัยว่าเพื่อปรับเหงือกและลิ้นให้รับรู้ถึงความวิลิศมาหลาของข้าวปั้น 9 แบบ เรียงลำดับมาในจานใหญ่ ใช้ข้าวญี่ปุ่นปรุงรสสูตรพิเศษของที่นี่ ถึงจะมาแบบคำโตแต่เน้นปลาชิ้นโตมากกว่าเน้นข้าว ทุกอย่างเวลากินต้องอ้าปากคำโต กินแล้วสัมผัสได้ถึงข้าวญี่ปุ่นเม็ดนุ่มเข้ากันดีกับปลาดิบสดหวาน และหน้าต่างๆ หลากหลายรสชาติเยี่ยม ข้าวปั้นทุกคำปรุงรสมาเสร็จสรรพโดยไม่ต้องจิ้มอะไรทั้งสิ้น ยกเว้นคำสุดท้ายที่ให้ราดน้ำจิ้มซีฟู้ดก่อน บนจานประดับมาด้วยใบไผ่ญี่ปุ่นที่ย่างมาจนหอม
ทีมงานย้ำว่าให้กินตามลำดับเพื่อความละมุนละไม
หลังจากแก้วช็อตแล้ว ให้ตามด้วยซูชิคำแรก เป็นหอยเชลล์เมืองเซนได Topping ด้วยหอยเม่น
คำที่ 2 ส่วนหลังของทูน่า หรืออาตามิ Topping ด้วยสาหร่ายสูตรพิเศษของทางร้าน
คำที่ 3 ปลาทูญี่ปุ่น หรือชิมาอาอิ เนื้อจะกรอบ อร่อยมาก ราดซอสของทางร้าน
คำที่ 4 ส่วนกลางของปลาทูน่า หรือชูโทโร ของทางร้านใช้ Blue Fin Tuna
คำที่ 5 ปลาหางเหลือง หรือคันปาจิ ตระกูลเดียวกับฮามาจิแต่ตัวเล็กกว่า และกรอบกว่า
คำที่ 6 ส่วนท้องของปลาทูน่า หรือโอโทโร่ Topping ด้วยวาซาบิดอง
คำที่ 7 ปลาตาเดียว เนื้อนุ่ม อร่อย รับประทานคู่กับหัวไชเท้าและแตง
คำที่ 8 ปลาหมึกกล้วย เนื้อกรุบกรอบ Topping ด้วยผิวส้ม Yuzu
คำที่ 9 แซลมอนห่อ Foie gras ราดด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดแล้วค่อยรับประทาน
Kyoto Matcha Pudding
มีพุดดิ้ง 3 ชนิดให้เลือก ได้แก่ พุดดิ้งชาเขียว พุดดิ้งนมฮอกไกโด และพุดดิ้งคัสตาร์ต ทุกถ้วยเสียบใบไผ่ที่บรรจงเจียนจนได้ขนาดเดียวกัน เนื้อพุดดิ้งนุ่มเบาบางละเอียดและหอมจนไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรให้ดีไปกว่านี้
ไดฟุกุ
สตรอเบอร์รี่สดลูกโตจากอเมริกาและเกาหลีตามแต่ฤดูกาล ขนาดเท่าไข่เป็ด (ขนาดในภาพคือ Size L มีใหญ่ที่สุดถึง 2XL) หุ้มด้วยถั่วแดงญี่ปุ่นรสชาติดีไม่หวานกินไป และชั้นนอกเป็นแป้งเนื้อนุ่มสูตรพิเศษของทางร้าน ผ่าสี่คงความหอมและกรอบของเนื้อสตรอเบอร์รี่ได้รสที่ทำให้หัวใจละลาย
ข้าวญี่ปุ่น
ข้าวสวยถ้วยนี้แค่เห็นก็ให้รู้สึกหิวข้าวขึ้นมาติดหมัด จากเม็ดข้าวสวยหุงแล้วขึ้นเงางามสมบูรณ์แทบทุกเม็ด ใช้ข้าวสารนำเข้าจากญี่ปุ่นเพราะข้าวญี่ปุ่นที่ปลูกแถวภาคเหนือเรา ความหอมอร่อยสู้กันไม่ได้
เมล่อนญี่ปุ่น
สั่งเม็ดพันธุ์แตงญี่ปุ่นนำเข้ามาปลูกแบบกางมุ้งคุมอุณหภูมิและความชื้นพอเหมาะ ประกอบกับชาเขียวเย็นแก้วเล็กๆ ให้ดื่มหอมหวานชื่นใจ ได้ความสดชื่นแบบเต็มพิกัด เนื้อแตงฝานหนาแบบคนใจถึง ทั้งที่ยังมีส่วนเนื้อติดเปลือกเหลืออีกหนาพอควร เกือบลืมบอกว่าเมล่อนจานนี้เป็นอภินันทนาการให้กับลูกค้าก่อนกลับบ้าน แม้จะเป็นจานอภินันทนาการก็คัดสรรมัทฉะและเมล่อนที่ดีที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้ลืมเลือนร้าน Tora นี้
เรื่องอาหารทางร้านนำเสนออาหารญี่ปุ่นแบบพรีเมี่ยม ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพซึ่งเน้นเรื่องความสดใหม่ของวัตถุดิบเป็นสำคัญ นำมาสร้างสรรค์เป็นเมนูอาหารญี่ปุ่นสูตรเฉพาะ ที่เจ้าของร้านและเชฟผู้ที่สั่งสมประสบการณ์เป็นเชฟทั้งในและต่างประเทศมากว่า 30 ปี ได้คิดค้นขึ้นให้ถูกปากนักกินชาวไทย มีเมนูญี่ปุ่นอันหลากหลายกว่า 100 เมนู และยังมีเมนูใหม่ๆ หมุนเวียนมาอยู่เสมอ ให้เหล่านักกินได้อิ่มเอมกับอาหารญี่ปุ่นแบบเต็มที่ โดยทางร้านมีคอนเซปต์ที่ว่า “อาหารของเราจะคุยกับคุณเอง”
“TORA SUSHI” (โทระ ซูชิ)
143 หมู่ 4 ถนนราชพฤกษ์ ตำบลบางกร่าง อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี
เปิดวันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 11.00 - 15.00 น. และ 17.00 - 22.00 น.
วันเสาร์ - วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
เปิดเวลา 11.00 - 22.00 น.
โทร. 0-2422-5889, 09-3662-6552
การเดินทางจากถนนบรมราชชนนีให้เลี้ยวเข้าถนนราชพฤกษ์ มุ่งหน้ามาวงเวียนพระราม 5 (วงเวียนราชพฤกษ์) วิ่งตรงเลยวงเวียนมา แล้วให้ชิดซ้ายไว้ จะเห็นร้าน TORA SUSHI อยู่ริมถนนทางซ้ายมือ มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน มีที่จอดรถบริการด้านในร้าน
ดูรายละเอียดได้ที่ www.facebook.com/torasushithailand
ถ่ายภาพโดย แพรไพลิน ศุกลรัตนเมธี
ขอบคุณภาพบางส่วนและแผนที่ จากร้าน Tora Sushi
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี