จังหวัดชลบุรีเมืองชายทะเลฝั่งตะวันออก มีสภาพภูมิศาสตร์เอื้ออำนวยต่อการขนส่งทางทะเล กล่าวคือมีชายฝั่งที่มีแนวยาวระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร หลายแห่งเป็นชายหาดที่งดงาม บางแห่งเหมาะจะเป็นท่าจอดเรือ ทำให้ชายฝั่งทะเลของจังหวัดมีท่าเทียบเรือประมงและท่าเทียบเรือสินค้าสำคัญมาตั้งแต่สมัยโบราณที่ยังใช้เรือสำเภาเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเล จึงมีเรือสำเภาจากนานาประเทศมาแวะพักส่งผู้โดยสาร เช่น ที่ศรีราชา เกาะสีชัง ท่าเรือพลี เป็นต้น โดยเฉพาะสำเภาจีนจากเมืองซัวเถาที่เรียก “สำเภาหัวแดง” จะแวะส่งชาวจีนมาที่เมืองจันทบุรีและที่นี่ก่อนจะทยอยส่งไปตามรายท่าเข้าปากน้ำจนสุดทางที่ท่าเรือราชวงศ์ ชลบุรี จึงเป็นจังหวัดที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของศาลเจ้าของสมาคมจีนต่างๆ และตระกูลแซ่ทั้งหลาย อีกทั้งคนจีนยังถือว่าเป็นแหล่งที่มีชัยภูมิดีที่อุดมสมบูรณ์ด้วยน้ำท่าป่าเขาอย่างที่เรียกว่า “ฮวงจุ้ย” ต้องโฉลกตามตำราจีน ดังจะเห็นได้จากชุมชนจีนใหญ่ ตั้งแต่ในอำเภอเมืองจนถึงอำเภอพนัสนิคม อำเภอบ้านบึง อำเภอพานทองฯลฯ ที่มีอยู่ซอกแซกทั่วไป ยังเก็บรักษาวัฒนธรรมทั้งหลายติดมาจากบ้านที่เมืองจีน
เป็ดท่าเกวียน
ย่านร้านอาหารเก่าแก่ใจกลางเมืองชลฯ เรียกว่า "ท่าเกวียน" อยู่ระหว่างวัดใหญ่อินทราราม กับวัดต้นสน สมัยโบราณไม่มีรถยนต์สำหรับการเดินทางและขนส่ง คนจากต่างอำเภอทั้งหลายเมื่อขนพืชผลเกษตรมาค้าขายในเมืองใช้เกวียนเทียมควายกันเป็นปรกติ นัดกันใช้บริเวณนี้เป็นท่าขนถ่ายสินค้า จึงเรียกกันว่า “ท่าเกวียน”
เนื่องจากระยะห่างจากต่างอำเภอสมัยที่การคมนาคมยังไม่สะดวก ต้องผ่านป่าผ่านดงไปกลับวันเดียวไม่ทัน ชาวไร่ชาวนี่ขนส่งสินค้าจึงต้องมากินอยู่พักแรมที่ท่า จึงเกิดเป็น “ย่านท่าเกวียน” จึงมีร้านอาหารเก่าแก่ของเมืองชลฯ ตั้งแต่นั้นมา แม้ว่าจะเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลาผ่านมามากกว่าร้อยปี บริเวณนี้ยังหลงเหลือเค้าโครงมาจนทุกวันนี้
อาหารย่านท่าเกวียน ขึ้นชื่อลือชามาก ผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาต้องแวะชิม “เป็ดพะโล้”
ที่แยกท่าเกวียน อาจกล่าวได้ว่าใครเป็นนักนิยมเป็ดพะโล้ จะต้องรู้จัก “เป็ดพะโล้ท่าเกวียน” ซึ่งไม่มีแหล่งใดจะสู้ความอร่อยของเป็ดพะโล้ที่นี่ได้ เป็นสูตรแต้จิ๋วโบร่ำโบราณซึ่งแม้แต่ชาวจีนในประเทศจีนเองยังยอมรับในฝีมือการพะโล้ของชาวแต้จิ๋ว ทั้งเป็ดพะโล้ ห่านพะโล้ ขาหมู หัวหมูพะโล้ เป็นสูตรแท้ ไม่ใช่ตำรับแท้ของคนแต้จิ๋วเหมือนที่ท่าเกวียน อันประกอบด้วยเครื่องเทศสมุนไพรมากกว่า 10 ชนิด ที่พอหาได้จากซินแสร้านยาจีนทั่วไป
ร้าน “ลิ้มย่งเฮง” นับเป็นร้านแรกๆ ที่ริเริ่มทำเป็ดพะโล้ จนต่อมาก็เลยเป็นคำเรียกหากันว่า “เป็ดพะโล้ท่าเกวียน” จนมีร้านเปิดแข่งอีก 5-6 เจ้า จนคึกคักเพื่อบริการคนจีนให้คนกองเกวียน นักกินเพียงสัมผัสสีของหนังเป็ดก็พอจะอนุมานความอร่อยได้ด้วยสายตา เมื่อได้ชิมชิ้นแรกก็บอกได้เป็นกลิ่นรสของพะโล้ที่ถวิลหา กลิ่นเครื่องเทศกลบกลิ่นสาบของเป็ดสนิท เนื้อเป็ดนุ่มหนังไม่เหนียวกำลังเคี้ยว แตกต่างจากเป็ดพะโล้ของถิ่นอื่นๆ ที่ดัดแปลงไปจนผิดเพี้ยนไปจากตำรับดั้งเดิม
อะไหล่เป็ดพะโล้
ขาเป็ด ปีกเป็ด คอเป็ด ลิ้นเป็ด ต้มน้ำพะโล้รวมกันจนเปื่อยนุ่มเพียงแค่ใช้ลิ้นดุนก็หลุดจากกระดูก หลายคนนิยมกินมากกว่าเนื้อล้วนโดยเฉพาะคอดื่ม
ปลาคกฉ่าย
ปลาคกต้มผักกาดดอง
ภาพปลาตะเพียนทะเล จากวิกิพีเดีย
เป็นปลาที่บางคนไม่เคยได้ยินชื่อ อันที่จริงคือปลาตะเพียนน้ำเค็ม บางคนอาจเรียกว่า ปลาโคก หรือ เรียกว่า ปลามักคา (CHACUNDA GIZZARD-SHAD)
“ปลาคก” เป็นปลาทะเลลักษณะคล้ายปลาตะเพียนน้ำจืด มีก้างเยอะ เนื้อน้อย แต่เวลาเอามาต้มเค็มเนื้อก้างเปื่อยยุ่ยกินอร่อย เพราะเนื้อมันละเอียด กระดูกเคี้ยวกินได้หมดทั้งตัว ต้มนานเป็นวันพร้อมกับผักกาดดองเปรี้ยว นักกินที่รู้จริงก็จะกินเป็ดพะโล้ คู่กับปลาโขลกต้มผักกาดดอง อันเป็นเมนูหลักขาดไม่ได้ ปลานี้เป็นที่รู้จักเฉพาะบางท้องถิ่นที่อยู่ติดทะเล แต่มีวิธีการปรุงที่แตกต่างกันไป เช่น ถ้าเป็นปลาสดจากทะเลก็จะขอดเกล็ดผ่าพุงทำความสะอาดแล้วหั่นชิ้น แล่เนื้อติดก้างฝอยเป็นชิ้นเล็กแล้วพล่ากินดินตามประสา บ้างก็หมักเกลือแดดเดียวทอด เป็นต้น
แกงจืดเต้าหู้อ่อนหมูสับ
บางทีก็เรียกว่า “แกงจืดหมูบะช่อกับเต้าหู้อ่อน” อีกหนึ่งรายการเด่นที่ไม่มีขายทั่วไป อาจจะเป็นเพราะทำง่ายเกินไป แต่ทำให้อร่อยต้องมีฝีมือในการเคี่ยวน้ำแกงให้ใสเหมือนตาตั๊กแตน เมื่อต้มกับเต้าหู้อ่อนชิ้นโตอุ่นร้อนตลอดวัน เนื้อเต้าหู้อ่อนจะนุ่มกว่าเต้ากระดานโดยทั่วไปละม้ายกับเต้าหู้ของเต้าฮวยมากกว่า เมื่อลูกค้าสั่ง จะแบ่งตักเต้าหู้จากกะละมังกับน้ำแกงหมูสับแถมฉีกสาหร่ายทะเลใส่ หวานหอมชื่นใจ จนแทบจะเป็นน้ำแกงที่ขาดไม่ได้หากจะกินกับเป็ดพะโล้
ปูม้านึ่ง
เมื่อไม่กี่ปีก่อน ปูม้าเป็นปูที่ชุกชุมในทะเลพบในน่านน้ำไทยราว 19 ชนิด มากกว่าปูทะเลที่เติบโตในแหล่งทะเลโคลน สำหรับปูม้าในประเทศไทยสามารถพบได้แทบทุกจังหวัดทั้งฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทย เหมือนกับสัตว์น้ำทุกชนิดที่ปัจจุบันตัวเล็กลงเพราะจับกินทั้งตัวเล็กตัวน้อยอย่างไม่บันยะบันยัง ราคาปูเป็นว่ายน้ำอยู่ที่กิโลกรัมละไม่เกิน 150 บาท แต่เมื่อไม่นานมานี้ราคาสูงขึ้นถึงกิโลกรัมละ 650 บาท ปูนึ่งของร้านนี้ขายเป็นตัว นึ่งแล้วแกะให้ตัวละ 160-180 บาท ตามแต่ขนาด เป็นปูสดใหม่ทุกวัน
ไข่ยัดไส้น้ำแดง
ในช่วงเช้ายังมีกับข้าวอีกหลายสิบรายการให้เลือก ทุกวันจะมีกับข้าวประจำวันแบบเดิมที่ถูกปากลูกค้า เช่น แกงจืดเต้าหู้โบราณหมูสับ ผัดกะเพรา ต้มจับฉ่าย น้ำพริกกะปิปลาทู ไข่ยัดไส้ ปลาอินทรีทอด สมาชิกในร้านแต่ละคนก็จะรับหน้าที่ทำกับข้าวแต่ละอย่างตามความถนัด เช่น ลูกสาวป้าจะเป็นคนตำน้ำพริก น้องอีกคนทำไข่ยัดไส้ เป็นต้น รสชาติอาหารจึงไม่เปลี่ยน บางวันถ้าได้วัตถุดิบพิเศษก็อาจจะมีรายการอื่นมาเปลี่ยนบ้าง ประการสำคัญทางร้านมีคติในการค้าขายว่า ต้องซื่อสัตย์กับลูกค้า เป็นกันเอง และขายราคาไม่แพง ที่สำคัญอาหารต้องอร่อย รสชาติได้มาตรฐานในทุกวัน ไม่ใช่บางวันอร่อย อีกวันไม่อร่อย จะทำให้เสียลูกค้าได้
“ร้านลิ้มย่งเฮง ข้าวเป็ดท่าเกวียน”
5 ถนนอัคนิวาต ตำบลบางปลาสร้อย อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี 20000
โทร: 038-283-395
(อยู่ข้างโรงพยาบาลจุฬารัตน์ชลเวช)
เปิดทุกวัน 07:00-19:00 น.
ภาพถ่าย มีรัติ รัตติสุวรรณ
แผนที่ มูฮัมหมัด พันธ์โพธิ์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี